สำนักข่าว RFA รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมาว่ากระทรวงสาธารณสุขลาวออกมาประกาศเมื่อวันที่ 20 มีนาคมเผยว่า จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อแอนแทรกซ์ที่แขวงจำปาศักดิ์ ทางใต้สุดของลาว พุ่งขึ้นเป็น 3 เท่าในช่วงเวลาเพียง 1 สัปดาห์ จาก 14 คนเป็น 54 คน หลังจากผู้ป่วยไปสัมผัสวัวควายที่ตาย อย่างไรก็ตาม ล่าสุดยังไม่มีรายงานผุ้เสียชีวิต
เจ้าหน้าที่ที่แขวงจำปาสัก ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อบอกกับ RFA ว่าเจ้าหน้าที่จากสำนักงานควบคุมโรคระบาดได้เดินทางไปยังเมืองสุขุมาและจำปาสัก ซึ่งอยู่ใต้สุดของลาวและติดพรมแดนไทยที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อตรวจสอบการแพร่ระบาดของเชื้อแอนแทรกซ์ รวมทั้งรณรงค์ชาวบ้านให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสปศุสัตว์ที่ป่วยและตาย และเตือนผู้ที่สงสัยว่าอาจติดเชื้อให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรับการรักษาโดยทันที
ขณะที่บรรดาร้านอาหารที่แขวงจำปาสักเผยว่าได้รับแนวทางปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่ให้งดขายเนื้อสัตว์เป็นการชั่วคราว โดยให้ขายแต่ปลา
เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคยังเผยว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่มีรายงานวัวที่นครหลวงเวียงจันทน์และแขวงบอริคำไซล้มตายโดยไม่รู้สาเหตุ ขณะนี้ได้ส่งเนื้อเยื่อไปตรวจเพื่อหาสาเหตุแล้ว
แอนแทรกซ์เป็นเชื้อแบคทีเรีย พบมากเนื้อสัตว์และอวัยวะสัตว์ที่ติดเชื้อ ส่วนใหญ่เป็นวัวควายหรือปศุสัตว์ สามารถติดเชื้อได้หลายทาง รวมทั้งการหายใจรับเอาสปอร์เชื้อแบคทีเรีย, การบริโภคเนื้อสัตว์หรือเนื้อวัวควายที่ติดเชื้อ, หรือจากการสัมผัส โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายผ่านผิวที่มีรอยแผล หากติดเชื้อจะมีอาการเกิดแผลพุพอง, เป็นไข้, เจ็บหน้าอก, หายใจติดขัดเหนื่อยหอบ, คลื่นไส้และปวดท่้อง
ปัจจุบันมีผุ้เสียชีวิตจากแอนแทรกซ์ปีละมากกว่า 2 พันคนทั่วโลก ถือว่าไม่ใช่โรคอันตรายรุนแรง หากมีการฉีดวัคซีน