“กองทัพเรือ” แฉอีก เจอหลักฐาน เอกสารสำคัญ “เขมร” ฝึกสอนทหาร ใช้งานทุ่นระเบิด PMN-2


ข่าวที่น่าสนใจ
19 ธันวาคม 2568พลเรือตรีปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่า ภายหลังกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด หรือ กปช.จต. ได้เข้าควบคุมและยึดคืนพื้นที่บริเวณ บ้านหนองรี จังหวัดตราด ซึ่งเดิมถูกใช้เป็นฐานที่มั่นทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ภายหลังการเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ตรวจพบคลังเก็บหุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ถูกตัดแปลงจากหุ่นระเบิดดักรถถัง จำนวน 16 ลูกที่พร้อมใช้งาน ซึ่งถือว่าการกระทำที่มีลักษณะจงใจสร้างอันตรายโดยไม่เลือกเป้าหมาย และเป็นภัยคุกคามร้ายแรง ต่อทั้งกำลังพลและพลเรือน
นอกจากนี้ จากการตรวจยึดและตรวจสอบพื้นที่ฐานพลุ๊กดรัมเรย หรือ บ้านสามหลัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยยังได้ตรวจพบเอกสารทางทหารของฝ่ายกัมพูชา เป็นเอกสารการจดบันทึกของผู้เข้ารับการฝึกใช้งานหุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMIN-2 โดยมีเนื้อหาครอบคลุมถึงลักษณะทั่วไปของหุ่นระเบิด การวาง และการเก็บกู้ ซึ่งมีการระบุวันที่จัดการสอนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 อีกด้วย เอกสารดังกล่าวถือเป็นพยานหลักฐานที่ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชามีการอบรมให้ทหารกัมพูชาใช้งานหุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง มิใช่การกระทำโดยบังเอิญหรือเฉพาะหน้า และสะท้อนถึงเจตนาในการใช้สงครามหุ่นระเบิดสังหารบุคคลต่อฝ่ายไทย ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงการละเมิดกฎหมายมนุษยธธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
กองทัพเรือขอเน้นย้ำว่า การกระทำดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา เป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยุธธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงโดยขัดต่อพันธกรณีระหว่างประเทศหลายประการ อาทิ
-อนุสัญญาออตตาวา ค.ศ.1997 ซึ่งกำหนดท้ามการใช้ ผลิต หรือครอบครองหุ่นระเบิดสังหารบุคคล
-พิธีสารเพิ่มเติม ฉบับที่ 1 แห่งอนุสัญญาเจนิวา ที่บัญญัติหลักการแยกแยะระหว่างเป้าหมายทางทหารกับพลเรือน และห้ามใช้อาวุธหรือวิธีการรบที่มีลักษณะไม่สามารถจำกัดผลกระทบต่อเป้าหมายทางทหารได้
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้ ครอบครอง รวมถึงดัดแปลงทุ่นระเบิดสังหารบุคคลดังกล่าว และเจตนาในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMIN-2 ไม่เพียงเป็นการฝ่าฝืนพันธกรณีตามกฎหมายสากลเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนถึงการไม่เคารพหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน และกองทัพเรือขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยทันที พร้อมทั้งแสดงความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อความปลอดภัยของประชาชนและเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดน
ไทยขอยืนยันว่าจะดำเนินการปกป้องอธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ และความปลอดภัยของประชาชนภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษธธรรมอย่างเคร่งครัด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น