“ศรีสุวรรณ” ร้องป.ป.ช.แล้ว เอาผิด “เศรษฐา” แทรกแซงแต่งตั้ง โพล่งตั๋วผกก.ใหม่

"ศรีสุวรรณ" ร้องป.ป.ช.แล้ว เอาผิด "เศรษฐา" แทรกแซงแต่งตั้ง โพล่งตั๋วผกก.ใหม่

วันนี้(24 พ.ย.66)เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานใหญ่ ป.ป.ช.นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรีและ สส.เพื่อไทย หลังหลุดปากพูดต่อหน้าที่ประชุม สส.เพื่อไทยในทำนองว่า “สส.เพื่อไทยขอตำแหน่งผู้กำกับใหม่” อันถือเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่

 

 

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้ไปร่วมประชุมกับบรรดา สส.และผู้บริหารพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2566 ที่ผ่านมา และได้หลุดปากพูดว่า “ผู้กำกับใหม่ ซึ่งผมมั่นใจว่าคงมีผู้ผิดหวังมากกว่าผู้สมหวังในห้องนี้ที่ขอตำแหน่งไป เพราะรู้สึกมันเยอะเหลือเกิน แต่ก็มีไม่น้อยที่ได้สมหวัง แต่ก็เป็นผู้กำกับใหม่ซึ่งเราจะต้องพูดคุยเรื่องนี้กันให้เข้าใจถึงถ่องแท้ และต้องกำจัดปัญหานี้ออกไป ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเราเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ”

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ถ้อยคำดังกล่าวอาจบ่งบอกถึงพฤติการณ์ในการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน ก.ตร.ที่สามารถเข้าไปก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในการแต่งตั้งนายตำรวจระดับ ผกก.ได้เพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมืองไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมได้ เพราะการสั่งแต่งตั้งผู้กำกับได้นั้นตาม พรบ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 ม.56(2) ตามกฎ ก.ตร.เป็นอำนาจของ ผบ.ตร.เท่านั้น การหลุดปากในที่ประชุม สส.เพื่อไทยว่ามี สส.ในที่ประชุมขอตำแหน่ง ผกก.ผ่านไปยังนายกรัฐมนตรีมีทั้งที่ได้และไม่ได้นั้น ถือเป็นหลักฐานที่มัดตัวเองที่ยากจะแก้ตัวได้ อันเป็นข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.185(3) ประกอบ ม.186 วรรคสอง ซึ่งอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 7 ข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 15 ข้อ 17 ข้อ 21 และข้อ 26 ซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

นอกจากนั้น ป.ป.ช.จะต้องไต่สวนสอบสวนต่อไปว่า สส.ที่ขอตำแหน่ง ผกก.ผ่านนายกรัฐมนตรีทั้งทางตรงหรือทางอ้อมนั้นมีใครบ้าง เพราะการกระทำดังกล่าวมีความผิดโดยตรงตามรัฐธรรมนูญ ม.185(3) มีอัตราโทษเช่นเดียวกันกับนายกรัฐมนตรี หาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดส่งเรื่องให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแล้ว หากศาลประทับรับฟ้องนายกรัฐมนตรีและ สส.เหล่านั้นจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที และในที่สุดอาจถูกตัดสิทธิทางการเมืองไม่เกิน 10 ปีตามที่กฎหมายกำหนดด้วย

 

 

ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมายื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ในวันนี้เพื่อขอให้ไต่สวนและมีความเห็น กรณีนายกรัฐมนตรีและ สส.เพื่อไทยจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ เพื่อหยุดยั้งกระบวนการใช้อำนาจแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการที่ไม่เป็นธรรมในระบบอุปถัมภ์ในเรื่องดังกล่าวต่อไป นายศรีสุวรรณกล่าว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) บุกโรงงาน 'หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์' ฝีมือจีน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปิดเที่ยวบิน 'เสิ่นหยาง-กรุงเทพฯ'หนุนท่องเที่ยวข้ามภูมิภาค
"ซาบีดา" เปิดโครงการส่งเสริม สืบสานศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นจ.นครสวรรค์ "ต้นไม้วัฒนธรรมหลากสีแห่งเมืองสวรรค์" ปลูกพลังวัฒนธรรม สู่เมืองสวรรค์อย่างยั่งยืน
ตม.ประจวบฯ สานสัมพันธ์ จัดหางานจังหวัดฯ สวัสดีปีใหม่
ส่องลุคแฟชั่นผ้าไทยสไตล์ "ซาบีดา" สวมเสื้อแซว ทรงไทยจิตรลดา นุ่งมัดหมี่โฮล ราชินีแห่งผ้า อัตลักษณ์ประจำจังหวัดสุรินทร์
อบจ.ปทุมธานี เตรียมจัดงานใหญ่ รำลึกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2568

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​