No data was found

ถอดรหัสสถานการณ์ร้อน เมื่อ “บิ๊กตู่” ถึงคราวต้องเลือก ??

กดติดตาม TOP NEWS

ถอดรหัสสถานการณ์ร้อน เมื่อ “บิ๊กตู่” ถึงคราวต้องเลือก ??

เข้าสู่วันที่ 3 ของศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรายบุคคล นายรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการรวม 6 คน บรรดานักวิเคราะห์การเมือง มองว่ายังไม่มีหมัดน็อกพอที่จะนำไปสู่การน็อก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ แบบจังๆ ฝ่ายค้านงัดข้อมูล จริงบ้างแบบเฉี่ยวๆ เอกสารปลอม คลิปเก่ามาบิดเบือนบ้าง หวังซัดนายกฯกลางสภา แต่ก็ทำได้แค่การขายจังหวะ ลีลา เพียงเท่านั้นเอง

แต่ที่ต้องจับตามองกลับเป็นความเคลื่อนไหวภายในพรรคพลังประชารัฐเอง ที่มีบางกลุ่มภายในพรรค ตามข่าวอ้างชื่อ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค และนายวิรัช รัตนเศรษฐกิจ ประธานวิปรัฐบาล เดินเกม “โหวตสวน” เพื่อล้มนายกรัฐมนตรี ซึ่งจริงๆแล้วทั้งสองก็เป็นแกนนำกลุ่ม 4 ช. หรือกลุ่ม 4 รัฐมนตรีช่วยว่าการ

จริงๆ กลุ่มนี้ เป็นแกนนำ “กลุ่ม 4 ช.” หรือกลุ่ม 4 รัฐมนตรีช่วย คือ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ / นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน / และ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ ลูกนายวิรัช รมช.คมนาคม

กลุ่มเดิม กลุ่ม 4 ช. ที่เคลื่อนไหวรุนแรงก่อนหน้าช่วงที นายกฯปรับครม.แทนตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างลง กระแสข่าว วิ่งกดดัน ปรับเปลี่ยน ให้ 4 ช. ได้มีบางคนขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการบ้าง แต่ที่สุดแล้ว นายกฯก็ไม่ได้มีการปรับให้นั่งเจ้ากระทรวงแต่อย่างใด

จนมาถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ กลุ่ม 4ช.แต่เดิมมีเป้าสั่งเก้าอี้ 2 รัฐมนตรีว่าการโควต้าพรรค คือ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ด้วยการเดินเกมติดต่อให้พรรคเล็กโหวตสวน และให้ ส.ส.พลังประชารัฐ ฟรีโหวต เพื่อให้คะแนนไว้วางใจรัฐมนตรี 2 คนนี้ ได้ตัวเลขต่ำ จะได้โดนปรับพ้นครม. โดยมีเป้าหมายอีกคนคือ นางตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งไม่ได้ถูกอภิปราย แต่หวังให้โดนปรับพ้นไปพร้อมกัน เพราะเก้าอี้ เสมา 1 นั้นก็มี รมช.บางคน พยายามจะให้ได้ครอบครองแต่ยังไม่บรรลุ
แต่ที่สุดแล้ว ช่วงก่อนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ กระแสข่าว การเคลื่อนไหวไม่ใช่แค่ต้องการเก้าอี้รัฐมนตรีเสียแล้ว มีข่าวการล้มคว่ำพล.อ.ประยุทธ์ ให้ไม่ผ่าน ให้รัฐบาลล้มพ้นสภาพไปทั้งคณะ

ท่ามกลางกระแสข่าวลือ เป้าหมายใหญ่หลังคว่ำพล.อ.ประยุทธ์แล้ว พรรคพลังประชารัฐ จับมือกับพรรคเพื่อไทย เพื่อมุ่งหมายในการตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ ในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จลุล่วง

