“ราชทัณฑ์” เตรียมถกรพ.ตร. ปมส่งตัว “นช.ทักษิณ” กลับเรือนจำ หรืออยู่รักษาอาการป่วยต่อ

"ราชทัณฑ์" เตรียมถกรพ.ตร. ปมส่งตัว "นช.ทักษิณ" กลับเรือนจำ หรืออยู่รักษาอาการป่วยต่อ

จากกรณีที่นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ตั้งคำถามผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุเนื้อหาสาระเกี่ยวกับ ระยะเวลาการรักษาตัวนอกเรือนจำของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามกฎกระทรวงยุติธรรม เรื่อง การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ซึ่งลงนามโดยคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น พร้อมระบุว่า หากมีการรักษาตัวนอกเรือนจำนานกว่า 30 วันจะต้องมีความเห็นจากทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ หากนานกว่า 60 วันจะต้องมีความเห็นจากปลัดกระทรวงยุติธรรม และหากนานเกิน 120 วันจะต้องมีความเห็นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมทั้งขอให้มีการแถลงรายละเอียดต่อสาธารณะชนเพื่อคลายข้อสงสัยว่าได้มีการเลือกปฏิบัติต่อนายทักษิณ หรือไม่นั้น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ปัญหาการละเมิดสิทธิประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกที่กำลังเผชิญปัญหาการถูกดำเนินคดีและถูกคุมขัง
การยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายมาตรา 112
การลดความแออัดในเรือนจำ
และการลดการใช้โทษประหารและ

ล่าสุด วันนี้ ( 5 ก.ย.) มีรายงานข่าวจากแหล่งข่าวระดับสูง ว่า สำหรับอาการเจ็บป่วยของผู้ต้องขังตลอดห้วงระยะเวลาการนอนพักรักษาตัว จะมีความทุเลาดีขึ้นหรืออาการทรงตัวอย่างไร จะเป็นดุลยพินิจของนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ที่จะต้องรายงานแจ้งมายังอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อมีความคิดเห็น พิจารณาอนุมัติว่า จะให้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจต่อเนื่อง หรือให้ย้ายกลับมารักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ดังนั้น ในกรณีที่นายทักษิณจะมีการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจนานกว่า 30 วันนั้น แพทย์ที่เป็นผู้รักษาจะต้องรายงานอาการความเจ็บป่วยและความคิดเห็นของแพทย์ไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อพิจารณาอนุมัติตามขั้นตอน และถ้าหากจะมีการรักษานานกว่า 60 วัน ก็จะต้องมีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องและรายงานปลัดกระทรวงยุติธรรมรับทราบ ส่วนถ้าจะมีการรักษานานกว่า 120 วัน ก็จะต้องมีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องและรายงานรัฐมนตรีฯทราบ

 

แหล่งข่าว ระบุอีกว่า เมื่อใกล้ครบกำหนดระยะเวลา พักรักษาตัว 30 วัน ตามหลักการแล้วทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ หรือตัวแทนราชทัณฑ์จะต้องมีการประชุมหารือร่วมกับทีมแพทย์ รพ.ตำรวจ ผู้ทำการรักษา เพื่อมีความเห็นร่วมกันว่า จะอนุมัติให้ยังคงรักษาตัวที่เดิมหรือไม่ อย่างไร และเมื่อถามว่าหากต้องมีการรักษานานเกินกว่า 30 วัน มีแนวโน้มที่นายทักษิณจะย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน ซึ่งจะมีเครื่องมือทางการแพทย์และแพทย์เฉพาะทางเหมาะสมต่อการรักษาหรือไม่นั้น แหล่งข่าว เผยว่า หากโรงพยาบาลที่ได้ลงนาม MOU กับราชทัณฑ์ (หรือ รพ.แม่ข่าย) ยังคงมีศักยภาพในการรักษาก็ยังจะต้องเป็นโรงพยาบาลของรัฐต่อไป แต่ถ้าหากโรงพยาบาลของรัฐที่ลงนามอยู่นั้น ไม่มีเครื่องมือพร้อมในส่วนอื่นใดก็อาจจะมีความจำเป็นต้องพิจารณาย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแทนได้ แต่เท่าที่รับทราบ ยังไม่มีแนวโน้มย้ายนายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงบาลแห่งอื่น

แหล่งข่าว ระบุถึงโครงการพักโทษ กรณีมีเหตุพิเศษเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ว่า ปกติแล้วในเวลา 1 ปี ทางราชทัณฑ์จะมีโครงการอยู่แล้ว ซึ่งเรือนจำจะมีการสำรวจรายชื่อของผู้ต้องขังแล้วก็มีการจัดทำบัญชีรายชื่อ เพื่อแจ้งผู้ต้องขังหากเข้าเกณฑ์ก็ให้ดำเนินการยื่นเอกสารมาทางเรือนจำฯ และที่สำคัญจะต้องมีการรับรองเนื้อหาเอกสารการเจ็บป่วยด้วย อย่างไรก็ตาม ตามเกณฑ์จะต้องมีการรับโทษจำคุกแล้วหนึ่งในสามหรือไม่น้อยกว่า 6 เดือน แต่ในกรณีของนายทักษิณนั้น เข้ามารับโทษจำคุกเพียง 1 ปี หากคำนวนหนึ่งในสามก็เท่ากับ 4 เดือน ซึ่งนายทักษิณก็จะต้องรับโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 6 เดือนก่อน จึงจะเข้าเกณฑ์ยื่นขอเข้าโครงการพักการลงโทษได้ แต่ถ้าหากมีการพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไปในวาระโอกาสสำคัญ ก็จะเป็นอีกกรณีหนึ่ง.

 

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

นายอำเภอวังจันทร์ รุกค้นหาผู้เสพรายใหม่ พร้อมขยายผลผู้ค้ายาเสพติด ภายใต้การสั่งการของ นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง
ฉะเชิงเทรา ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดภายใต้แผนปฏิบัติการ No Drugs No Dealers
"ชาวสุรินทร์" รับไม่ได้ "เขมร" ไร้มนุษยธรรม ยิงปืนใหม่ใส่ รพ.-รร.ติดแนวชายแดน ตัดสินใจปลดอักษร ลบป้ายภาษากัมพูชาออก
"กองทัพภาคที่ 2" สรุปเหตุปะทะชายแดน 1 ส.ค. ไร้เสียงปืน นำส่ง 2 ทหารเขมร บาดเจ็บ - ป่วยเครียดสู้รบ ผ่านการรักษากลับกัมพูชา
สาววัย 35 ปี ควบเก๋งหรู เสยท้าย 18 ล้อ ดับสยองคาซาก
"เศรษฐา" แบ่งเบาภาระเกษตรกรลำไย ประสบภัยน้ำท่วม จัดซื้อตรงกว่า 7,000 กก. นำแบ่งปัน "ท็อป นิวส์" ร่วมชิมผลิตผลไม้ ไทย หนึ่งความภาคภูมิใจชาติ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​