สงครามสีกากี เทียบข้อต่อสู้ ตำรวจชุดจับกุม VS ทีมบิ๊กโจ๊ก

สงครามสีกากี เทียบข้อต่อสู้ ตำรวจชุดจับกุม VS ทีมบิ๊กโจ๊ก

กลายเป็นสงครามสีกากีอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อ บิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. และ 8 ตำรวจลูกน้องคนสนิทประกาศเอาคืน จะดำเนินคดีกับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกค้นบ้านพักของบิ๊กโจ๊กในซอยวิภาวดี 60 และสู้คดีเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ของมินนี่ หรือ นางสาวธันยนันท์ พร้อมมอบหมายให้นายอนันต์ชัย ไชยเดช เจ้าของฉายา “ทนายกระดูกเหล็ก” มาเป็นหัวหน้าทีมสู้คดี

ทีมข่าวท็อปนิวส์จึงได้ตรวจสอบข้อต่อสู้หลักของทั้งสองฝ่ายในเวลานี้ โดยฝ่ายตำรวจชุดจับกุมมีประเด็นต่อสู้หลัก ดังนี้

1. 8 นายตำรวจซึ่งเป็นลูกน้องของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ มีความเชื่อมโยงกับมินนี่ เจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์ หลังได้สืบสวนสอบสวนขยายผลจากการจับกุมมินนี่ เมื่อวันที่ 30 กรกฏาคมที่ผ่านมา
2.ตำรวจมีหลักฐานเป็นเส้นทางการเงินจาก “มินนี่” ที่โอนเข้าบัญชี 8 นายตำรวจ ผ่านบัญชีม้า ซึ่งพันตำรวจเอกภาคภูมิ พิศมัย ลูกน้องคนสนิทบิ๊กโจ๊กเป็นผู้ถือบัญชีม้า ก่อนจะกระจายโอนเงินไปให้ตำรวจ 7 นาย และมีเงินโอนเข้าบัญชีพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ด้วย
3.พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี และ ในฐานะหัวหน้าชุด PCT 5 ซึ่งเป็นชุดจับกุม ยืนยันคดีนี้ทำถูกต้องตามขั้นตอนของกฏหมาย ตั้งแต่การขอหมายค้นและการขอหมายจับ
4.พลตำรวจโทไตรรงค์ ชี้แจงว่า ในหมายจับไม่ได้บังคับให้ระบุยศตำรวจ ให้ใส่เพียง แค่นาย ชื่อ และรูปพรรณ ก็ได้
5.พลตำรวจโทไตรรงค์ ชี้แจงอีกว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชุดทำงานออกหมายจับตำรวจ ด้วยการใช้สรรพนามว่านาย

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนข้อต่อสู้ของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์และทีมทนายนั้น มีดังนี้

1.8 นายตำรวจลูกน้องของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ มีเพียงพันตำรวจเอกภาคภูมิคนเดียวที่รู้จักมินนี่
2.ทนายอนันต์ชัย ชี้แจงว่า หากตำรวจรับเงินจากมินนี่มา แต่ไม่รู้ว่าเงินดังกล่าวมาจากการทำเว็บพนันออนไลน์ ก็อาจจะไม่มีความผิด
3.พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ชี้ว่าการขอหมายค้นและหมายจับของชุดจับกุม เป็นการร่วมกันปกปิดข้อเท็จจริงต่อศาล เพราะเจ้าหน้าที่ทราบดีว่าเป็นบ้านที่ตนอาศัย แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดให้ศาลทราบ หากศาลทราบว่า เป็นบ้านของตน ศาลคงให้ความเป็นธรรม

 

4.พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ และทนายอนันต์ชัย ระบุว่า การจอหมายค้นและหมายจับในคดีนี้ ไม่แจ้งยศ ตำแหน่ง และต้องไปขอที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ไม่ใช่ไปขอที่ศาลอาญากรุงเทพใต้
5.พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ และทนายอนันต์ชัย ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ขอให้มีคำสั่งไต่สวนเรื่องละเมิดอำนาจศาลปมขอหมายจับ

ทั้งหมดคือข้อประเด็นต่อสู้หลักของทั้งสองฝ่าย ซึ่งสุดท้ายกระบวนการยุติธรรมจะเป็นผู้ตัดสิน ว่างานนี้ใครจะอยู่หรือใครจะไป

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สอบสวนกลาง บก.ปคม. สนธิกำลัง ลุยตรวจวอล์คกิ้งสตรีท ป้องปรามค้ามนุษย์ สิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ยันเป็นเมืองเข้มงวด ปลอดภัย
"โฆษกภูมิใจไทย" แถลงยัน หน.พรรค-กก.บห.พร้อมแสดงหลักฐาน แก้กล่าวหาคดีฮั้วเลือกสว. ชี้หนังสือส่อพิรุธ ดีเอสไอครอบงำ
"สงขลาคัพ 2568" ปิดฉากสุดคึกคัก หาดใหญ่เหมาแชมป์ 4 รุ่น พร้อมกับคว้าสิทธิ์ลุย "กัปตันสึบาสะ คัพ" ที่ประเทศญี่ปุ่น
สหรัฐจ่อขึ้นบัญชีดำธุรกิจฟอกเงินกัมพูชาโยงญาติฮุนมาเน็ต
ฮุนเซนวิงวอนนานาชาติหนุนกัมพูชาในศาลโลก
ฮุนเซนบอกคนไทยให้โทษกองทัพตัวเองถ้ากัมพูชาปิดด่าน
"สันติสุข" สวนแรง 6 คำขู่ "ฮุนเซน" ปลุกเขมรตอบโต้ไทย สุดท้ายทำปท.เดือดร้อน หลักฐานชี้ "พ่อลูกฮุน" ไม่ได้รักประชาชนจริง
"อนุทิน" เผยคุย "นายกฯอิ๊งค์" ไม่มีปมปรับครม. มั่นใจนั่งเก้าอี้มหาดไทยต่อ
"ฮุน มาเนต" โพสต์ส่งตัวแทนกัมพูชา ยื่นจดหมายถึงศาลโลกแล้ว ลั่นจะไม่ถอยหนี หวังฮุบ 4 พื้นที่พิพาท
เตือนภัย "มิจฉาชีพ" อ้างเป็นทนาย-ตำรวจ หลอกช่วยเหลือคืนเงินผู้เสียหายคดีออนไลน์ พบสูญเงินกว่า 10 ล้าน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น