มติศาลรธน.รับคำร้อง 4 มาตรา กฎหมาย “เลือกสว.” ตีตกมาตรการคุ้มครอง

มติศาลรธน.รับคำร้อง 4 มาตรา กฎหมาย "เลือกสว." ตีตกมาตรการคุ้มครอง

มติศาลรธน.รับคำร้อง 4 มาตรา กฎหมาย “เลือกสว.” ตีตกมาตรการคุ้มครอง  Top News รายงาน 

เลือกสว.

ข่าวที่น่าสนใจ

 

5 มิ.ย.2567 ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา กรณีศาลปกครองกลางส่งคำโต้แย้งผู้ฟ้องคดี น.ส.วิเตือน งามปลั่ง ในคดีหมายเลขดำที่ 899/2567 เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มาตรา 212 ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่

รวมถึงกรณีศาลปกครองกลางส่งคำโต้แย้งของผู้ฟ้องคดีทั้งห้า ซึ่งเป็นผู้สมัคร สว. ในคดีหมายเลขดำที่ 812/2567 เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มาตรา 212 ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา โดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เนื้อหาคำโต้แย้งของผู้ฟ้องคดีทั้งสองคดีเป็นกรณีโต้แย้งว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 บทบัญญัติดังกล่าวเป็นบทบัญญัติ ที่ศาลปกครองกลาง จะใช้บังคับแก่คดี เมื่อผู้ฟ้องคดีทั้งสองคดีโต้แย้งพร้อมด้วยเหตุผลว่าบทบัญญัติดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินี้ กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 วรรคหนึ่ง

ศาลรัฐธรรมนูญ มีโดยมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 มีคำสั่งรับคำร้องทั้งสองไว้พิจารณาวินิจฉัยเฉพาะประเด็นว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 วรรคหนึ่ง (3) มาตรา 41 วรรคหนึ่ง (3) และมาตรา 42 วรรคหนึ่ง (3) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่ โดยรวมการพิจารณาทั้งสองเรื่องเข้าด้วยกัน และเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นเป็นหนังสือตามประเด็นที่ ศาลกำหนด และจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 5 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

 

ทั้งนี้ผู้ฟ้องคดียื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งมาตรการหรือวิธีการใดๆ เป็นการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่ายังไม่ปรากฏว่าจะเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การแก้ไขเยียวยาในภายหลัง อีกทั้งหากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เห็นว่าจะเกิดความเสียหายดังกล่าว ย่อมมีหน้าที่และอำนาจที่จะดำเนินการได้ตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่กำหนดมาตรการหรือวิธีการใด ๆ เป็นการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สืบสวนสัตหีบ ดับดาวโจร รวบ “ไอ้กาญ” เซียนพระกำมะลอ ฉกพระเครื่องพ่อเฒ่าทหารเรือวัย 93 มูลค่าหลายล้าน
"กัน จอมพลัง" ลั่นการเมืองนี่สกปรกจริง ร่ายยาว ซัด "พรรคส้ม" อ้างชื่อลากเอี่ยวการเมือง ทำกระทบจ้างงานช่วยปชช. ไร้ความรับผิดชอบ
“บุ๋ม ปนัดดา” ไม่แฮปปี้ ผู้ใหญ่ระดับประเทศไม่ยืนเคียงข้าง ยืนยันการเชิญ สว.ลงพื้นที่ ไม่ใช่เพื่อความสะใจ
"โฆษกมท." กัมพูชา ออกโรงป้อง "เฉิน จื้อ" เจ้าของ ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป หวัง "สหรัฐฯ-อังกฤษ" ตรวจสอบเอาผิดอย่างเป็นธรรม
“บวรศักดิ์” เปิดใจรับตำแหน่งรบ.อนุทิน ตั้ง 3 เงื่อนไข ย้ำกม.ประชามติ แก้ร่างรธน.ไม่กระทบไทม์ไลน์ 4 เดือน ก่อนยุบสภาฯ
ดร.ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯ คนที่สอง ชี้แจงไม่ได้อยู่ร่วมลงมติแก้รัฐธรรมนูญ เหตุปฏิบัติภารกิจแทนประธานรัฐสภา เข้าเฝ้าฯ พระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​