ด่วน! รวบตัว “อิทธิพล คุณปลื้ม” คาสนามบินสุวรรณภูมิ หลังบินกลับไทย

ด่วน! รวบตัว "อิทธิพล คุณปลื้ม" คาสนามบินสุวรรณภูมิ หลังบินกลับไทย

จากกรณีนายอิทธพล คุณปลื้ม ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ออกหมายจับ ในกรณีพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (แบบ อ. 1) ให้แก่บริษัท บาลี ฮาย จำกัด เพื่อก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ยื่นขอ อำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 ออกหมายจับผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 3 ราย ประกอบด้วย นายอิทธิพล คุณปลื้ม ,นายพิเชษฐ อุทัยวัฒนานนท์ และ นายวิทยา ศิรินทร์วรชัย ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ก่อนพบว่านายอิทธิพลหลบหนีออกนอกประเทศไทยไปแล้ว

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด วันที่ 9 ต.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง คุมตัว นายอิทธิพล คุณปลื้ม ไว้ได้ขณะเดินทางเข้ามาประเทศไทย กลางสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเดินทางมากับเที่ยวบิน KR701 เดินทางมาจากกรุงพนมเปญ กัมพูชา โดยจะนำตัว นายอิทธิพล ส่งสำนักงานอัยการคดีทุจริตภาค 2 จังหวัดระยอง ทันที

 

 

 

ก่อนหน้านั้น นายคำนึง วงษ์ทวีทรัพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค2 ให้ความเห็น กรณีการหมดอายุความคดี เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถควบคุมผู้ต้องหามาส่งฟ้องให้ได้ภายในวันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566 เนื่องจากมีอายุความ 15 ปี และสิ้นสุดหมดอายุในวันที่ 10 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะไม่สามารถดำเนินคดีเอาผิดกับนายอิทธิพลตามกฏหมายได้

โดยระบุต้องนำไปพิจารณาต่อว่า คดีของนายอิทธิพล คุณปลื้ม จะเข้าข่ายตามมาตรา 13 พ.ร.บ.วิธีการพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 “ในกรณีผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีไป ในระหว่างการถูกดำเนินคดี หรือระหว่างการพิจารณาคดีของศาล มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหา หรือจำเลยหลบหนี รวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ ซึ่งหากเข้าข่ายก็จะต้องมีการขอหมายจับเพื่อเอาตัวมาดำเนินคดีต่อไป เพราะยังถือว่าคดียังไม่หมดอายุความ” หรือไม่

สำหรับคดีนี้ มีผู้ร่วมกระทำผิด และถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดรวม 10 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ

กลุ่มแรก คือกลุ่มผู้ออกใบอนุญาต มี 5 คน ซึ่งมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รวมอยู่ด้วย และกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มผู้อนุญาตให้ก่อสร้าง มี 5 คน

โดยในคดีนี้กลุ่มแรกได้ถูกนำตัวส่งฟ้องไปแล้ว 4 คน ขาดนายอิทธิพล คุณปลื้ม ที่ยังไม่มามอบตัว และ กลุ่มที่ 2 อีก 5 คน ก็ยังคงหลบหนี

 

ขณะที่ นายวีรศักดิ์ โชติวานิช รองโฆษกสภาทนายความ แสดงความเห็นทางกฎหมายว่า ต้องย้อนไปดู พนักงานสอบสวนคดีนี้คือ ป.ป.ช.ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 บัญญัติว่า ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่1 ปี ถึง 10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา 95 (2)บัญญัติไว้ว่าถ้ามิได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลภายใน 15ปี เป็นอันขาดอายุความ

เช่นนั้นเมื่อ ป.ป.ช.ยังไม่อาจนำตัวส่งทางอัยการ และอัยการยังไม่ได้ตัวมาฟ้องต่อศาล ก็ต้องพิจารณาถึงประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6)สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป เมื่อคดีขาดอายุความ เมื่อสิทธิการดำเนินคดีอาญาระงับไปแล้ว อัยการจึงไม่อาจนำคดีมาฟ้องได้อีก

