‘ไทยสร้างไทย’ ชวนฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ 15 พ.ย.ปมฟ้องนายกรัฐมนตรี

‘ไทยสร้างไทย’ ชวนปชช.ติดตามฟังผลคำสั่งของศาลอุทธรณ์ 15 พ.ย.นี้ หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำสั่งให้ส่งสำนวนให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเขตอำนาจของศาลอาญาทุจริตปมฟ้องนายกรัฐมนตรี

วันที่ 30 ส.ค. -พรรคไทยสร้างไทย โดย นายโภคิน พลกุล ประธานกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ นายวัฒนา เมืองสุข ประธานคณะกรรมการกฎหมายและการเมือง แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีฟ้อง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หลังจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำสั่งให้ส่งสำนวนความเห็นให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคดีอยู่เขตอำนาจของศาลอาญาทุจริต และประพฤติมิชอบหรือไม่

 

นายโภคิน กล่าวว่า ตามที่พรรคไทยสร้างไทยได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนว่าควรฟ้องและดำเนินคดีกับรัฐบาล กรณีบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 บกพร่องผิดพลาดอย่างร้ายแรง ปรากฏว่ามีประชาชนเข้าชื่อให้ฟ้องร่วม 700,000 คน ทางพรรคได้ประสานกับสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยให้เป็นทนายความ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ต่อมาเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยได้เป็นทนายความยื่นฟ้อง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 157 และ 165 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ในวันที่ 30 สิงหาคม 2564 เวลา 09.30 น.

 

โดยวันนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำสั่งว่า กรณีมีปัญหาว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางหรือไม่ เห็นควรส่งสำนวนนี้ให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัย และรอการพิจารณาคดีไว้ชั่วคราวจนกว่าประธานศาลอุทธรณ์จะได้มีคำวินิจฉัย ให้นัดพร้อมเพื่อรอฟังผลหรือฟังคำสั่งของประธานศาลอุทธรณ์ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 เวลา 9.00 นาฬิกา ซึ่งพรรคไทยสร้างไทย จะติดตาม และปรึกษาหารือกับสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับคดีนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป

 

ด้านนายวัฒนา กล่าวว่า กรณีมีข้อสงสัยว่าคดีใดจะอยู่ในอำนาจศาลหรือไม่นั้น ตามพระราชบัญญัติการจัดตั้งศาลอาญาทุจริต และประพฤติมิชอบ มาตรา 11 ให้ดำเนินการส่งสำนวนให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัย และให้ถือเป็นที่สุด ซึ่งหากเทียบเคียงกับคดีการดำเนินการฟ้องร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เมื่อปี 2562 ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา มีคำวินิจฉัยให้ประชาชนสามารถดำเนินการฟ้องร้องคณะกรรมการ ป.ป.ช.ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้ แต่ครั้งนี้เนื่องจากเป็นการฟ้องนายกรัฐมนตรี ศาลอาจจะต้องการความรอบในการดำเนินคดี ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. กับนายกรัฐมนตรี อยู่ในกลุ่มประเภทเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องติดตามฟังผลคำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ์ ซึ่งกระบวนการต่อไป หากศาลมีคำสั่งรับฟ้อง จะดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เจ้อเจียงเปิดตัว 'แพลตฟอร์มท่องเที่ยว' พลัง AI
กกล.บูรพา รวบ 2 สาวไทย อ้างถูกหลอกทำงานปอยเปต เบื้องหลังรับจ้างข้ามแดนเปิด "บัญชีม้า-สแกนหน้า" ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
“50 ปีไม่มีแก่” คำนี้ไม่มีอยู่จริงสำหรับคุณอาร์ต วศิน วรรณพฤกษ์ ผู้บริหารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง
ศน. ต่อยอดกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ “ตักบาตรทางน้ำริมคลองข้าวตอก จังหวัดพิจิตร” ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนเข้าวัด น้อมนำหลักธรรมดำเนินชีวิต
รมว.คลัง โต้ลือ "สหรัฐ" ตัดสินใจเก็บภาษีไทย 36% แจงเร่งยื่นข้อเสนอใหม่ก่อน 9 ก.ค. นี้
"ศิริโชค" อดีตสส.สงขลา โพสต์อัปเดต จับมือลอบเผารถยนต์ได้แล้ว เร่งขยายผลผู้จ้างวาน ไม่หวั่นอิทธิพลมืด
เหยื่อร้อง Top News ถูกตัวแทนนายหน้าประกัน โกงค่าสินไหมอุบัติเหตุกว่าแสน เชื่อทำเป็นขบวนการ
"จีน-เมียนมา-ไทย" เห็นพ้อง ร่วมมือยกระดับกวาดล้างเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ เมืองเมียวดี
“นันทิวัฒน์” ตอกย้ำเขมร ปราสาท “ตาเมือนธม” เป็นของไทยตั้งแต่อดีต ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ตั้งแต่ยังไม่มีชื่อกัมพูชา
เจอแล้ว! “รั้วกั้น-หมุดหลักเขต” นับ 100 หมุด ชี้ชัด 3 ปราสาทอยู่ในแผ่นดินไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น