“นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยว่าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่า เชื่อว่ารัฐบาลไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก และการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลว่ายังไม่มีผลงาน ก็เนื่องจากขณะนี้งบประมาณ67 ยังไม่ผ่านสภาฯ จึงส่งผลต่อการเดินหน้าโครงการต่างๆในท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นการทำถนน หรือโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำที่ได้ของบประมาณ ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณา เพราะผลกระทบมาจากจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า ทำให้พิจารณางบประมาณล่าช้าและเป็นเหตุให้ใช้งบประมาณล่าช้าออกไปหรือมีระยะเวลาใช้ประมาณ 5 เดือนเท่านั้น ยืนยันว่ารัฐบาลมีผลงาน แม้ฝ่ายตรงข้ามอาจจะมองว่ารัฐบาลไม่มีผลงาน แต่ราคาอ้อย ขึ้นตันละเกือบ 2,000 บาท ราคายางพาราขึ้นกิโลกรัมละ 64 บาท และข้าวก็ขึ้นราคา ส่วนผลงานต่างๆที่เป็นรูปธรรมต้องรองบประมาณผ่านก่อน
“หลายคนสงสัยว่ารัฐบาลไม่มีผลงานนั้นไม่จริง ไม่ว่าราคาพืชผลทางการเกษตร หลายตัวราคาขึ้น แต่หลายตัวก็ยอมรับว่ามีปัญหา ซึ่งนายกรัฐมนตรีพยายามแก้ไขปัญหา และรัฐมนตรีหลายคนก็พยายามทำงาน จึงมั่นใจว่าสามารถชี้แจงได้ ไม่มีอะไรที่เป็นข้อกังวล” ประธานวิปรัฐบาล กล่าว
อดดู “ก้าวไกล” โชว์ฟอร์มรอซักฟอกหลัง “รัฐบาล” ใช้งบปี 67 ค่อยซัดเต็มเหนี่ยว
“นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า จากการหารือของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ได้พิจารณาไทม์ไลน์ของสภาผู้แทนราษฎร และการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติของวุฒิสภาที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ ขณะเดียวกันก็จะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงยประมาณ พ.ศ.2567 วาระ 2 – 3 ทำให้อาจจะยังมีการอภิปรายซักฟอกของฝ่ายค้านในสมัยประชุมนี้ ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายทั่วไปหรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจโอกาสจะมีน้อยมาก เนื่องจากต้องยอมรับว่ารัฐบาลเพิ่งมา ยังไม่ได้ใช้งบประมาณที่ตัวเองเป็นคนจัดทำ
“พูดตามตรงว่า มีงบประมาณที่จะใช้ได้ในเดือน พ.ค.ที่รัฐบาลจัดทำขึ้นมา และปลายเดือน พ.ค.จะมีงบงบประมาณปี 2568 คิดว่านั่นคือจุดเริ่มต้นที่ชัดเจนว่ารัฐบาลจัดสรรงบประมาณที่ตัวเองใช้อำนาจเต็มอย่างไรบ้าง และมีเวลาหนึ่งปีในการจัดทำงบประมาณปี 2568 ว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร ตอนนั้นทุกอย่างค่อนข้างจะชัดเจนมากขึ้น ทั้งการดำเนินนโยบายว่าเป็นไปตามเสียงหรือไม่ เป็นไปตามยุทธศาสตร์หรือวิสัยทัศน์ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบไว้หรือไม่ รวมถึงการใช้งบประมาณที่จะตามมา การทุจริตคอร์รัปชั่นต่างๆ ที่จะต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นต่อไป” ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าว
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ขณะนี้ยังยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะยังไม่มีการเปิดอภิปรายซักฟอกของฝ่ายค้าน ยอมรับว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงนี้เป็นไปได้ยาก ส่วนการอภิปรายทั่วไปฝ่ายค้านหารือกันว่าหากยังไม่มีการใช้งบประมาณ และช่วงเวลาที่รัฐบาลได้ทำงานยังไม่ได้เยอะมากพอ หรือยังไม่มีประเด็นที่ใหญ่ใหญ่มากที่จะเปิดอภิปรายก็อาจจะยังไม่เปิด แต่หากมีประเด็นก็พร้อม อาจจะเป็น 1 – 2 วัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นงานใหญ่ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็จะพิจารณาว่าเหมาะสมที่จะเปิดอภิปรายหรือไม่ เนื่องจากปัญหาในบางประเด็นสามารถใช้เวทีกระทู้ถามสดได้ ซึ่งหากจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจจริงๆ คิดว่าประเด็นการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่ฝ่ายค้านจะต้องตรวจสอบ หากเป็นประเด็น อย่างอื่นเป็นประเด็นการเมืองและใช้โควตาก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
“ในส่วนของพรรคก้าวไกลมองว่าหากเปิดแล้วไม่มีคุณภาพไม่เปิดดีกว่า เราใช้วาระทั่วไปกระทู้สดที่มีอยู่แต่ละสัปดาห์ใช้ก็ได้ และจะใช้เมื่อเหมาะสมและมีเนื้อหาสาระ ที่เป็นประโยชน์จริง” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