แต่ล้มได้หรือไม่ ก็ต้องมาเช็คคะแนนเสียงกัน ส.ส.ทั้งสภา ปัจจุบัน 482 คน ถ้าจะโหวตคว่ำนายกฯ หรือ รัฐมนตรีได้ ก็ต้องใช้เสียงโหวตเกินกึ่งหนึ่ง คือ 241 เสียงขึ้นไป แต่คะแนนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล มีอยู่ 272 เสียง ประกอบด้วย พลังประชารัฐ 119 เสียง , ภูมิใจไทย 61 เสียง , ประชาธิปัตย์ 48 เสียง ,ชาติไทยพัฒนา 12 เสียง , เศรษฐกิจใหม่ 6 เสียง ,รวมพลังประชาชาติไทย 5 เสียง ,พลังท้องถิ่นไท 5 เสียง ,ชาติพัฒนา 4 เสียง ,รักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 เสียง , พลังชาติไทย 1 เสียง , ประชาภิวัฒน์ 1 เสียง ,เพื่อชาติไทย 1 เสียง , ครูไทยเพื่อประชาชน 1 เสียง ,พลเมืองไทย 1 เสียง ,ประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง , พลังธรรมใหม่ 1 เสียง ,ไทยศรีวิไลย์ 1 เสียง , ประชาธรรมไทย 1 เสียง , ไทรักธรรม 1 เสียง
ส่วนพรรคฝ่ายค้าน มีเสียงรวม 210 เสียง ประกอบด้วย เพื่อไทย 134 เสียง , ก้าวไกล 53 เสียง ,เสรีรวมไทย 10 เสียง , ประชาชาติ 7 เสียง , เพื่อชาติ 5 เสียง , พลังปวงชนไทย 1 เสียง

จากตัวเลขฝ่ายค้านที่มี 210 เสียง นั้นก็ไม่ใช่ว่าได้เสียงครบแน่ หากเราย้อนไปดูการโหวตลงคะแนน พ.ร.บ.งบประมาณ ก็จะเห็นท่าทีของ 5 ส.ส.เพื่อไทย นายจักรพรรดิ ไชยสาสน์ ส.ส.อุดรธานี , นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ ส.ส.มหาสารคาม, น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี, นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม.และ นายวันชัย เจริญนนทสิทธิ์ ส.ส.นนทบุรี ที่โหวตสวน มติพรรคเพื่อไทย พบไม่ออกเสียงลงคะแนน
และท่าที 4 ส.ส.ก้าวไกล เลือกที่จะไม่สนับสนุนพรรค นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี ,นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายเอกภพ เพียรพิเศษ และนายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย ที่แสดงออกชัดเจนไม่เอาด้วยกับพรรคก้าวไกลด้วยเช่นกัน

หากคาดการณ์เสียงฝ่ายค้าน 210 เสียง หักเสียงส.ส.อีก 9 คน จะคงเหลือ 201 เสียง การที่จะล้มนายกฯได้ ต้องใช้เสียงอีกอย่างน้อย 40 เสียงขึ้นไป จะเอามาจากไหน
ซึ่งถ้าหากมองจากข่าว ที่มีแกนนำ-ตัวแทน กลุ่ม 4 ช. วิ่งคุยกับ 10 พรรคเล็กขนาด 1 เสียง คาดว่า จะได้ 10 เสียง และพรรครักษ์ผืนป่าอีก 2 เสียง ก็จะรวมได้ 12 เสียง ขาดอีก 28 เสียง ก็ต้องดูพลังภายในของกลุ่ม 4 ช. อย่าง ร.อ.ธรรมนัส เป็นส.ส.จ.พะเยา ซึ่งจังหวัดพะเยา มีส.ส.สังกัด พปชร. 2 คน
นายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำอีกคน พื้นเพจ.เพชรบูรณ์ ฐานเสียงส.ส. พปชร ยกจังหวัด 5 คน
นายวิรัช รัตนเศรษฐ และลูกชาย อธิรัฐ รัตนเศรษฐ แกนนำอีกคน ที่มีฐานเสียงสำคัญอยู่ที่ จ.นครราชสีมา มีส.ส.พปชร. จำนวน 5 คน
นายไผ่ ลิกค์ แกนนำพรรคพปชร. ทีมีกลุ่ม ส.ส.พปชร. จ.กำแพงเพชร แพคกันแน่นทั้งจังหวัดรวม 4 คน
และถ้าหากเราย้อนมองไปดู เมื่อครั้งการจัดประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐที่ จ.ขอนแก่น ก็พบความเคลื่อนไหวสำคัญของ นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร. ที่มีกลุ่มเครือข่ายส.ส.อีสาน รวม 11 คน เกาะกันเหนียวแน่น
ซึ่งเมื่อรวมจำนวนเสียงแล้ว คาดว่าน่าจะมีเสียงอยู่ที่ 27 เสียง ดังนั้นแล้ว การจะดันให้ได้จริงๆ ก็คงไม่เกินความคาดหมายพลิกมาโหวตคว่ำได้

ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ วงประชุมส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นัดเคลียร์ใจจนกระแสคว่ำบิ๊กตู่ซาลง เหลือเพียงเก้าอี้ มท.1 ที่มี พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา พี่รักของนายกฯ นั่งอยู่อย่างเหนียวแน่นมานาน

แล้วทางออกของนายกฯ จะไปช่องทางไหน จะยอมหักพี่รัก เพื่อรักษาน้ำใจ ส.ส.หรือไม่ ซึ่งทางเดินของบิ๊กตู่ก็ยังมีไม่มากนัก นาทีนี้เหลือเพียง 3 ทาง คือ

1.ชิงลาออกก่อนโหวต หากประเมินแล้วถ้าโหวตไปก็แพ้แน่ แล้วทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการ ดึงเกมต่อไป เนื่องจากการเลือกนายกฯใหม่ เนื่องจากตัวบุคคลที่เหลือเป็น แคนดิเดต ตามรัฐธรรมนูญ ม.88 ไม่ได้รับการยอมรับจากสภา พรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ / นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ลาออกจากพรรคแล้วเหลือเพียง นายชัยเกษม นิติสิริ คนเดียวที่ยังอยู่กับพรรค / นอกจากนั้นก็มี นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นั่งรองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข อยู่ในปัจจุบัน / และสุดท้ายคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว

ขณะเดียวกันการเลือกนายกฯใหม่ ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เพราะต้องใช้เสียง ส.ว.ร่วมโหวต เพราะเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา อยู่ที่ 367 เสียงขึ้นไป

2. นั่งตัวเกร็ง ลุ้นโหวตแล้วพลิกมาชนะ โดยอาศัยเสียงสนับสนุนจากพรรคเล็กให้เหนียวแน่น เอาให้ผ่านไปก่อนแล้วค่อยมาเช็คบิลทีหลัง ผ่านการปรับครม. เอาเก้าอี้คืน หรือถ้าสถานการณ์เลวร้ายต่อเนื่อง ก็ค่อยตัดสินใจยุบสภาเลือกตั้งกันใหม่

3.ลุ้นโหวต แล้วแพ้โหวต นายกฯก็จะหลุดจากตำแหน่งพร้อมทั้งคณะรัฐมนตรี เหลือเพียงแค่ รัฐบาลรักษาการที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกอันดับหนึ่งทำหน้าที่รักษาการ รอให้รัฐสภา คัดเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ตาม มาตรา 88 หากไม่มีคนที่เหมาะสม จะเป็นคนนอกตามมาตรา 272 ซึ่งก็คงใช้เวลาอีกหลายเดือน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อาหารเป็นพิษจากกรด บงเครคิก พบครั้งแรกในไต้หวัน
เครนถล่ม ในโรงงานปลวกแดง จ.ระยอง ทับคนงาน เสียชีวิต บาดเจ็บเพียบ จนท.เร่งช่วยเหลือด่วน
“นายกฯ” ย้ำ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ไร้ทุจริต ปชช.ตรวจสอบได้ รับบินตปท.บ่อย เจอไอเดียดี นำปรับใช้พัฒนาประเทศไทย
ตำรวจไซเบอร์ บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนรายใหญ่ ลักลอบตั้งฐานในไทย พบเหยื่อเพียบ
เช็กลิสต์สหายเสื้อแดงลี้ภัยต่างแดน จ่อกลับไทยมาสู้คดี จับตาก๊วน 3 นิ้วติดคดี 112 เลิกหนีหัวซุกหัวซุนต่างแดนตามรอย "จักรภพ" โมเดล
จีน ก๋วยเตี๋ยวหอยทาก “หลัวซือเฝิ่น” กับความคลั่งไคล้ระดับชาติ
จีน ค้านมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือแบบไม่ลืมหูลืมตา
รัสเซีย วีโต้มติยูเอ็นต่ออายุการติดตามคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
รู้จัก "ข้าวยีสต์แดง" 3 ชนิด อาหารเสริมญี่ปุ่น ทำป่วยไต-ดับ
ครอบครัวดีใจ จ่ายแสนผู้พบแม่ หายจากบ้านสัตหีบขี่จยย.ไกลกว่า 200 กม.สู่จังหวัดตราด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น