วันนี้ 27 ส.ค. 64 ร.ต.อ.อรรถพล สายทองแก้ว รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุสามีใช้อาวุธมีแทงและปาดคอภรรยาเสียชีวิต เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 129 /9 ถ.บ้านโพธิ์ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.แสวง เปรมปรัชชา สวป.สภ.เมืองตรัง ร.ต.อ.พรศักดิ์ โออินทร์ รอง สวป.สภ.เมืองตรัง ร้อยเวร 20 และชุดสายตรวจอินทรีย์ ถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านแบบอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายคูหา เข้าไปบริเวณห้องครัวภายในบ้าน พบกองเลือดจำนวนมากไหลนองอยู่บนพื้น ติดกับเคาน์เตอร์ ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นางศิริลักษณ์ เมืองทอง หรือแป้ง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่หลังเกิดเหตุ อาชีพเจ้าของร้านขายน้ำ ถูกนำส่ง รพ.ศูนย์ตรังไปก่อนหน้า จากการชันสูจน์พลิกศพเบื้องต้นพบบริเวณลำคอถูกปาดด้วยมีดเป็นแผลฉกรรจ์ตัดหลอดลม และถูกแทงเข้าที่ชายโครงด้านซ้าย และท้อง จำนวน 4 แผล
ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายศรายุทธ หนูเหมือน หรือเอ อายุ 27 ปี อาชีพพนักงานฝ่ายบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครตรัง ซึ่งเป็นสามี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปพร้อมอาวุธมีด ต่อมาในเวลา 02.15 น. ได้เดินทางเข้ามอบตัวและรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยของกลาง อาวุธมีดปลายแหลม สแตนเลส (มีดทำครัว) เปื้อนเลือด ความยาวของคมมีดประมาณ 21 ซม. ด้ามจับยาว 12 ซม. ก่อนเจ้าหน้าที่จะทำการควบคุมตัว ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและชี้จุดก่อเหตุช่วงคืนที่ผ่านมา และได้นำตัวไปเค้นสอบสวน เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสอบถาม นายเยศ เมืองทอง อายุ 70 ปี อดีตสมาชิกสภาเทศบาล นครตรัง (ส.ท.) หลายสมัย พ่อบุญธรรมผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายเป็นลูกสาวบุญธรรมของตน โดยเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก และได้ยึดอาชีพเปิดร้านขายน้ำปั่น ชากาแฟ และน้ำชง บริเวณฝั่งตรงกันข้ามกับบ้าน ได้แต่งงานอยู่กินกับสามีมาประมาณ 8 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน หญิงอายุ 7 ขวบ ชาย อายุ 4 ขวบ และอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้จำนวน 3 คน มีตนเอง ลูกสาว และลูกเขย ส่วนลูกๆของทั้งคู่อยู่บ้านลูกเขย
นายเยศ เล่าต่อว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ได้เดินทางกลับมาจากงานบำเพ็ญกุศลศพของญาติฝ่ายสามี เมื่อกลับมาถึงตนได้ยินทั้งคู่ทะเลาะมีปากเสียงกันภายในห้องนอน แต่ไม่รุนแรง ประมาณ 10 นาที ก่อนที่ลูกสาวจะวิ่งออกมาจากห้องนอน เพื่อหนีไปในห้องครัว แต่ฝ่ายชายได้กระชากให้ล้มลง ก่อนจะใช้เท้าเหยียบลำคอ และคว้ามีดทำครัวมาถือไว้ ตนจึงเข้าไปห้ามปราบ พยายามยื้อแย่งมีดเพื่อที่จะช่วยเหลือ แต่ฝ่ายชายได้ใช้มีดกระหน่ำแทงจำนวนหลายแผลพร้อมทั้งใช้มีดคว้านแผลหมุนมีดอย่างโหดเหี้ยม และสุดท้ายได้ใช้มีดปาดคอลูกสาวจนแน่นิ่ง ก่อนที่ฝ่ายชายจะหลบหนีไป ส่วนตนเองได้ให้หลานที่อยู่ใกล้กันมารับไปส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ทันแล้วนายเยศ เล่าอีกว่า ตนรู้สึกเสียใจที่ช่วยเหลือลูกไว้ไม่ได้ ตนสู้แรงไม่ไหว ประกอบกับสาตายตาฝ่าฟาง มองเห็นไม่ชัด และถือเป็นเสาหลักของครอบครัวที่ดูแลตนเอง และลูกน้อยอีก 2 คน ที่ผ่านมาลูกเขยเป็นคนนิสัยดี ไม่คิดว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้ ส่วนปมสาเหตุมาจากเรื่องหึงหวง โดยที่ฝ่ายชายคิดว่าลูกสาวไปคบชู้ เพราะลูกสาวมีเพื่อนทั้งชายหญิงค่อนข้างมาก.
ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตรัง
