“ปากีสถาน” อ่วม ฝนถล่มหนัก ดับแล้ว 65 ราย หลังโดนพายุฟ้าผ่า บ้านพังราบ

"ปากีสถาน" อ่วม ฝนถล่มหนัก ดับแล้ว 65 ราย หลังโดนพายุฟ้าผ่า บ้านพังราบ

Top news รายงาน เจ้าหน้าปากีสถานกล่าวว่า จากปริมาณฝนในเดือนเมษายน ที่ตกลงมาเกือบ 2 เท่าของอัตราเฉลี่ยในอดีต ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 65 ราย ในเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพายุ รวมถึงฟ้าผ่า

 

 

ฝนตกหนักระหว่างวันศุกร์ถึงวันจันทร์ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน บ้านเรือนพังทลาย มีรายงานผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่าอย่างน้อย 28 ราย โดย 21 รายเป็นชาวนาที่กำลังเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในเมืองปัญจาบ ส่วนอีก 7 รายเป็นผู้เสียชีวิตในจังหวัดบาโลจิถสถาน ที่ได้รับความเสียหายหนัก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสูงสุดอยู่ที่จังหวัดไคเบอร์ปัคตุนควา ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 32 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 15 ราย และบ้านเรือนมากกว่า 1 พัน 300 หลังได้รับความเสียหาย ซึ่งโฆษกหน่วยงานจัดการภัยพิบัติของจังหวัดให้ข้อมูลว่า สาเหตุของการเสียชีวิตทั้งหมดเกิดจากกำแพงและหลังคาที่พังหล่นทับ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมต้องขึ้นไปหลบภัยบนพื้นที่สูง รวมถึงบนไหล่ทางมอเตอร์เวย์ ด้วยการสร้างเต็นท์ชั่วคราวจากแผ่นพลาสติกและไม้ไผ่ ขณะที่โรงเรียนในจังหวัดบาโลจิสถานถูกสั่งปิดในวันจันทร์และวันอังคาร

ซาฮีร์ อาหมัด บาบาร์ โฆษกกรมอุตุนิยมวิทยาของปากีสถานกล่าวว่า ในเดือนเมษายน เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นรูปแบบปริมาณน้ำฝนที่ผิดปกติอย่างมาก ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 17 เมษายน ประเทศประสบกับระดับปริมาณน้ำฝน ที่เกินค่าเฉลี่ยในอดีตถึงร้อยละ 99 โดยอ้างอิงข้อมูลจากช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

ถึงแม้ในวันอังคารและพุธ พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศฝนได้หยุดตกชั่วคราว แต่คาดว่าจะมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้น ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

 

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ปากีสถานมีความเสี่ยงมากขึ้น ต่อรูปแบบสภาพอากาศที่ไม่สามารถคาดเดาได้ และน่ากังวลอย่างยิ่งถึงฤดูมรสุม ที่จะมาถึงในเดือนกรกฎาคม โดยในฤดูร้อนเมื่อสองปีที่แล้ว พื้นที่หนึ่งในสามของปากีสถานจมอยู่ใต้น้ำ จากฝนมรสุมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งทำให้ผู้คนหลายล้านคนต้องพลัดถิ่น และเกิดความสูญเสียคิดเป็นมูลค่าถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามการคาดการณ์ของธนาคารโลก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"GULF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน
"GILF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน
"เอกนัฏ" ส่งทีมสุดซอย ขยายผล เตรียมส่งดีเอสไอ ฟันเครือข่ายลักลอบฝังกลบขยะพิษในที่ดิน 2 แปลง จ.ฉะเชิงเทรา รวมกว่า 70,000 ตัน
"บิ๊กเล็ก" รับเงื่อนไข ให้ตัวแทนจีน-สหรัฐฯ ร่วมสังเกตการณ์ประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ที่มาเลเซียวันสุดท้าย เฉพาะ 7 ส.ค. ยันไม่กระทบหลักหารือทวิภาคี
มุกดาหาร ชวนเที่ยวชม 'ชั่งทองฟาร์ม' แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและธรรมชาติ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
"กองทัพภาคที่ 2" แจงกรณี "ช่องอานม้า" ยันทหารไทยขับไล่ฝ่ายตรงข้ามรุกล้ำพ้นหมดแล้ว "ทหารกัมพูชา" ลาดตระเวนเฉพาะเขตตัวเอง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​