“คดีนี้จะเห็นได้ว่า ป.ป.ช. มีเวลาทำสำนวนและเอาตัวผู้ต้องหามาส่งอัยการนานถึง15ปี แต่ความเป็นจริงกลับเพิ่งส่งสำนวนให้อัยการไม่ถึงเดือนก่อนจะขาดอายุความ เพราะเหตุใด ป.ป.ช.ถึงทำสำนวนล่าช้าขนาดนี้ ซึ่งตรงนี้ต้องไปดู กฎหมายป.ป.ช.เรื่องการสอบสวนจะเห็นว่ามีความแต่งต่างกับ พรบ.การสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ตรงที่ป.ป.ช.สอบสวนได้เองโดยไม่ต้องมีอัยการเข้าร่วม แต่ดีเอสไอสอบสวนจะต้องมีอัยการเข้าร่วม

ดังนั้นสำนวนของดีเอสไอจะไม่มีปัญหาเรื่องขาดอายุความเพราะมีอัยการคอยกำกับอยู่ ถึงเวลาแล้วจะต้องกลับมาดูว่า ควรแก้ไขปรับปรุงวิธีการสอบสวนของป.ป.ช.ให้เหมือนดีเอสไอ สังคมและผู้มีอำนาจต้องช่วยกันผลักดันเรื่องนี้ มิเช่นนั้น จะเกิดเหตุซ้ำซาก คดีนายอิทธิพล หากหนีจนขาดอายุความ ไม่ใช่คดีแรก แต่มีคดีพ่ออดีต รมช.ศึกษาฯเกิดขึ้นมาก่อน

ส่วนกรณีสำนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ที่ให้ ป.ป.ช.ไปขอหมายจับศาลใหม่โดย เล็งตีความกฎหมาย ป.ป.ช.ใหม่เรื่องไม่ให้นับอายุความนั้น รองโฆษกสภาทนายความ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน เพราะคดีนายอิทธิพล หนีจนไม่ได้ตัวมาฟ้อง ยังไม่ถึงศาล เเต่เรื่องการไม่นับอายุความ อัยการต้องได้ตัวมาฟ้องศาลแล้วต่อมาได้ประกันตัวและหนีระหว่างได้ประกันตัว คดีตัวต้องอยู่ในอำนาจศาลแล้วเท่านั้น ในหมายจับคดี 157 ก็จะมีเขียนอยู่ว่าให้จับกุมตัวมาได้จนถึงวันที่เท่าไหร่

เรื่องนี้ ป.ป.ช.ก็คงจะไปขอออกหมายจับใหม่ตามที่อัยการบอก เพื่อให้ศาลตีความถ้าตีความตามกฎหมาย ป.ป.ช.ใหม่ก็ออกหมายใหม่ เเต่ถ้าไม่ตีความใช้กฎหมายเดิมก็ยกคำร้องให้หมายจับเดิมมีผลถึงวันที่ 10 ก.ย.นี้ซึ่งครบ 15 ปี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สหรัฐ" ร่วมฉลอง "วันชาติโมร็อกโก" ให้คำมั่น ยังพร้อมสนับสนุนอำนาจอธิปไตยของ "โมร็อกโก" บนพื้นที่ซาฮาร่า
"กองทัพไทย" ประณาม “กัมพูชา” ปล่อยทิ้งร่างทหารคาสนามรบ ซัดไร้มนุษยธรรม ละเมิดเกียรติศักดิ์ศรีผู้เสียชีวิต
ผู้ประกอบการตราดกระทบหนัก จี้ ภาครัฐเยียวยา ช่วยเหลือทั้งให้สินเชื่อและชะลอจ่ายสินเชื่อ เพิ่มมาตรการภาษีและขาดแรงงาน
"หมอมิ้ง" ยัน "นายกฯอิ๊งค์" ไม่ลาออก ย้ำเจตนารมย์คุย "ฮุน เซน" ทำเพื่อชาติ มั่นใจปท.ผ่านพ้น 2 วิกฤต
ไม่รอด ! ฉวยโอกาส ขณะกำลังฝ่ายความมั่นคงเฝ้าชายแดน 2 ผู้ต้องหาลอบขนบุหรี่เถื่อนจากกัมพูชา
"โฆษกกต." เผยไทยเชิญองค์การระหว่างประเทศ เข้าพบ “18 เชลยกัมพูชา” พรุ่งนี้ รับทราบข้อเท็จจริง ไล่บี้เขมรชดใช้ปมยิงถล่มรพ.-บ้านพลเรือน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​