มองข้ามช็อต! “พท.” ดับ “ก้าวไกล” ระเบิดศึกชิงประธาน “สว.” ชำระแค้นการเมือง ถิ่น “นายใหญ่” อย่ามาแหยม

ศึกนายกอบจ.เชียงใหม่วัดบารมี “ทักษิณ” จะให้ใครมาแหยมไม่ได้!

ยิ่งใกล้วันระเบิดศึกเลือกตั้งท้องถิ่นในสมรภูมินายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ นายกอบจ.เชียงใหม่ บ้านเกิดของ “ทักษิณ” กองเชียร์เสื้อแดงและด้อมส้มปูเสื่อรอไว้ได้เลย ศึกนี้มันส์หยด จะได้เห็นฉากประเคนหมัดเข่าศอกใส่กันไม่ยั้ง เพราะกฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่นไฟเขียวให้ พรรคการเมืองช่วยหาเสียงได้เต็มที่ เหตุผลสำคัญที่พรรคการเมืองใหญ่ต่างหมายคว้าชัยชนะไม่ใช่เพียงต้องการเข้าไปบริหารงบประมาณหลายพันล้านบาท แต่ต้องการปูทางฐานเสียงตุนไว้เป็นขุมกำลังเพื่อไปสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ในสมัยหน้า หลายสนามจึงร้อนระอุสู้กันดุเดือดเพื่อชิงตำแหน่งนี้

พรรคเพื่อไทยส่ง “พิชัย เลิศพงศ์อดิศร” หรือ “สว.ก๊อง” ที่ชาวบ้านเรียกติดปาก อดีตเป็นสมาชิกวุฒิสภาเชียงใหม่ อดีตประธานสโมสรฟุตบอลเชียงใหม่ เอฟซี ลงสมัครอีกครั้งเพื่อป้องกันเข็มขัดแชมป์ ปะทะหมัดกับ “พันธุ์อาจ ชัยรัตน์” อดีต ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เป็นคนเชียงใหม่โดยกำเนิด จบการศึกษาดี เคยเป็นซีอีโอมีกึ๋น มีวิสัยทัศน์กว้างไกล สามารถนำนวัตกรรมและไอทีที่ตัวเองถนัดมาพัฒนาเมืองเชียงใหม่ได้สบาย ๆ

ไม่ใช่แค่มี “กระสุนดินดำ” จะกำชัยชนะการเลือกตั้งท้องถิ่นได้เหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก แต่ต้องได้ “กระแสพรรค” ด้วยซึ่งกระแสพรรคก้าวไกล ถือว่าเป็นต่อคู่แข่งหลายช่วงตัว เพราะการเลือกตั้ง สส.ปีที่ผ่านมา สามารถปลุกเสกให้ สส.โนเนมเข้าวินได้ในชั่วข้ามคืน แต่ศึกนายกอบจ.เชียงใหม่คราวนี้จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ต้องรอพิสูจน์ เพราะอย่าลืมว่า “กระแส” ไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน แต่หากเทียบกับฐานเสียงการเมือง “บ้านใหญ่” คอยหนุนหลังอยู่ด้วยย่อมกำชัยชนะไปกว่าครึ่ง ดังนั้นการสร้างเครือข่ายการเมืองบ้านใหญ่ในพื้นที่ แม้จะถูกมองว่าล้าหลังไดโนเสาร์เต่าล้านปี ในสายตา “พรรคก้าวไกล” และ “คณะก้าวหน้า” แต่พรรคการเมืองยังให้ความสำคัญกับการเมืองแบบถึงลูกถึงคนเดินเคาะประตูตามบ้านไปงานบุญงานศพหรือการวางขุมกำลังที่เป็นคนของตัวเองไว้ในระดับตำบล หรือ หมู่บ้าน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อสม.ยังคงมีความหมาย

ส่วน “กระแสพรรค” ที่ พรรคเพื่อไทย จะงัดมาใช้เป็นกลยุทธคงหนีไม่พ้นเรตติ้งในตัว “ทักษิณ” ที่ขยับทำอะไรต้องเป็นข่าวดังพลุแตกตลอด เพราะยังคงมีความนิยมจากผลงานในอดีต ยิ่งมีอำนาจรัฐบาลอยู่ในมือเป็นต่อคู่แข่งไปหลายขุม จึงต้องวัดใจคนเชียงใหม่ จะเลือกคนหน้าใหม่ที่มากับกระแส หรือ คนหน้าเก่าที่มีฐานเสียงการเมืองบ้านใหญ่

เช่นเดียวกับ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ลงสมัคร สว.ฟันธงได้เลยว่า เข้าวินชัวร์! มีการมองข้ามช็อตไปถึงขั้นวางตัวเป็น “ประธานวุฒิสภา” เสียด้วยซ้ำ ในทางการเมืองมองเป็นอย่างอื่น ๆ ไม่ได้ว่า การเปิดตัวระดับบิ๊กเนมเบอร์ต้น ๆ ของเพื่อไทย ต้องการส่งซิกข่มขวัญ “ก้าวไกล” ในสนามบ้านเกิดนายใหญ่และนายหญิงที่กำลังระเบิดศึกเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงใหม่ เป็นการเอาคืนที่เคยถูกลูบคมจากการเลือกตั้ง สส.เมื่อปี 2566 “ก้าวไกล” ฮุบไป 7 เก้าอี้ เหลือทิ้งให้ เพื่อไทย ได้ดูต่างหน้าแค่ 2 เก้าอี้เท่านั้น

สนามเลือก “สว.” เชียงใหม่ และสังเวียนชิงเก้าอี้ นายกอบจ.เชียงใหม่ 2 ศึกนี้ขอเอาคืนพรรคก้าวไกล เพราะ “เชียงใหม่” เปรียบได้กับ “เมืองเอก” ของพรรคเพื่อไทยและถิ่นเกิด “นายใหญ่” จะให้ใครมาแหยมไม่ได้!