“จุลพันธ์” ยันกู้เงินแจกดิจิทัลออกเป็นพ.ร.บ. เหมาะสมที่สุดแล้ว ย้ำไร้แผนสำรอง หากไม่ผ่านสภาฯ

“จุลพันธ์” ยันกู้เงินแจกดิจิทัลออกเป็นพ.ร.บ.เป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุดแล้ว รับไร้แผนสำรอง หากไม่ผ่านสภาฯ ไม่หวั่นเจอองค์กรอิสระตรวจสอบ ยันไม่ทยอยแจกแน่นอน

วันนี้ ที่รัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร ถึงกรณีหลายฝ่ายมีความเป็นห่วงที่รัฐบาลจะออกพระราชบัญญัติกู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทว่า เป็นเรื่องที่ดี ช่วยกันเป็นห่วง เราจะได้ดำเนินการให้รอบคอบรัดกุมเป็นไปตามข้อกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลมองว่าช่องทางนี้เป็นช่องทางที่มีความเหมาะสม มีความตรงไปตรงมา ได้รับความตรวจสอบจากรัฐสภา และเป็นเรื่องที่ดีหากมีการตรวจสอบจากองค์กรอิสระก่อนที่จะดำเนินการ เพื่อให้เราได้ดำเนินการได้อย่างสบายใจเพื่อให้ประชาชน

 

ส่วนมีแผนสำรองหรือไม่ ถ้ากฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่านสภา นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่มี ส่วนที่หลายคนมองว่านโยบายนี้ ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องจีดีพีในระยะยาวได้นั้น ตนเห็นว่าเป็นความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ อย่างแรกคือ เรามีความเชื่อมั่นด้วยกลไกที่เป็นตัวเงินผ่านระบบดิจิทัล และมีเงื่อนไขกำหนดก็จะทำให้เกิดการหมุนเวียนในเศรษฐกิจที่มากกว่าแน่นอน ส่วนการเดินหน้าในเรื่องของพ.ร.บ.กู้เงิน ไม่ต้องเป็นห่วง แต่อาจจะมีคนสงสัย และเป็นมุมมองทางข้อกฎหมายที่แตกต่างกันได้ขึ้นอยู่กับการตีความ และรัฐบาลมีหน้าที่ในการชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องออกเป็นพ.ร.บ.กู้เงิน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำอีกว่า ปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาลไม่ได้มองมิติเพียงแค่เฉพาะหน้า แต่รัฐบาลมองถึงทิศทางการพัฒนาประเทศที่เรารับทราบกันดีทุกฝ่ายว่าขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่ถดถอย ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยไม่ได้ดูดีแบบในอดีตที่ผ่านมา เรามีความจำเป็นจะต้องพลิกฟื้นปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ รวมถึงสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล ให้มีความเข้มแข็งเพื่อรองรับเศรษฐกิจโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงไป

ส่วนหากพ.ร.บ.กู้เงิน เข้าสู่สภาฯ แล้วไม่ผ่านจะเกิดความเสี่ยงทางการเมืองหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ แต่ต้องยอมรับว่ากลไกนี้ต้องไปตรงมาที่สุด ถ้าเราใช้วิธีการอื่น เช่น มาตรา 22 ก็จะมีการครหาว่าจะเป็นการหลบเลี่ยงหรือไม่ ดังนั้นวิธีการนี้ตรงไปตรงมา เป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุด ส่วนความเสี่ยงทางการเมืองเรามีความเชื่อมั่นเสียงของฝั่งรัฐบาล จริงๆฝ่ายค้านเองก็ไม่ได้ปฏิเสธนโยบาย แต่อาจจะมีข้อสงสัยในกระบวนการ

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้แนะนำให้ออกเป็นพ.ร.บ.เงินกู้จริงหรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีพูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ส่วนกรณีหากมีการใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 245 ให้องค์กรอิสระมีส่วนในการตรวจสอบนโยบายรัฐบาลนั้น ตนยินดี เพราะการตรวจสอบเป็นเรื่องดี ตนพร้อมที่จะไปชี้แจง วันนี้เราพร้อมแล้ว เนื่องจากโครงใหญ่เริ่มชัดเจนและเราตอบได้ทุกประเด็น ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็เป็นมุมมองของแต่ละคน ในขณะเดียวกันเราชี้แจงเพื่อคลายข้อสงสัยให้กับองค์กรอิสระที่มีการตั้งทีมขึ้นมาเพื่อตรวจสอบให้รัดกุม ทำให้เราไม่ได้อยู่ในความประมาทและดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ เมื่อลดข้อกังวลแล้ว อีกประการก็ต้องรับฟังข้อเสนอแนะไม่ว่าจะเป็นประเด็นใดก็ตาม วันนี้เรามีการปรับเปลี่ยนในรูปแบบบางประเด็น ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อเสนอแนะจากสังคมและนักวิชาการทั้งสิ้น เราพยายามปรับให้โครงการดิจิทัล 10,000 บาท ประสบความสำเร็จสูงสุดและมีความเหมาะสมกับสภาพสังคม ทั้งนี้ ไม่กังวลหากหลายคนมองว่าโครงการนี้เป็นการตั้งธงล้มรัฐบาล และยืนยันว่าไม่มีการทยอยจ่ายแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พ่อเมืองสี่แคว!!!!! ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมและอำนวยความสะดวกการจราจร ในช่วงเทศกาลลอยกระทง
"นายกฯ" ย้ำไม่ชิงยุบสภาก่อน ขอรักษาสัญญากับพรรคปชน. ไม่มีบริหารประเทศแบบกลั่นแกล้ง แย้มข่าวดีคนละครึ่งพลัส เฟส 2 มาแน่
"อัจฉริยะ" นำหลักฐาน เส้นเงินบัญชีม้า ยื่น กมธ.มั่นคงฯ พร้อมชน"ธรรมนัส" ไม่หวั่นโดนฟ้อง
ลุงชาวโคราช ถูกมิจฉาชีพแฮกเฟซลูกสาวหลอกโอนเงิน 120,000 บาท ตำรวจโพธิ์กลางประสานอายัดทันควัน ช่วยเงินกลับคืนครบ
"ปธ.บอร์ดสลากฯ" แจงละเอียดโควต้าจัดสรรสลากฯ พร้อมร่วมทุกหน่วยตรวจสอบ เพื่อความโปร่งใส แม้จุดเริ่มมาจากเหตุการเมือง
ผู้การฯ โคราชเข้ม “ลอยกระทงปลอดภัย” สั่งทุกโรงพักดูแลประชาชน ห้ามจุดพลุ ยิงปืนขึ้นฟ้า ฝ่าฝืนเจอดำเนินคดีเด็ดขาด

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​