ศิริราช ชี้แจง กรณีแพทย์ 3 ราย มีอาการหลังฉีดวัคซีน

ศิริราชชี้แจงกรณีการเกิดผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 3 ราย

สืบเนื่องจากมีรายงานการเกิดผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จำนวน 3 ราย ซึ่งมีอาการชาบริเวณแขน ขา ใบหน้าด้านซ้ายหลังฉีดวัคนนั้น

รศ. นพ.ยงชัย นิละนนท์ ประธานศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับนักศึกษา แพทย์ จำนวน 2 ราย และอาจารย์ จำนวน 1 ราย เป็นเพศชาย อายุระหว่าง 20 – 30 ปี โดยมีอาการหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในตอนเช้าของวันที่ 22 เมษายน 2564 แล้วเริ่มมีอาการตอนสายถึงค่ำ เมื่อได้รับการตรวจที่ศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช โดยได้รับการตรวจร่างกาย และการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษอื่น ๆ รวมทั้งการตรวจเอกชเรย์สมองด้วยเครื่องตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) แต่ไม่พบความผิดปกติใด ๆ หลังจากนั้นจึงได้รับไว้ในโรงพยาบาลศิริราชเพื่อสังเกตอาการ จนอาการดีขึ้น จึงให้กลับบ้านได้ในวันที่ 23 เมษายน 2564

จากกรณีดังกล่าวข้างต้น ศ. พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก และอาจารย์สาขาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า น่าจะเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนในประชากรจำนวนมาก (mass vaccination) ดังเช่นเดียวกับรายงานที่เกิดขึ้นที่จังหวัดระยอง โดยอาการเหล่านี้ ได้มีรายงานจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าอาจเกิดขึ้นได้ในการฉีดวัคซีนชนิดอื่น โดยเรียกภาวะนี้ว่า Immunization Stress – Related Response (ISRR) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายต่อการได้รับวัคซีน โดยมักจะเกิดในผู้ที่มีอายุน้อย ซึ่งอาจเกิดผลข้างเคียงได้ 2 อย่าง คือ
1. ผลข้างเคียงจากวัคซีน ที่จะทำให้มีไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย
2. ปฏิกิริยาของผู้รับวัคน ที่ทำให้เกิดอาการทางระบบประสาท หรือระบบหัวใจ โดยจะมีอาการคล้ายจะเป็นลม หรือหน้ามืด

ดังนั้น การเตรียมตัวก่อนการได้รับวัคซีนโควิด-19 จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ประกอบด้วย การพักผ่อนให้เต็มที่ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และเตรียมสภาพจิตใจให้ผ่อนคลาย

สำหรับผู้ที่มีอาการมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วขณะได้รับการฉีดวัคซีน และมักจะหายได้เองภายในระยะเวลา24 – 48 ชั่วโมง และหากได้รับการสืบสวนโรค หรือตรวจด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ก็จะไม่พบความผิดปกติใด ๆดังนั้น การฉีดวัคซีน โควิด-19 จึงมีความปลอดภัยมากกว่าอัตราการเกิดผลข้างเคียง และหากมีผลข้างเคียงก็มักจะหายได้เอง โดยไม่หลงเหลือความผิดปกติใด ๆ จึงขอให้บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทั่วไปมีความมั่นใจในความปลอดภัย และประสิทธิภาพของวัคซีน หากมีความกังวล หรือข้อสงสัยขอให้ปรึกษาแพทย์ก่อนได้รับวัคซีน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วธ.จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ วันพระบรมราชสมภพครบ 100 ปี "รัชกาลที่ 8"
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) สดับฟังเพลงบรรเลงจาก 'หุ่นยนต์นักเปียโน' ในเซี่ยงไฮ้
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'สะพานพันเนตร' ผุดกลางทะเลสาบใหญ่ในจีน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ปักกิ่งติดโผ 'เมืองท่องเที่ยว' ชั้นนำของโลก
ชัยภูมิ ขยายตลาดข้าวสู่ภูเก็ต
ไทย–มาเลเซีย นักกีฬาร่วมประชัน เสริมมิตรภาพสองชาติ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​