“เรืองไกร” เตรียมยื่นป.ป.ช.สอบ “วิสาร” กล่าวหานายกฯ จ่ายเงิน 5 ล้านให้ส.ส.

เรืองไกร เตรียมยื่นป.ป.ช.พรุ่งนี้ สอบ “วิสาร เตชะธีราวัฒน์” กล่าวหานายกฯ จ่ายเงิน ส.ส. 5 ล้าน ชี้เข้าข่ายผิดมาตรฐานจริยธรรม จี้ทำความจริงให้ปรากฏ ถ้าเป็นเรื่องจริง ป.ป.ช.ต้องชี้มูลนายกฯ และส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ พิจารณา

วันที่ 5 ก.ย. 64  นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ตามที่นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวหาในลักษณะยืนยันข้อเท็จจริงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จ่ายเงินให้ ส.ส. หัวละ 5 ล้านบาท ที่อาคารรัฐสภา ชั้น 3 เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น คำกล่าวหาดังกล่าว พูดถึงการกระทำที่เกิดขึ้นนอกห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร แม้ผู้พูดจะอยู่ในห้องประชุม แต่น่าจะไม่ได้รับความคุ้มครองรัฐธรรมนูญ มาตรา 124 วรรคหนึ่ง เพราะอาจเป็นการพูดใส่ร้ายที่ขัดต่อข้อบังคับการประชุม ข้อ 69 วรรคสอง ตามมาตรฐานทางจริยธรรม ที่ใช้กับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงมีข้อกำหนดไว้หลายข้อ ซึ่งหากมีข้อเท็จจริงตามที่นายวิสาร กล่าวหา เรื่องนี้จะเป็นความผิดทางอาญาตามมาได้ ทั้งตัวนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกกล่าวหาว่าให้เงิน และตัว ส.ส. ที่ถูกกล่าวหาว่ารับเงิน คนละ 5 ล้านบาท

นายเรืองไกร กล่าวว่า เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่ ที่จะพูดโดยไม่รับผิดชอบ โดยอ้างเอกสิทธิ์ หาได้ไม่ เพราะกระทบความน่าเชื่อถือทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงตามมาได้ หากไม่มีการไต่สวนให้ได้ข้อเท็จจริง ซึ่งแม้แต่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังต้องรีบตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบข้อกล่าวหาของนายวิสาร หากพิจารณาคำกล่าวหาของนายวิสาร แล้ว จะเห็นได้ว่า องค์กรที่มีหน้าที่และอำนาจไต่สวนเรื่องนี้ คือ ป.ป.ช. เพราะคำกล่าวหาดังกล่าว มีทั้ง พ.ร.ป.ป.ป.ช. และมาตรฐานทางจริยธรรม เข้ามาเกี่ยวข้อง

นายเรืองไกร กล่าวว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับมาตรฐานทางจริยธรรม อย่างน้อย 3 ข้อ คือ 1. หากคำกล่าวหาของนายวิสาร ไม่เป็นความจริง มีการบิดเบือน ใส่ร้าย อาจผิดมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 15 และหาก ป.ป.ช. เห็นว่า เป็นกรณีร้ายแรง ย่อมชี้มูลความผิด และส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผูดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาพิพากษาได้ 2. หากนายกรัฐมนตรีมีการจ่ายเงินให้ ส.ส. คนละ 5 ล้านบาท จริง ก็อาจเข้าข่ายผิดมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 17 ซึ่งควรเป็นเรื่องร้ายแรง ป.ป.ช. ก็ต้องชี้มูล และส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาพิพากษาได้เช่นกัน และ 3. หากมี ส.ส. รับเงินคนละ 5 ล้านบาท จากนายกรัฐมนตรี จริง ส.ส. ก็อาจจะผิดมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 9 และถือเป็นเรื่องร้ายแรงทันที ป.ป.ช. ต้องชี้มูลและส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ พิพากษาเช่นกัน

นายเรืองไกร กล่าวว่า เรื่องนี้ ป.ป.ช. ต้องรีบเข้ามาไต่สวนตามหน้าที่และอำนาจโดยเร็ว ซึ่งตามพ.ร.ป.ป.ป.ช. มาตรา 46 วรรคหนึ่ง ป.ป.ช. ต้องไต่สวนต้นเรื่อง คือนายวิสาร ก่อนเป็นลำดับแรก เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องตรงตามความจริงที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นคุณหรือเป็นโทษต่อนายกรัฐมนตรี หรือ ส.ส. ที่ถูกกล่าวหา หากไม่มีมูลความจริง และเป็นการใส่ร้าย บิดเบือน ก็ควรดำเนินการกับนายวิสาร ตามมาตรฐานทางจริยธรรมต่อไป แต่หากมีมูล ก็ต้องดำเนินการกับนายกรัฐมนตรี และ ส.ส. ที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรฐานทางจริยธรรม และดำเนินการทางอาญา ด้วย ซึ่งตนจึงจะส่งหนังสือถึง ป.ป.ช. ในเช้าวันที่ 6 ก.ย.นี้ ทางไปรษณีย์ EMS เพื่อให้ไต่สวนข้อเท็จจริงจาก นายวิสาร ก่อนเป็นลำดับแรก

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ด่วน! "นายอำเภอขุนหาญ" ศรีสะเกษ สั่งอพยพประชาชนออกจกพื้นที่เสี่ยง ไปยังศูนย์พักพิง ผู้ฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย
ช็อกวงการตำรวจ! ผู้การอุทัยธานี ปลิดชีพตัวเอง คาดเครียดโรคประจำตัว
ชุดสืบ สภ.เชียงแสน รวบตัวหนุ่มใหญ่แม่จันแอบย่องมาส่งยา โดนจับพร้อมลูกค้าสาว ยึดของกลางยาบ้าและไอซ์
ใกล้หวยออกปีใหม่ สายมูแห่ไหว้ “ท้าวเวสสุวรรณทรงราหู (ท่านทองล้น)” แน่นวัดเขาช่องลม ส่องเลขธูป 785 ลุ้นเศรษฐีรางวัลที่ 1 คนที่ 18
กต.ตร. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ลุยงานด้านคุณภาพชีวิต "คุณประภา ศิริโสดา" นำทีมช่างพร้อมวัสดุ ลุยโครงการบ้านปลอดภัยฯ นำร่อง ต.บางไผ่
Still On My Mind ในดวงใจนิรันดร์

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​