“อธิบดีฝนหลวงฯ” สั่งเปิดปฏิบัติการฝนหลวง จ.สงขลา เร่งทำฝนช่วยเหลือเกษตรกร แก้ภัยแล้ง ปัญหา PM 2.5

อธิบดีฝนหลวงฯ สั่งเปิดปฏิบัติการฝนหลวง จ.สงขลา เร่งทำฝนช่วยเหลือเกษตรกร ที่กำลังเริ่มแผนการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้ง

“อธิบดีฝนหลวงฯ” สั่งเปิดปฏิบัติการฝนหลวง จ.สงขลา เร่งทำฝนช่วยเหลือเกษตรกร แก้ภัยแล้ง ปัญหา PM 2.5 – Top News รายงาน

จ.สงขลา

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2567 เวลา 08.30 น. นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายพร้อมเปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสงขลา ณ ห้องประชุมกองบิน 56 สนามบินกองบิน 56 อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายวีรวัฒน์ อังศุพาณิชย์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ และ นายราเชน ศิลปะรายะ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านบริหาร โดยมี นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับ

นอกจากนี้ยังได้มีการประชุมรับฟังแผนและผลการปฏิบัติการของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ และร่วมขึ้นบินสำรวจพื้นที่การเกษตรของจังหวัดสงขลาอีกด้วย นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า ปริมาณฝนรายเดือน และรายปีของประเทศไทย พ.ศ.2567 เปรียบเทียบกับค่าปกติ (พ.ศ.2534-2563) พบว่า ในพื้นที่ภาคใต้ เดือนมีนาคม-เดือนเมษายน มีปริมาณฝนสะสมอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าค่าปกติ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ จึงได้ จัดทำแผนการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้งและแผนบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า โดยจะมีแผนการตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.สุราษฎร์ธานี จ.ชุมพร จ. สงขลา และ จ.กระบี่

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่เพื่อประเมินผลและวางแผนการตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง พบว่าในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2567 ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างมีการขอรับบริการฝนหลวงมากขึ้น จึงได้สั่งการให้ดำเนินการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สงขลา ตั้งแต่ วันที่ 12 มีนาคม 2567 โดยเครื่องบิน CARAVAN จำนวน 2 ลำ (ตั้งแต่ 12 มี.ค. 67) และเครื่องบิน BT จำนวน 1 ลำ (ตั้งแต่ 15 มี.ค. 67) เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงให้ได้ปริมาณน้ำฝนครอบคลุมพื้นที่ที่มีการขอรับบริการอย่างเพียงพอสำหรับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ มีพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จ.สงขลา ตรัง พัทลุง กระบี่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ระนอง ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และ จ.ราชบุรี

นายสุพิศ อธิบดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้นำเฮลิคอปเตอร์ AS350 เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจตักน้ำดับไฟป่าจากเหตุการณ์ไฟไหม้พื้นที่ป่าไม้ “ภูเขาปากเบน” จ.กระบี่ ซึ่งสรุปภารกิจได้ดังนี้

– วันที่ 10 มีนาคม 2567 ปฏิบัติภารกิจ จำนวน 9 เที่ยวบิน ใช้น้ำรวมทั้งหมด 4,500 ลิตร

– วันที่ 11 มีนาคม 2567 ปฏิบัติการบิน จำนวน 18 เที่ยวบิน ใช้น้ำรวมทั้งหมด 9,000 ลิตร

– วันที่ 12 มีนาคม 2567 ปฏิบัติการบิน จำนวน 23 เที่ยวบิน ใช้น้ำรวมทั้งหมด 11,500 ลิตร

จากผลปฏิบัติการไฟได้ดับลงและกลุ่มควันน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้จะมีการติดตามสถานการณ์ไฟป่าและสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิด เพื่อสามารถนำมาปรับแผนการตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรและพี่น้องประชาชนอย่างรวดเร็วต่อไป

    

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เอกสิทธิ์" เผยมาตรฐาน-คุณภาพภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยสำคัญสร้างเชื่อมั่นความปลอดภัย รองรับพิบัติภัยในอนาคต
"รมว.ท่องเที่ยว" ระดมภาครัฐ-เอกชน ถกปัญหาความปลอดภัย ฟื้นภาพลักษณ์เที่ยวไทย หลังเจอกระแสข่าวด้านลบ
นาทีชีวิต! ส่งเฮลิคอปเตอร์ EC-725 ช่วยผู้ป่วยวิกฤต ส่งถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา
วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระกุศล "เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ" วันคล้ายวันประสูติ
"สก.นภาพล" ซัดกระทู้ถาม "กทม." เมื่อไหร่จะจ่ายคืนหนี้ BTS ย้ำดอกเบี้ยเพิ่มวันละ 4.5 ล้าน แฉฟาดรายได้ค่าโดยสาร 3 เดือน กว่า 2 พันล้าน แต่ให้เอกชนแบกภาระวิ่งรถไฟฟ้า
จีนสั่งยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทจากสหรัฐ
"รองผอ." คดีฮั้วประมูล เผย "3 วิศวกร" รับลงชื่อตรวจงานสร้างตึกสตง.จริง เร่งสอบลายมืออีก 7 ราย ยังปฏิเสธ
"นายกฯ" รับมอบเงิน 5 ล้าน มูลนิธิเรนวูด ช่วยผู้ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว
"อดีตผู้พิพากษา" ชี้ตรง ป.ป.ช.-อสส.ไม่ทำหน้าที่โจทก์ เหตุศาลฎีกาฯ ต้องออกโรงไต่สวนเอง "ทักษิณ"ไม่ติดคุกจริงตามคำพิพากษา
ไฟไหม้โรงแรมกลางเมืองที่อินเดียดับ 15 คน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น