ยังคงมีคนตกเป็นเหยื่อ โรแมนซ์ สแกม อยู่เรื่อย ๆ แม้ว่าจะมีตัวอย่างของการโดนหลอกให้เห็นอยู่มากมาย ทั้งในประเทศและทั่วโลก ล่าสุด มีกรณีจากเกาหลีใต้ที่ได้รับความสนใจจากสื่อต่างประเทศหลายสำนัก เพราะมีชื่อของมหาเศรษฐีหมื่นล้านอย่าง อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
จอง จี ซุน สตรีชาวเกาหลีใต้ ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของตัวเองว่าตกเป็นเหยื่อโรแมนซ์ สแกม ได้อย่างไร ผ่านรายการแนวเจาะข่าวทางช่อง KBS ออกอากาศเมื่อวันที่ 19 เมษายน โดยเธอใช้นามสมมติ (ข่าวไม่ได้บอกว่าอายุเท่าไหร่) จี ซุน บอกว่า เธอประสบกับเหตุการณ์บางอย่างที่เหมือนกับฝันไปเมื่อ 17 กรกฎาคมปีที่แล้ว เมื่อ อีลอน มัสก์ เพิ่มเธอเป็นเพื่อนบนอินสตาแกรม เธอไม่ได้เชื่อแต่แรก แม้ว่าเป็นแฟนตัวยงของมัสก์หลังจากเคยอ่านประวัติชีวิตของเขา
แต่แล้ว มัสก์ส่งบัตรประชาชน และภาพของเขาขณะทำงานมาให้ พูดถึงลูก ๆ คุยเรื่องนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปทำงานที่เทสลา หรือ สเปซเอ็กซ์ ซึ่งเป็นอีกบริษัทของเขา จอง จี ซุน ถามว่าไปพบประธานาธิบดี ยูน ซ็อก ยอลของเกาหลีใต้มาเมื่อเมษายนที่ผ่านมา เป็นอย่างไรบ้าง อีกฝ่ายก็ตอบว่า ยูนชวนตั้งโรงงานกิกะแฟคทอรี (ผลิตรถไฟฟ้าเทสลา) ในกรุงโซลและที่เกาะเชจู
หญิงเกาหลีใต้คนนี้มาเชื่อจริงๆว่า เป็นมัสก์ เมื่อตอนคุยผ่านวิดีโอคอลล์ มัสก์บอกกับเธอว่า “คุณรู้ใช่ไหม ว่าผมรักคุณ” โดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังคุยกับดีปเฟค ที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ปลอมแปลงหน้าและเสียงของบุคคลแบบเหมือนจริงจนแยกแทบไม่ออก
ต่อมา มิจฉาชีพรายนี้สามารถกล่อมให้เธอโอนเงิน 70 ล้านวอน (ประมาณ 1.9 ล้านบาท ) เข้าบัญชี ธนาคาร โดยอ้างว่าเพื่อนำไปลงทุน มัสก์เวอร์ชั่นเอไอ บอกเธอว่า “ผมดีใจที่แฟนๆร่ำรวยขึ้นเพราะผม” และอยากให้เธอลงทุน เพื่อจะได้ร่ำรวย
ในเกาหลีใต้ ความสูญเสียจาก โรแมนซ์ สแกม เพิ่มขึ้นจาก 370 ล้านวอนในปี 2563 เป็น 5,510 ล้านวอน (หรือประมาณ 148 ล้านบาท ) ในปี 2566 และผลศึกษาโดยมหาวิทยาลัยโคเรีย เผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้พบว่า คดีอาชญากรรมโรแมนซ์ สแกม ช่วงมกราคม-มิถุนายน 2565 ทั้งหมด 280 คดี เหยื่อ 71.4% เป็นผู้หญิง