“กัญจนา” รุดเยี่ยม 2 พี่น้อง เหยื่อพ่อแม่โบกปูนลูก วอนสังคม ชี้เป้าความรุนแรงในครอบครัว ช่วยเด็กรอดพ้นถูกทำร้าย

กัญจนา รุดเยี่ยมเหยื่อพ่อแม่ฆ่าโบกปูนเด็ก 2 ขวบ วอน สังคม ชี้เบาะแสความรุนแรงในครอบครัว ให้เด็กรอดพ้นการถูกทำร้าย ไม่เป็นสมบัติที่ชำรุดของสังคม

สืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมพ่อฆ่าลูก 2 ขวบโบกปูน เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ช่วยเหลือนำตัวเด็กหญิง 2 พี่น้อง วัย 12 ขวบ และ 4 ขวบ ที่ถูกพ่อแม่ทำร้าย โดยคนพี่ถูกทุบตีมีบาดแผลหลายแห่ง คนน้องถูกจับแช่น้ำและยังถูกจับขังไว้ในห้องพักบนอพาร์ทเม้นท์ ซอยพหลโยธิน48 แยก11 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร

เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบาย รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย นายนิกร จำนง ประธานคณะที่ปรึกษาเดินทางเข้าเยี่ยมเด็กทั้ง 2 คน ที่บ้านพักเด็กและเยาวชนกรุงเทพฯ บริเวณสถานสงเคราะห์เด็กหญิง บ้านราชวิถี และที่ โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยมี นายธนสุนทร สว่างสาลี รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนางเตือนใจ คงสมบัติ รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ร่วมคณะลงพื้นที่เยี่ยมและติดตามการช่วยเหลือคุ้มครองเด็ก

ข่าวที่น่าสนใจ

น.ส.กัญจนา กล่าวว่า หลังจากที่ได้นำน้องทั้ง 2 คน ออกมาจากจุดที่เป็นอันตราย เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีใครทำร้ายน้องได้ ให้มาอยู่ในความดูแลของ พม. จากนี้จะรักษาบาดแผล และถึงแม้ว่าน้องคนโตจะไม่มีบาดแผลให้เห็นในปัจจุบันแต่มีร่องรอย ส่วนน้องคนเล็กยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่โรงพยาบาล และขั้นตอนต่อไปคือการฟื้นฟูจิตใจ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร จากนั้นจะเป็นการวางแผนอนาคตของน้องว่าจะเป็นไปอย่างไร โดยมีรูปแบบญาติอุปถัมภ์ ดูว่ามีครอบครัวไหน มีความพร้อมสามารถรับน้องไปดูแล หากไม่มีจะต้องหาครอบครัวอุปถัมภ์ที่พอจะรับน้องได้ ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากขั้นตอนของการฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจนั้นกินเวลานานพอสมควร แล้วจึงมาดูขั้นตอนต่อไปกันว่าจะมีญาติอุปถัมภ์ หรือครอบครัวอุปถัมภ์ แต่ถ้าไม่มีเลยสุดท้ายจริงๆ ซึ่งเราไม่อยากให้เกิด คือน้องต้องไปอยู่บ้านสงเคราะห์ ซึ่งแนวทางดังกล่าวทางกรมไม่อยากทำมากที่สุด

น.ส.กัญจนา กล่าวว่า เรื่องความรุนแรงในครอบครัวขอเรียนคนไทยทุกคนว่ากรุณาอย่ามองว่าเป็นเรื่องของครอบครัวใคร ครอบครัวมัน เพราะเราอยู่ในสังคมเดียวกัน โดยเฉพาะถ้าผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว เป็นผู้ที่มีเสียงน้อย เป็นผู้ที่อ่อนแอ เสียงเขาจะไม่มีพลัง ไม่ดัง แต่เพื่อนบ้านใกล้เคียงจะเป็นผู้ที่รู้และสามารถสังเกตเห็นได้ ช่วยเป็นปากเป็นเสียงให้กับพวกเขาด้วย กรุณาถือว่าเราอยู่ในสังคมเดียวกัน ถ้าไม่ช่วยเหลือกันเขาซึ่งเป็นผู้อ่อนแอ ช่วยตัวเองไม่ได้ก็จะเกิดเหตุที่น่าสงสาร จึงอยากให้ทุกคนช่วยเป็นหูเป็นตา เพราะหากเด็กเหล่านี้รอดพ้นจากการถูกทำร้าย โตขึ้นเขาก็จะเป็นสมบัติที่ชำรุดของสังคม แล้วจะเป็นลูกโซ่ของความทารุณ เขาก็จะไปทำทารุณ เพราะเขาเคยถูกกระทำมาก่อน จะเป็นมรดกที่ชั่วร้ายของสังคมไทย เราต้องตัดตอนสิ่งเหล่านี้ เพราะฉะนั้นเยียวยาเขาตั้งแต่ต้น กระทรวงพม.มีสายด่วน 1300 ซึ่งตั้งแต่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพม. เข้ามาก็จะทำให้สายด่วน 1300 เป็นพลังที่พึ่งของสังคมได้ นอกจากนี้ยังมีกรมฯ ได้มีแอพพลิเคชั่นไลน์ ชื่อ “Ess Help Me” หรือระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทางสังคม ESS ที่ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแส ได้อีกช่องทางหนึ่ง

น.ส.กัญจนา กล่าวว่า เวลาเราเห็นข่าวความรุนแรงในครอบครัวมักจะเห็นว่าเป็นภาคเอกชนที่มาเป็นตัวเชื่อมมาโดยตลอด แต่ภาครัฐทำไมจึงไม่เป็นหน่วยงานแรกที่เข้าช่วยเหลือ ซึ่งทางรองอธิบดีอธิบายว่า ภาครัฐทำงานกันมากกว่า 80% เพียงแต่เมื่อเราทำงานซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจึงไม่ค่อยเป็นข่าว ขอย้ำว่าไม่ใช่ว่าหน่วยงานไม่ใช่เป็นผู้รับเรื่องตั้งแต่ต้น เราทำแต่ไม่เป็นข่าว แต่อย่างไรก็ตามถือเป็นเรื่องดีที่ภาคเอกชน ประชาชน ทำงานร่วมกับภาครัฐ เราร่วมด้วยช่วยกัน

ด้านนายนิกร กล่าวว่า รัฐมนตรีวราวุธได้มอบนโยบายกระทรวงพม. แล้วว่าจะมีการปรับแก้กฎหมายเรื่องความรุนแรง เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ดังนั้นต้องเขียนกฎหมายให้ดีเพื่อที่จะดูแลได้ ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในนโยบายของกระทรวงแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"จตุพร" เรียกร้องรัฐบาล รับผิดชอบปมชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสูญเสียทหาร-ปชช. "พิชิต" แท็กทีม จี้ "นายกฯอิ๊งค์" พิจารณาตัว คุย "ฮุน เซน" คลิปเสียงหลุด
"ผอ.พยาบาลรามาฯ" โพสต์ประกาศ พร้อมรับลูกนายทหารสละชีพ เรียนพยาบาลโควตาพิเศษ ไม่ต้องสอบเข้า
"ผู้ว่าฯร.ฟ.ท." ยันตรวจสอบชัดเจน ปมเขากระโดง รออธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เพิกถอนโฉนด
"รมว.ปุ๋ง" รุดให้กำลังใจผู้อพยพ เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ศูนย์พักพิงโคราช กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มดูแลกลุ่มเปราะบาง พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ
วธ. จัดพิธีปล่อยขบวนรถศาสนิกสัมพันธ์ร่วมใจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย-ผู้ได้รับผลกระทบ เหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
"GULF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​