เดอะ สตาร์, เนชั่น, และ Bangkok Post รายงานเมื่อวันอาทิตย์และจันทร์ที่ผ่านมา (26-27 พย.) โดยอ้างการให้สัมภาษณ์ของนายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) เปิดเผยว่าสายการบินจีน 10 แห่งรวมทั้งแอร์ ไชน่า, ไชน่า อิสเทิร์น, เซี่ยงไฮ้ แอร์ไลน์ส, สปริง แอร์ไลน์ส, ไชน่า เซาเธิร์น, เซินเจิ้น แอร์ไลน์ส, จูนเยา แอร์ไลน์ส, โอเค แอร์เวย์ส, ไห่หนาน แอร์ไลน์สและ เป่ยจิง แคปปิตอล ได้ยกเลิกเที่ยวบินมาไทยในช่วงเดือนธันวาคมและมกราคมที่จะถึงนี้ (2567) รวมแล้วเป็นจำนวนหลายพันเที่ยวบิน เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
นายสุทธิพงษ์เผยว่าจากตารางเที่ยวบินเดิม 1 หมื่น 939 เที่ยวบินในเดือนธันวาคม ล่าสุดได้รับการยืนยันเพียง 5 พัน 858 เที่ยวบิน หรือลดลงคิดเป็น 46% ส่วนเดือนมกราคม 2567 ตารางเที่ยวบินเดิมอยู่ที่ 1 หมื่น 984 เที่ยวบิน ได้รับการยืนยันเพียง 7 พัน 420 เที่ยวบิน ลดลง 32% ซึ่งแสดงให้เห็นว่านโยบายฟรีวีซ่าของไทยที่หวังดึงดูดคนจีนให้มาเที่ยวไทยไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง
กรกฎ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์กล่าวว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 40 % ของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในช่วงก่อนโควิดในปี 2562 เท่านั้น ขณะที่จำนวนผู้จองตั๋วเครื่องบินในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงก็ไม่คึกคักอย่างที่คาดหวัง ซึ่งไทยจะต้องรอดูแนวโน้มต่อไปหลังจากเดือนธันวาคม
สำหรับสาเหตุหลักหลายฝ่ายมองว่าน่าจะมาจากปัญหาเศรษฐกิจภายในของจีนเอง และเหตุยิงนักท่องเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนซึ่งทำให้คนจีนเสียชีวิต 1 คนก็มีส่วนทำให้นักท่องเที่ยวเสียความเชื่อมั่น ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหันมาท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเฉพาะที่เมืองซานย่า บนเกาะไหหลำ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในไทยและเวียดนามลดลงอย่างมาก
สื่อเวียดนามเผยว่าผลสำรวจความเห็นชาวจีนจำนวนกว่า 1 หมื่นคนโดยบริษัทสำรวจด้านการตลาดจาก China Trading Desk ของสิงคโปร์พบว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจีนอีกต่อไป โดยปีนี้ไทยมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศแล้วราว 3.01 ล้านคน และคาดว่าจนถึงปลายปีจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนทั้งสิ้น 3.4-3.5 ล้านคน ต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ที่ 5 ล้านคน อย่างไรก็ตามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทยยังยืนยันจะไม่มีการยกเลิกนโยบายฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน