อั้ม อธิชาติ ขึ้นเหนือ มอบของขวัญปีใหม่กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพลูคาว อ.พาน จ.เชียงราย

วันที่ 16 ธ.ค. 68 นายอธิชาติ ชุมนานนท์ หรือ อั้ม ดารานักแสดงชื่อดัง มาร่วมพบปะกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชสมุนไพรพลูคาว ในพื้นที่บ้านสันมะแฟน ม.6 ต.ธารทอง อ.พาน จ.เชียงราย เพื่อมอบของขวัญเนื่องในโอกาสใกล้ถึงวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยมีนายศิริชล มะโนวัง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพร และสมาชิกกลุ่ม ร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

นายศิริชล มะโนวัง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพร เผยว่า ตนเป็นตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสมุนไพร หรือ กลุ่มปลูกพลูคาวเพื่อสุขภาพ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านสันมะแฟน หมู่ 6 ต.ธารทอง อ.พาน จ.เชียงราย กลุ่มเราปลูกพลูคาวเป็นวัตถุดิบให้กับโรงงานแปรรูป มีพื้นที่ปลูกรวมทั้งหมด 22 ไร่ เราจะปลูกพลูคาวเพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ โดยจะปลูกแบบออแกนิก ไม่ใช่สารเคมี เน้นการจ้างแรงงานในชุมชน ทั้งการถอนหญ้า การเก็บเกี่ยว การบรรจุ การขนส่ง ฯลฯ ซึ่งการปลูกพลูคาวจะมีระยะเวลาเก็บเกี่ยวต่อรอบการเพาะปลูกประมาณ 4 เดือน ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวประมาณเที่ยงคืนถึง 9 โมงเช้า โดยใน 1 ปี จะเก็บเกี่ยวผลผลิต 3 ครั้ง ได้ผลผลิตประมาณไร่ละ 4,000 กก.

นายศิริชล เผยอีกว่า ในอดีตคนในชุมชนมีอาชีพทำไร่ทำนา ซึ่งมีต้นทุนสูง ราคาต่ำ จึงมีการคิดหาพืชเศรษฐกิจตัวใหม่มาปลูกทดแทน และเริ่มมีการปลูกพืชพลูคาวกันมากว่า 20 ปี แต่ก่อนหน้านี้ยังปลูกกันไม่มาก เพราะเป็นพืชตัวใหม่ ยังไม่มีตลาด เมื่อประมาณปี 2561 เราจึงได้ปรับเปลี่ยนการปลูก และไปขอรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานต่างๆ ตอนนี้มีบางแปลงปลูกที่ได้มาตรฐานออร์แกนิกไทยแลนด์ และ GAP และมีการจัดตั้งเป็นวิสาหกิจขึ้นมาเพื่อควบคุมคุณภาพ และรวบรวมผลผลิตไปขายพร้อมกัน เพื่อควบคุมและเพิ่มอำนาจการต่อรองราคากับทางผู้รับซื้อ หากมีสมาชิกที่แอบไปขายเองเราก็จะตัดออกจากกลุ่ม

“หลังจากทางกลุ่มวิสาหกิจฯ ได้หันมาปลูกพลูคาวแทนการทำนา ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งตัวเจ้าของสวน และชาวบ้านทั่วไป เพราะมีการจ้างแรงงานทั้ง 3 ช่วงวัย โดยผู้สูงอายุก็จะมารับจ้างถอนวัชพืช เก็บเกี่ยว หรือทำตอกไม้ไผ่สำหรับใช้มัดพลูคาว กลุ่มวัยรุ่นก็จะมารับจ้างดูแลสวน ขนผลผลิต และวัยกลางคนส่วนใหญ่ก็จะมารับจ้างเก็บเกี่ยวพลูคาว เป็นการเพิ่มรายได้ให้คนในชุมชนเป็นอย่างมาก” นายศิริชล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ กล่าว

สำหรับกิจกรรมในวันนี้ อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์ ดารานักแสดงชื่อดัง ที่ในระยะหลังได้ผันตัวมาทำธุรกิจแปรรูปพลูคาวเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหลากหลายชนิด และเป็นผู้รับซื้อผลผลิตรายใหญ่จากบรรดาเกษตรกรในพื้นที่ ได้มาร่วมพบปะกลุ่มเกษตรกรและมอบของขวัญปีใหม่ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพืชพลูคาวและแรงงานที่ทำงานอยู่ในกลุ่มวิสาหกิจฯ โดยปีนี้ทางอั้มอธิชาติได้นำของขวัญปีใหม่ อาทิ เครื่องซักผ้า พัดลม เตาอบไมโครเวฟ พัดลม จักรยาน ฯลฯ มามอบให้กับเกษตรกรจำนวน 57 ครัวเรือน ซึ่งของขวัญดังกล่าวเป็นสิ่งของที่ทางเกษตรกรอยากได้ โดยทางเกษตรกรแต่ละครัวเรือนได้เขียนสิ่งที่อยากได้เป็นของขวัญปีใหม่ และทางอั้มอธิชาติก็จัดหาสิ่งของมามอบให้ตามที่ร้องขอ เพื่อให้แต่ละบ้านได้รับสิ่งของที่อยากได้จริงๆ โดยไม่ต้องมีการจับสลากแต่อย่างได สร้างความสุขให้กับเกษตรกรก่อนสิ้นปี 2568

