No data was found

ศาลรับฟ้อง “ท็อปนิวส์” เอาผิดเพจดัง โพสต์หมิ่นประมาท ใส่ร้าย

กดติดตาม TOP NEWS

ศาลอาญามีคำสั่งรับฟ้อง “ท็อปนิวส์” เอาผิดเพจ “ตุ๊ดส์ รีวิว” โพสต์หมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 20 ล. นัดสืบพยาน 4 ธ.ค.66

มีรายงานความคืบหน้ากรณีท็อปนิวส์ฟ้องร้องเอาผิดผู้โพสต์หมิ่นประมาทใส่ร้ายให้ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชังและเสื่อมเสียชื่อเสียง ท็อปนิวส์จึงต้องดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายและเรียกร้องค่าเสียหายอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

 

 

ล่าสุดวันนี้ (31 ส.ค.) ศาลอาญา ได้นัดฟังคำสั่งฟ้องคดี บริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิตัล มีเดีย ยื่นฟ้อง นายธนบัตร ชายด่าน แอดมินเพจเฟซบุ๊ก “ตุ๊ดส์ รีวิว” ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 20 ล้านบาท จากการที่นายธนบัตรใช้เพจเฟซบุ๊ก “ตุ๊ดส์ รีวิว” โพสต์ข้อความใส่ร้ายท็อปนิวส์ โดยทนายความฝ่ายโจทก์และจำเลยเดินทางมาศาล

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ศาลได้พิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า จำเลยเป็นผู้ใช้งานบัญชีเฟสบุ๊กชื่อว่า “ตุ๊ดส์ review” และเปิดใช้งานแบบสาธารณะให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงได้ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 จำเลยเผยแพร่ข้อความผ่านบัญชีเฟสบุ๊กดังกล่าวว่า “รักชาติต้องเสพสื่อที่พัฒนาชาติก่อนเลยจ้า แกเชื่อเราอย่างแรกที่ทุกครอบครัวต้องทำตอนนี้คือ เลิกดู Top News คุณภาพชีวิต สติปัญญา และแนวทางการดำเนินชีวิตแกจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แกจะเข้าใจโลกใบนี้มากขึ้น แกจะอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง โลกที่รู้เท่าทันคนอื่น โลกที่ก้าวไปข้างหน้า และเข้าใจว่าปัจจุบันประเทศของเรา และสถานการณ์ข้านเมืองที่แท้จริงอยู่จุดใด ขอให้ทุกคนบอกคุณพ่อคุณแม่ญาติพี่น้อง และคนรู้จัก ระมัดระวังในการเสพสื่อที่ปลุกปั่นและสร้างความเข้าใจผิดกับคนในสังคมด้วยครับ รักชาติแต่เสพ Top News เลยพังพินาศ ” พร้อมลงภาพเปรียบเทียบข้อความการให้สัมภาษณ์ระหว่าง เปิ้ล จารุณี นักแสดง และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกพรรคก้าวไกล ประกอบข้อความเพิ่มเติมในรูปภาพว่า “คำแนะนำที่ดีที่สุด: ‘เลิกดู TOP NEWS ดึงสติปัญญากลับมา”

โดยศาลเห็นว่า การที่จำเลยใช้ถ้อยคำที่ประชาชนทั่วไปเข้าใจความหมายว่า ปลุกปั่น หมายถึง ยุยงให้แตกแยกกัน และพังพินาศ หมายถึง เสียหายย่อยยับ และระบุชื่อโจทก์ กรณีเป็นการทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่าโจทก์เป็นสื่อมวลชนที่ก่อความแตกแยกในสังคม หากผู้ใดรับชมสื่อของโจทก์จะทำให้ชีวิตไม่เจริญ ทำให้โจทก์ที่เป็นสื่อมวลชนซึ่งต้องพึ่งพาความสนใจ และไว้วางใจจากสาธารณชนได้รับความเสียหาย เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์สาธารณะ และตั้งค่าการเข้าถึงข้อความเป็นสาธารณะ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ กรณีจึงเป็นการใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สามโดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง โดยการโฆษณา ในชั้นนี้ข้อเท็จจริงเป็นไปได้ว่า จำเลยหมิ่นประมาทโจทก์โดยการโฆษณา คดีจึงมีมูล

ดังนั้นคดีของโจทก์จึงมีมูลตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณาหมายเรียกจำเลยมาสอบคำให้การ ตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันนัดสืบพยานในวันที่ 4 ธันวาคม 2566 เวลา 13.30น.

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ครอบครัวสุดเศร้า รอรับศพ "ลูกชาย" แรงงานไทยในอิสราเอล หลังถูกจับเป็นตัวประกัน
"ศปปส." บุกสภาฯ ยื่นสอบจริยธรรม "โรม" ค้านสุดตัวนิรโทษฯ 112
เตรียมรับ "Golden Boy" ประติมากรรมสำริด กลับคืนสู่ไทย 21 พ.ค.นี้
"ศุภมาส" สื่อเวทีนานาชาติ เดินหน้านโยบาย "อว. For EV" นำไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้า
"พิชิต" แนะสรุปบทเรียนปลุกปั่นเด็กสุดโต่ง เกินควบคุม ต้องมีคนรับผิดชอบ
"อนุทิน" ย้ำชัดๆจุดยืนกัญชา "ภท."ยึดทุกคำนโยบายรัฐแถลงสภาฯ ลั่นถ้าถอยเป็นยาเสพติด กระทบแน่เม็ดลงทุนหมื่นล้าน
“สมศักดิ์” เคาะแล้ว ครอบครองยาบ้า 1 เม็ด ถือเป็นผู้เสพ ผิดกฎหมาย
“พิพัฒน์” มอบโอวาทแรงงานไทย ก่อนทำงานไต้หวัน เน้นย้ำรับผิดชอบงาน ห่างไกลการพนัน-ยาเสพติด สร้างเชื่อมั่นนายจ้าง
"เสมา 1" ห่วงภาระผู้ปกครอง สั่งด่วนผ่อนผันแต่งชุดนักเรียน ช่วงเปิดเทอม
"อัษฏางค์" โต้ชุดใหญ่ "พิธา" จ้อสื่อเยอรมนี ด้อยค่าปท.ชูวีรกรรมเด็ก 3 นิ้ว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น