เมื่อเวลา 09.30 น.ของวันที่ 4 กันยายน 2564 พ.ต.ท.เจริญ บุญสิทธิ์ สว.สส. สภ.กบินทร์บุรี ได้รับแจ้งว่ามีคนพบศพผู้เสียชีวิตในบ่อน้ำ หลังจากได้รับแจ้งจึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมอาสากู้ภัยสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทย กบินทร์บุรี
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุในพื้นที่ ม.8 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เบื้องต้นในพื้นที่พบว่ามีชาวบ้านยืนจับกลุ่มอยู่ประมาณยี่สิบกว่าคน บริเวณดังกล่าวมีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งทั่วบริเวณ จากการตรวจสอบบริเวณริมบ่อปลาที่มีขนาดความยาวของบ่อประมาณ 80 เมตร กว้าง 30 เมตร มีความลึก 2 เมตร พบรองเท้าแตะสีเหลืองลอยอยู่ เลยจากจุดที่พบรองเท้าห่างกันประมาณสามสิบเมตร พบศพชายอายุประมาณ 45-50 ปี มีสภาพขึ้นอืดลอยน้ำหงายหน้าใส่กางเกงยีนส์ขายาวเสื้อเชิตแขนยาว ทางเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยได้นำศพเข้ามาที่ริมตลิ่ง ก่อนนำร่างไปชันสูตรศพที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายพัน สอนง่าย
จากการสอบถาม ร.ต.อ.ถวิล ลอยล่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กบินทร์บุรี ผู้พบศพคนแรกและเป็นเจ้าของบ่อปลาที่เกิดเหตุ กล่าวว่าเนื่องจากบริเวณบ่อปลาได้มีกลิ่นเหม็น ตนคิดว่าปลาในบ่อคงตายจึงได้เดินสำรวจบริเวณโดยรอบ หลังที่เดินตามกลิ่นสักพักจึงเห็นลักษณะคล้ายเท้าคนโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ จากการที่ตนได้วิเคราะห์สักพักจึงแน่ใจว่าเป็นศพคนแน่นอนร้อยเปอเซนต์ จึงได้โทรแจ้งตำรวจลงตรวจสอบในพื้นที่
จากการสอบถามยาย ทองปิ่น ศรีพิมพ์ อายุ 68 ปี กล่าวว่าผู้เสียชีวิตชื่อนายพัน สอนง่าย อายุราวๆสี่สิบถึงห้าสิบปี ได้มาพักอาศัยอยู่ที่วัดและได้ช่วยงานทางวัดที่วัดป่าทุ่งแฝก โดยนิสัยเป็นคนชอบดื่มสุราเป็นประจำแต่ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร ก่อนที่จะเสียชีวิตผู้ตายชอบบ่นหา อบต.ติ๊ก ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้วซึ่งผู้ตายให้ความเคารพและรักมาก หลังจากนั้นช่วงสองสามวันที่ผ่านมาก็ไม่เห็นหน้าอีกเลย ตนก็คิดว่าผู้ตายคงออกไปทำงานรับจ้างที่อื่น ซึ่งหลังจากที่ทราบข่าวทำให้ตนตกใจและเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะผู้ตายเป็นคนนิสัยดีและเป็นคนต่างถิ่นเท่าที่ทราบน่าจะเป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ เดินทางมาอยู่แถวกบินทร์นี้ประมาณยี่สิบกว่าปีได้แล้ว ซึ่งผู้ตายก็ให้ความเคารพกับคนในครอบครัวตนเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ทางแพทย์จะได้ทำการชันสูตร์ศพเพื่อหาสาเหตุในการตาย และทางเจ้าหน้าที่จะทำการติดต่อทางญาติให้รับทราบ และมอบศพให้ทางญาตินำไปบะเพ็ญกุศลศพตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
ทัตธน เหล่าหล้า ดิเรกฤิทธิ์ แสงสุวรรณ ผู้สื่อข่าว TOPNEWS จ.ปราจีนบุรี