เมื่อเวลา 21.50 น.วันที่ 26 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 กล่าวถึงการมอบตัวของ ผกก.โจ้ ระหว่างการร่วมแถลงข่าวการปิดคดีที่กองปราบปรามว่า ตนได้รับโทร.จากผู้กำกับโจ้ เมื่อคืนวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 23.00 น. บอกว่า ไม่ไหวแล้ว จะฆ่าตัวตาย ตนจึงได้พูดไปว่า ถ้าโจ้ตายแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะเหลืออะไร
“ผมบอกเขาไปว่า ถ้าเป็นลูกผู้ชายพอให้กลับมารับผิดชอบกรณีดังกล่าว เป็นตำรวจต้องมีเกียรติ หนีไปไม่ได้ทำให้อะไรดี เขาบอกว่า พรุ่งนี้(26 ส.ค.) พี่มารับผมที่ชลบุรี หลังจากนั้นก็เสนอผู้บังคับบัญชา ผบ.ตร. ก็อนุมัติให้เดินทางออกจากจ.พิษณุโลก ตอน 9 โมง ตอนเที่ยงก็มีถามว่ามาไหม ก็ถามอยู่ไหน ทางผกก.โจ้ บอก4 โมงเย็น มา สภ.แสนสุข มาคนเดียว อย่ามีอาวุธ ถึงเวลาก็ใส่เครื่องแบบไปยืนรอที่สภ.แสนสุข และเมื่อถึงเวลาก็มีคนเดินลงมาหาและบอก “ผมโจ้” ใส่แมสก์มาจากรถเก๋งสีขาว แต่ไม่ได้มองเลขทะเบียน ก็ทำบันทึก ที่สภ.แสนสุข และรายงานผู้บังคับบัญชา นำตัวมากองปราบ” พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าว
ข่าวแจ้งว่า สำหรับเส้นทางการหลบหนีของผกก.โจ้ หลังเกิดเหตุและเริ่มมีข่าว ผกก.โจ้ ได้หลบไปพักอยู่บ้านย่านรามอินทราตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม จากนั้นติดตามข่าวสารจนกระทั่งมีคลิปดังกล่าวเผยแพร่ทางสื่อโซเซียล ในวันที่ 24 สิงหาคม จึงตัดสินใจหลบหนีไปตั้งหลักที่ จ.ชลบุรี โดยหลบไปพักที่บางแสน ระหว่างการหลบหนี ผกก.โจ้ รู้ว่าถูกชุดสืบสวนสอบสวนติดตามแกะรอยกระชั้นชิดจากกล้องวงจรปิดจนทราบถึงเส้นทางการหลบหนี และคิดกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ก่อนเปลี่ยนใจติดต่อขอมอบตัวเมื่อคืนวันที่ 25 สิงหาคม พร้อมแจ้งพิกัดให้เจ้าหน้าที่กองปราบไปรับตัวที่ สภ.แสนสุข ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ก่อนถูกนำตัวมาที่กองปราบปราม