ข่าวที่น่าสนใจ
ซึ่ง 2 ปีก่อนครอบครัวดังกล่าวตัดสินใจจะขาย คนที่เป็นเจ้ากี้เจ้าการให้ตนไปดูบ้านคือนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้าที่เป็นคนชักชวน โดยทำธุรกรรมการซื้อบ้านสำเร็จไปเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ยังวางแผนว่าบ้านจะเป็นแบบไหน จะทำอะไร ยังตกผลึก คงต้องใช้เวลา อาจจะทำเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ แต่กลางเดือนพฤษภาคมหรือเดือนมิถุนายนน่าจะมีแผนออกมาบอกประชาชน ตอนนี้กำลังรวบรวมความคิดเห็นจากเพื่อนๆ
นายธนาธร กล่าวอีกว่า ตนไม่เคยคิดว่าเลยว่าจะมาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ แต่รู้สึกเสียดาย เพราะในประเทศไทยก็มีบ้านลักษณะคล้ายแบบนี้ เช่น บ้านของโฮจิมินห์ แต่ละประเทศเขาพูดถึงการเชิดชูคนที่ทำประโยชน์ในการสร้างประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพ ในประเทศนั้นๆ พอกลับมาดูในประเทศไทย เราเห็นประวัติศาสตร์ 2475 ลบเลือนไปหรือไม่ อย่างกรณีล่าสุดมันถูกเขียนใหม่ เล่าใหม่ เป็นการช่วงชิงความหมายและคุณค่า เป็นการต่อสู้มิติทางวัฒนธรรม เราจึงรู้สึกว่ามีความจำเป็นที่จะต้องรักษาบ้านหลังนี้ไว้ เพื่อรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์อะไรบางอย่าง ดังนั้นเมื่อไม่มีคนซื้อ พูดภาษาชาวบ้านคือ กูซื้อเองก็ได้วะ โดยซื้อในราคาที่แพงกว่าจะเป็นด้วย เพราะมีคอนโดจะซื้อและเสนอใบราคามาแล้ว แต่ด้วยข้อตกลงกับตระกูลพนมยงค์ที่ต้องขายให้คนไทยก่อน เจ้าของบ้านจึงนำมาเป็นเงื่อนไขต่อรองกับตนว่าราคาต้องมาต่ำกว่านี้ จึงซื้อมาในราคา 1.6 ล้านยูโร หรือ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 63 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
