“บิ๊กจอนห์ กรงเหล็ก” เปิดปากรับสารภาพ ตนตั้งใจฆ่า และทำคนเดียว ขณะเพื่อบ้านแฉ ชอบเก็บตัว เคยชวนพ่อ-น้องสาวไปกางเต็นท์ป่าช้า ชาวบ้านเชื่อน่าจะทำพิธีกรรมบางอย่าง

จากกรณีที่นายวรุต เดชภูมี อายุ 35 ปี หรือ ‘บิ๊กจอนห์’ ชาวบ้านหมู่ 11 ต.สว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ผู้ต้องหาก่อคดีฆาตกรรมพ่อแท้ๆ และน้องสาว ด้วยการจับขังในกรงเหล็กและถ่วงน้ำจนเสียชีวิต 2 ศพ เหตุเกิดที่หนองหลุมหิน บ้านสร้างขุ่ย ต.พังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร ก่อนจะยืนรอมอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พังโคน เหตุเกิดเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 9 มกราคม 2567

ล่าสุด (10 ม.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมชุดสอบสวน สภ.พังโคน วันนี้ (10 ม.ค.) จะนำตัวนายวรุต ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสว่างแดนดิน ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเป็นบุพการีโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หลังช่วงเย็นวานนี้ นายวรุต เปิดปากรับสารภาพว่า “ตนตั้งใจฆ่า และทำคนเดียว” ส่วนสาเหตุหรือแรงจูงใจตำรวจยังไม่เปิดเผย

ส่วนบรรยากาศที่บ้านสร้างขุ่ย ต.พังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร มีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ คือ หนองหลุมหิน ซึ่งใช้เป็นสถานที่ทำระบบประปาหมู่บ้าน ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน และทราบว่านายวรุต ขับรถมาดูเส้นทางหลายครั้งก่อนก่อเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่ชาวบ้านบอกว่า ไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงในหมู่บ้าน และพฤติกรรมค่อนข้างสะเทือนขวัญ ขณะชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่าทำไมต้องลงทุนสั่งทำแท่นเหล็กให้ช่างมาติดตั้งกลางน้ำ เพียงเพื่อใช้ใว้วางกรงเหล็กก่อนจะเดินลุยน้ำผลักให้ตกลงไป เพราะขนาดของแท่นพอดีกับความกว้างของกรงเหล็กทั้ง 2 และกรงเหล็กยังมีล้อเข็นทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนตัว

ข่าวที่น่าสนใจ

นายภักดี มายูน ชาวบ้านสร้างขุ่ย กล่าวว่า ตนเชื่อว่าน่าจะเป็นการทำพิธีกรรมสักอย่างหนึ่ง เพราะไม่เชื่อว่าการจะลวงพ่อ-น้องสาว ให้สามารถขึ้นไปบนกรงเหล็กได้ โดยที่ไม่มีการขัดขืน และทั้งสองต้องเดินลุยน้ำก่อนที่จะปีนขึ้นไปบนแท่นเหล็กได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ชาวบ้านสะเทือนขวัญรับไม่ได้

เช่นเดียวกับ ยายกาวอน ศรีทอง อายุ 74 ปี บอกว่าหนองหลุมหิน ขุดมาไม่ต่ำกว่า 40 ปี ตั้งแต่สมัยนายกคึกฤทธิ์ ตนเองยังเคยมาตักน้ำตั้งแต่เด็ก ไม่เคยเกิดเรื่องร้ายที่นี่ ถือว่าครั้งนี้สะเทือนขวัญ อยากให้คนร้ายรับโทษสูงสุด

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นางกัลยา หารคำ อายุ 63 ปี หรือ ‘น้าน้อย’ ซึ่งเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า ตนเป็นน้องของแม่ นายวรุต ซึ่งแม่จะเรียกนายวรุต ว่า ‘บิ๊กจอนห์’ ส่วนพ่อ คือ นายประหยัด เป็นคนมาจากจังหวัดอื่น มาแต่งงานกับแม่นายวรุต และทำกิจการหอพัก บ้านเช่า ส่วนนายวรุต และน้องสาววุรต ตนเห็นตั้งแต่เป็นเด็กเรียนมัธยม ทั้งสองเป็นคนเรียนดี และชอบเรื่องคอมพิวตอร์ เป็นคนเก็บตัว แต่หลังเรียนจบมัธยมทราบว่า นายวรุต ไปเรียนต่อ มาเจอล่าสุดตอนที่มีงานศพแม่ของ ‘บิ๊กจอนห์’ เมื่อเดือนตุลาคมปลายปีที่แล้ว

หลังงานศพแม่ นายวรุต ก็มักจะพาพ่อ-น้องสาว ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แต่พอกลับมา พ่อนายวรุต ก็มักจะมาเล่าให้ฟัง และบอกว่า ไม่ค่อยจะลงรอยหลายเรื่อง เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ล่าสุดช่วงก่อนปีใหม่ นายวรุต ได้พาพ่อและน้องสาว บอกจะไปเที่ยวภูเรือ จ.เลย แต่กลับพาไปกางเต้นท์ค้างคืน ที่ไหนไม่รู้ลักษณะป่าเปลี่ยว เหมือนอยู่ในป่าช้า และบางครั้งขณะกำลังเดินทางไปด้วยกัน เมื่อมีปากเสียง นายวรุต ก็จะขับรถพาพ่อและน้องสาว ไปทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันให้รอ แต่สุดท้ายก็วนกลับไปรับ ซึ่งเป็นคำบอกเล่าของพ่อ ที่กลับมาเล่าให้น้าน้อยฟัง เพราะอยู่บ้านใกล้กัน

นางกัลยา ยังบอกอีกว่า ก่อนเกิเหตุวันเกิดเหตุ (8 ม.ค.) ประมาณ 11.00 น. นายวรุต มาบอกกับน้าน้อย ว่า จะพาพ่อและน้องสาว ไปเที่ยวพักผ่อนที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก ยังเอ่ยปากให้น้าน้อย ช่วยปิดเปิดไฟหอพักให้ด้วยเพราะไปนานหลายวัน ระหว่างนั้นมีรถบรรทุกมาส่งของสังเกตเห็นมีแท่นลักษณะเป็นแคร่ และด้านบนมีกล่องโครงเหล็ก ตนเองคิดว่าเป็นอุปกรณ์ที่นายวรุต สั่งทำไปติดตั้งลำโพง จึงไม่เอะใจ จากนั้นนายวรุต ก็ขับรถพาพ่อกับน้องสาว ออกจากบ้านไป

กระทั่งกลางดึกมีตำรวจโทรมาบอกว่า “ทำใจนะ ผู้ชายกับเด็กผู้หญิงเสียชีวิตอยู่ในน้ำแล้ว” ตนก็ตกใจ แต่ติดว่า เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอก กลัวจะถูกหลอกให้ออกจากบ้านตนอดึกจึงปิดโทรศัพท์ไป จนตอนสายอีกวันก็มีตำรวจมาหาที่บ้าน ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องร้าย ส่วนการจัดการศพของพ่อและน้อสาวนายวรุต ก็เป็นเรื่องทางญาติ เพราะตนเองไม่มีอำนาจจัดการ ซึ่งญาติก็อยู่ต่างจังหวัด ส่วนจะจัดงานศพที่ไหนนั้นตนเองไม่ทราบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หนุ่มฆ่าพ่อ-น้องสาว ยัดกล่องเหล็กถ่วงน้ำ เปิดปากสารภาพปมลงมือ ลั่นตั้งใจทำ