No data was found

ฮือฮา! พบฉลามครีบดำกว่า60ตัว อ่าวมาหยานิเวศสุดสมบูรณ์

กดติดตาม TOP NEWS

หน.แจ๊ค พบฉลามครีบดำหากินกว่า60ตัว เชื่ออ่าวมาหยา เป็นแหล่งกำเนิดอนุบาลฉลามครีบดำ ของทะเลอันดามัน ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังดูแลนักท่องเที่ยวไม่ให้รบกวน

วันที่ 22 ธ.ค. 2566 นายยุทธพงศ์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า  ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเล ที่ 3 จังหวัดตรัง ทำการสำรวจติดตามประชากรและพฤติกรรมของฉลามครีบดำ (Carcharhinus melanopterus) ภายใต้โครงการสำรวจ จำนวนและพฤติกรรมตามธรรมชาติ ของฉลามครีบดำในอ่าวมาหยา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ (Shark Watch Project) ประจำปีงบประมาณ 2567 เป็นการต่อเนื่องจากปีงบประมาณ 2566 จากการสำรวจในรอบแรก (18-24 ธันวาคม 2566) โดยใช้วิธีถ่ายภาพทางอากาศ (อากาศยานไร้คนขับ) แบบ Transect เพื่อนับประชากรฉลาม และตั้งกล้องถ่ายใต้น้ำ BRUV (Baited Remote Underwater Video) เพื่อสังเกตพฤติกรรมฉลาม

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ในช่วงเช้าตรู่ เจ้าหน้าที่ใช้อากาศยานไร้คนขับบินสำรวจ พบฉลามครีบดำเข้ามาใช้ประโยชน์พื้นที่อ่าวมาหยา ไม่น้อยกว่า 60 ตัว จากการนับจำนวนที่ปรากฏในเฟรมเดียว ซึ่งแสดงให้เห็นแนวโน้ม ในการฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยของฉลาม โดยเฉพาะพื้นที่แหล่งน้ำตื้นหน้าอ่าวมาหยา ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิด แหล่งอนุบาลฉลามครีบดำที่สำคัญ ของทะเลอันดามันของประเทศไทย  บริเวณชายหาดอ่าวมาหยา ยังเป็นแหล่งฟื้นฟูระบบนิเวศปะการัง และแหล่งอาศัยของฉลามครีบดำ จะมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมดูแล ไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ เพื่อไม่ให้รบกวนสิ่งมีชีวิต ที่อาศัยอยู่บริเวณชายหาด และยังเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ และพื้นที่ท่องเที่ยว ให้คงอยู่และสวยงามไปนานเท่านาน

นายยุทธพงศ์ยังได้ย้ำเตือนผู้เข้ามาท่องเที่ยวว่า ทั้งนี้เพื่อให้ธรรมชาติคงอยู่และสวยงาม โปรดอย่าลืมปฏิบัติตามข้อปฏิบัติการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ โดยอ่าวมาหยามีข้อปฏิบัติในการท่องเที่ยว ดังนี้ ห้ามลงเล่นน้ำ ห้ามเดินออกนอกเส้นทาง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ห้ามเก็บหาปะการัง กัลปังหา และสัตว์ทะเลทุกชนิด ห้ามนำและใช้ครีมกันแดด ที่มีสารประกอบของสารเคมี ที่เป็นอันตรายต่อปะการัง ห้ามนำและใช้ภาชนะที่ทำด้วยโฟม ห้ามทิ้งขยะ ห้ามให้อาหารปลา ห้ามใช้โดรนโดยไม่ได้รับอนุญาต ห้ามทิ้งสมอเรือในแนวปะการัง  หากบุคคลใด มีการฝ่าฝืนข้อปฏิบัติดังกล่าว จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562

                                                    

วุฒิเดช ก้อนทองคำ /วิริยา บุญสูง  ศูนย์ข่าวภาคตะวันตก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"รองปลัด สธ." แจงชัดเพื่อความกระจ่าง "วัคซีน-ยา" ทุกชนิดมีผลข้างเคียง
"หมอชลน่าน" เปิดใจร่ายยาวหลังพ้นตำแหน่ง แจงปมขัดแย้ง เหตุถูกวางยา
“บิ๊กต่าย” ยัน “บิ๊กโจ๊ก” ยังคงตำแหน่ง เพียงแค่ให้ออกจากราชการไว้ก่อน
"สันติสุข" เสียดายงบฯพร้อมใช้ 1.7 แสนล้าน รัฐแช่แข็ง ไม่ทำคนละครึ่งกระตุ้นกำลังซื้อ
2 ส. "รมต." เขี้ยวลากดินเก้าอี้แข็งปั้กได้ดีเกินหน้าลูกหม้อ "พท." เจ็บช้ำใจแต่ไม่กล้าหือนายใหญ่
"อช.แก่งกระจาน" ประกาศปิดท่องเที่ยวเขาพะเนินทุ่งชั่วคราว เพื่อซ่อมถนน
“ประเสริฐ” แจง “ชลน่าน” ยังกำลังใจดีอยู่ แม้หลุดรัฐมนตรี ยัน ไม่ทราบลือเปลี่ยนนั่ง ปธ.สภาฯ
พายุฤดูร้อน มาแล้ว อุตุฯเตือนฉบับ 1 ไทยตอนบนรับมือฝนฟ้าคะนอง 3-7 พ.ค.นี้ ระวังฟ้าผ่า ลมแรง
"ธนาธร" กู่ไม่กลับ! ฉีกกฎเหล็ก "กกต." จูงจมูก สว.ส้ม หลอน "บิ๊กตู่" คอนเน็คชั่น
"ดร.ธรณ์" เผย "ทะเลไทย" ร้อนเท่าออนเซนญี่ปุ่น วัดอุณหภูมิน้ำจากแหล่งหญ้าในทะเล ทะลุ 40 องศา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น