หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ ร่วมกันกับพวกรวม 7 คน ก่อเหตุใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดทรมานจนเสียชีวิต ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในเวลาต่อมา ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น บุคคลที่ติดร่างแหได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์โหดเหี้ยมนี้ คือ น.ส.พรพจี ศิริสิทธิ์ หรือ ใบเตย ผู้ประกาศข่าวช่องดัง ซึ่งเป็นแฟนสาวของผู้กำกับโจ้ เพราะถูกคนเข้ามาคอมเม้นต์ถล่มอินสตาแกรมของตนเองอย่างหนัก จนต้องปิดไปชั่วคราว ก่อนจะกลับมาเปิดสาธารณะอีกครั้ง มิหน่ำซ้ำยังถูกขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตระหว่างสาวใบเตยกับผู้กำกับโจ้มาโจมตีทางโซเซียลมีเดียอีกด้วยนั้น
ล่าสุดสาวใบเตย ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกผ่านรายการ แซ่บทะลุจอ ซึ่งออกอากาศทางช่อง GMM25 เป็นที่แรกว่า ในใจทุกคนก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่า เหตุการณ์ทั้งหมดมันค่อนข้างส่งผลกระทบรุนแรงแบบที่เราตั้งคำถามว่า ความทุกข์ของมนุษย์มันเป็นได้ขนาดนี้เชียวหรือ ถ้าใครไม่ประสพพบเจอน่าจะไม่มีทางเข้าถึง และเข้าใจได้เลย เพียงแต่ว่าเตยยังเชื่อมั่นในครอบครัว มีคุณพ่อมีคุณแม่มีพี่ชายมีพี่สะใภ้มีครอบครัวเป็นหลักยึดจิตใจไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถมีชีวิตหรือว่ามานั่งหายใจหรือแม้แต่กระทั่งมาให้สัมภาษณ์ในวันนี้ได้เลย
และไม่ได้มีการแต่งงาน ไม่มีพิธีมงคลสมรสนะคะ ตามรูปที่หลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจผิดด้วยความที่ตัวพี่ปลา เองก็ได้โทรมาพูดคุยกันส่วนตัวแล้วกล่าวขอโทษทั้งตัวเตยแล้วก็ครอบครัว ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างรุนแรง ซึ่งพี่ปลาเองก็ได้ลงชี้แจงอธิบายไปแล้วว่า เป็นการไปพบสมเด็จพระสังฆราชกันทั้งครอบครัว จึงเป็นการแต่งกายที่เหมาะสมเท่านั้นเองค่ะ
จริง ๆ เข้าใจเพราะว่า รูปภาพมันมีความใกล้เคียงและคล้ายมากแต่ว่า เรารู้อยู่แล้วว่า เราไปทำอะไรเพราะฉะนั้นคนก็จับโยงไปได้หมดจะโยงอะไรก็โยงได้ จริง ๆ มีภาพรวมครอบครัวกับบ่าวสาวด้วย แต่ว่ามันเป็นภาพที่ส่วนตัว เราไม่ต้องการให้มีใครมาจับใครโยงเรื่องนี้อีกแล้ว แค่นี้ตัวเตยก็หนักมากพอแล้ว เพราะฉะนั้นถ้ามีภาพครอบครัวอีกคนที่ส่งผลกระทบมันจะยิ่งเพิ่มกว้างไปอีก
ตั้งแต่กระแสเข้ามามันเยอะมาก มันรอบด้านจริง ๆ อะไรที่ไม่เป็นความจริงเราก็ไม่ได้ไปสนใจอะไร ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ตัดโซเชียลออกไปเลย เพราะมันเกินจะทนไหวจริงๆ ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนในช่องที่มีความเข้าใจ มองด้วยจิตใจเมตตาและก็เป็นทำไม่ได้รู้สึกว่าการที่คนๆหนึ่งรู้จักกับคน ๆ หนึ่งแล้วคน ๆ นั้นกระทำความผิด เราผิดด้วยหรือ ทุกอย่างเรารู้ดีอยู่แก่ใจคนรอบข้างที่รักเราที่รู้จักเตยมาตลอดชีวิตเขารู้ดี
ความรู้สึกตอนนี้มันแย่อยู่แล้วค่ะแต่ว่ากำลังใจดีอย่างที่บอกว่าเรามีหลักยึดเป็นครอบครัว แล้วก็คนที่รักเราและใจเราเองที่รู้อยู่เต็มอกว่าอะไรเป็นอะไร เตยทำงานในวงการสื่อมาโดยตลอด 10 ปี เตยมีความเข้าใจในความเป็นไปของวงการนี้ ถามว่าหนักไหม หนักมาก เตยจะผ่านมันไปได้ แต่ว่าต้องใช้ระยะเวลา ในวันที่เตยเข้มแข็งขึ้นเตยจะกลับมาทำงานเหมือนเดิมขอบคุณทุกกำลังใจมากๆรับรู้นะคะมันมีค่ามากๆ