นายอธิชาติ ชุมนานนท์ กล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้เป็นการขอบคุณกลุ่มเกษตรกร เป็นการมอบของขวัญคริสต์มาสและปีใหม่ เป็นการแสดงความขอบคุณในรอบปีที่ผ่านมา เพราะเราได้สมุนไพรคุณภาพจากบรรดาเกษตรกรที่ปลูกบนผืนแผ่นดินเชียงรายแห่งนี้ ทางพี่น้องเกษตรกรไม่ได้ปลูกให้เราแค่ปีนี้ เขาตั้งใจพัฒนาพืชผักสมุนไพรเพื่อสุขภาพมาเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี เพื่อสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน เริ่มต้นจากระยะแรกที่ปลูกแล้วต้องตัดทิ้ง นี่เป็นการแสดงถึงความพยายามของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ทุกคน เราจึงอยากจะมาให้กำลังใจว่าสิ่งที่เขาพยายามกันมาตลอดนับ 10 ปี วันนี้มันเกิดออกดอกออกผลแล้ว เมื่อมีผลิตภัณฑ์ที่ดีผู้บริโภคก็เกิดความประทับใจและเกิดการซื้อซ้ำ เราก็เลยอยากนำสิ่งดีๆกลับคืนมามอบให้กับกลุ่มเกษตรกร

อั้มอธิชาติ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าเกษตรกรไทยของเรามีความสามารถ มีภูมิปัญญาดั้งเดิมที่จะพัฒนา ขาดแค่โอกาสและคนที่เข้าใจ อย่างในกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพลูคาว อ.พาน ก็เริ่มตั้งแต่แปลงเล็กๆ ไม่กี่แปลง จาก 3 ไร่ ปัจจุบันเพิ่มมาเป็น 22 ไร่ โดยที่ยังสามารถควบคุมคุณภาพผลผลิตได้ เพราะในความจริงการจะทำพืชสมุนไพรให้ได้คุณภาพไม่ใช่เรื่องง่าย ที่นี่เป็นการปลูกด้วยหัวใจและส่งต่อมาให้เราเพื่อนำไปให้กับผู้บริโภค ปีที่แล้วเราก็เคยมาจัดกิจกรรมแบบนี้มาแล้ว แต่รอบนั้นเป็นการจับสลาก ปีนี้ครอบครัวผู้ปลูกพลูคาวเพิ่มขึ้น เราก็เลยจะมอบของขวัญให้ทุกบ้าน 57 ครัวเรือน ไม่ต้องลุ้น

“ในอดีตตอนแรกเริ่ม ผลิตผลพลูคาวที่นี่ยังขายไม่ออก ต้องตัดทิ้ง แต่วันนี้ผลิตภัณฑ์ของเราได้รางวัลระดับโลก ได้เหรียญทองที่ประเทศญี่ปุน และเป็นที่สังเกตุว่าพอสมุนไพรเริ่มดังขึ้น เป็นที่ต้องการของตลาด ก็จะมีผู้ปลูกบางรายที่ไม่มีคุณภาพ ไม่มีการควบคุมคุณภาพมาตรฐาน อยากจะฝากว่าถ้าหากเราต้องการจะผลักดันสมุนไพรไทยเราให้มีคุณภาพมากขึ้น สามารถส่งออกได้ เราก็ต้องใช้ใจและควบคุมคุณภาพ ทั้งเรื่องของดิน หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี และส่งผลิตผลตรวจสอบทุกรอบการเก็บเกี่ยว ก่อนส่งวัตถุดิบให้ลูกค้า เพราะตอนนี้มีต่างชาตินำสมุนไพรของเราไปสกัดและส่งกลับมาขายให้เรา หรือแม้แต่การนำของต่างชาติเข้ามาขายให้กับคนไทย แต่เราเชื่อว่าสมุนไพรของไทยเรานั้นดี มีคุณภาพ ทำขายในประเทศก็ได้ หรือส่งออกไปขายต่างประเทศก็ได้ด้วย” นายอธิชาติ กล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

วิโรจน์ วงศ์ใหญ่ ผู้สื่อข่าวTopNewsทั่วไทย จ.เชียงราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ภูเก็ตส่งเสริม Young Smart Farmer ดันเกษตรผสมผสาน เพิ่มรายได้ สู่เกษตรยั่งยืน
แต่ละช็อตอย่างโดน "หน่วยทหารม้า" นำรถถังยิงถล่มตึกกาสิโน-ฐานสแกมเมอร์ ช่องสายตะกู  "ทหารเขมร" ใช้เป็นฐานกำลังโดรนโจมตีไทย
เทศบาลเบตงเตือนภัย – เตรียมความพร้อมอุทกภัย
"กรมชลฯ" Kick off ส่งเสริมนาเปียกสลับแห้ง ลดใช้น้ำ เพิ่มผลผลิต เชื่อมโยงลดโลกร้อน
พาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์ นำทีมลุยตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่ สร้างความมั่นใจผู้บริโภค
"อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์" นำทีมผู้บริหารกรมฯ ลงใต้มอบถุงยังชีพ พร้อมเดินหน้ามาตรการเยียวยาฟื้นฟูอาชีพแก่สมาชิกสหกรณ์หลังน้ำลด

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​