ศาลรับฝากขัง ผกก.โจ้ กับพวก ครั้งที่ 2 ตร. ชี้ โทษสูงจึงค้านประกันตัว

ศาลรับฝากขัง ผกก.โจ้ กับลูกน้อง ครั้งที่ 2 ตร.ค้านประกัน ชี้โทษสูงกลัวยุ่งเหยิงหลักฐาน   

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง  ซ.สีคาม ถ.นครไชยศรี พนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 410/2564 ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 2 พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อายุ 39 ปี หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผกก. สภ.เมืองนครสวรรค์ และ ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา อายุ 55 ปี ตามคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาศาลจังหวัดนครสวรรค์ (แทนศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6) ที่ ฝ.อท. 6-7 /2564 อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนมีกำหนด 12 วันซึ่งจะครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาในวันที่ 7 ก.ย.2564

 

แต่เนื่องจากยังต้องสอบสวนปากคำพยานอีกจำนวน 20ปาก, รอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร, รอผลการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นระหว่างผู้ต้องหาและผู้ตายในที่เกิดเหตุและรอผลการตรวจเปรียบเทียบลายนิ้วมือแฝงระหว่างผู้ต้องหาและผู้ตายในที่เกิดเหตุในที่เกิดเหตุ, รอผลการตรวจพิสูจน์คลิปวิดีโอในสถานที่เกิดเหตุจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จากกองพิสูจน์หลักฐาน, รอผลการไต่สวนในคดีซันสูตรพลิกศพมาประกอบสำนวนการสอบสวน จึงขอศาลอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวนต่อไปอีกมีกำหนด 12 วันนับ แต่วันที่ 8- 19 ก.ย. 2564

 

เนื้อหาในคำร้องฝากขังครั้งนี้ยังระบุว่า ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติเห็นว่า ผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจสังกัด สภ.นครสวรรค์ ท้องที่เกิดเหตุ กระทำความผิดอาญา มีพฤติการณ์ร้ายแรง เป็นคดีอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญเป็นที่สนใจของประชาชน จึงอนุมัติให้โอนสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวจาก สภ.นครสวรรค์ มายังกองบังคับการปราบปราม ซึ่งต่อมาวันที่ 1 ก.ย.2564 พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ขอโอนการฝากขังมายังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และขอโอนตัวผู้ต้องหาจากเรือนจำกลางพิษณุโลกไปคุมขังระหว่างสอบสวนที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6ได้อนุญาตแล้ว ขณะนี้ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรมกรุงเทพมหานคร

 

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐาน ศาลอาญาคดีทุจริตฯพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าเนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นจึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 2 คน อีกทั้งผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังหมดเวลาทำการศาลฯไม่ปรากฎว่ามีญาติหรือทนายความของผู้ต้องหาทั้ง 2 มายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนา ม.ราชภัฏศรีสะเกษ ระบุ ประเทศไทยยังไม่ควรรีบเปิดด่านช่องสะงำ เหตุประชาชนชายแดนยังหวั่นใจเรื่องความมั่นคง
"สม รังสี" ปลุกคนเขมร กล้าลุกฮือต่อสู้ ตระกูลฮุน เลียนแบบ "เนปาลโมเดล" กำจัดรัฐบาลฉ้อฉล
เกิดเพลิงไหม้ร้านทำเบาะ เสียหายหนัก ดับเพลิงช่วยชีวิตแมวรอดหวุดหวิด
โรงเรียน–วัดคู่เมืองโคราช ร้อยสายสัมพันธ์กว่า 90 ปี ปลูกฝังคุณธรรม ควบคู่วิชาการ
"KMA" ชี้แจงหยุดจำหน่ายสินค้า “Multi Face Stick” สี P1 Aurora Pink นานแล้ว หลัง อย.พบสารปรอทเกินค่ามาตรฐาน
จัดครั้งแรกในไทย! 'Forbes Under 30 Summit Asia 2025' รวมพลนักธุรกิจรุ่นใหม่ทั่วเอเชีย 'ธนิศร์-กรวัฒน์ เจียรวนนท์' ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ขับเคลื่อนอนาคตในยุคเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี "Jumpstarting the Future"

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​