“ลอรี่ พงศ์พล” ซัดไอ้โม่งเสี้ยมเลิก “แปรอักษร” วอนอย่าปลุกปั่นการเมือง ย้ำพี่น้อง 4 รร. ดูแลกันดี

การกล่าวหาว่า ‘การแปรอักษร’ เป็นการบังคับนั้นไม่ถูกต้อง และเท่าที่เช็คกับเจ้าหน้าที่รร.ล่าสุดนั้น นักเรียนส่วนใหญ่ที่ขึ้นแปร คือ ม.2. – ม.4 ..ต่างสมัครใจขึ้นสแตนด์ ออกแต่เช้าตี5-6โมง เพื่อตั้งแถวแปรอักษรเองทั้งนั้น เพราะถือเป็นเกียรติประวัติ ความภูมิใจส่วนบุคคล และหลายเด็กคนรู้สึกดี ที่ได้ทำกิจกรรมนอกห้องเรียน (ซ้อมเชียร์ = ไม่ต้องเรียน) ส่วนนักเรียนคนไหนไม่สามารถมาร่วมได้ หรือไม่ประสงค์จะร่วมกิจกรรมนั้น ..ทางโรงเรียนเปิดโอกาส ให้ตอบแบบฟอร์มยืนยันถึงสาเหตุที่ไม่ร่วม ..ยกตัวอย่างช่วงโควิด ก็มีนักเรียนป่วยลามาเป็นลายลักษณ์อักษรได้ จึงขอสรุปได้ว่า การแปรอักษรของโรงเรียนเป็นกิจกรรมที่นักเรียน ‘สมัครใจเข้าร่วม’ ไม่ใช่การบังคับขู่เข็ญ ตามที่ผู้ไม่หวังดีปลุกปั่นแต่อย่างใด

อีกทั้งการดูแลนักเรียนในวันงาน มีอุปกรณ์ที่พร้อมทั้ง สวัสดิการทีมพยาบาลดูแลสุขภาพ ชุดป้องกันหมวก-ปลอกแขนกันแดด, ตัวสแตนด์ไว้ตั้งเพลต ชุดกระเป๋าที่พร้อมด้วยน้ำ ขนมนมเนยมากมาย อีกทั้งการจัดการที่ดีจากรุ่นพี่ ม.5-6อาสา ที่ดูแลน้องๆเป็นอย่างดี จะเห็นได้ว่าตลอด30ปี ไม่เคยมีปัญหาแต่อย่างใด กิจกรรมแปรอักษรแบบนี้ (ภาษาอังกฤษเรียก Card Stunts) แม้ในประเทศอเมริกา ต้นแบบเสรีประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยชั้นนำ อย่าง Stanford, UCLA หรือ เบิร์กลี่ เค้าทำกันมาเป็น100ปี เริ่มในงานกีฬามหาวิทยาลัย แปรอักษรช่วงพักครึ่ง เริ่มมาตั้งแต่ปี คศ. 1910 ซึ่งก็คือที่มา ของการแปรอักษรในโรงเรียน กลุ่มโรงเรียนจตุรมิตร ทั้ง4นั่นเอง