No data was found

“สว.เสรี” สงสัยทำไม “ทักษิณ” กลับไทยตรงวันโหวตนายกฯ รับยังติดใจคุณสมบัติ “เศรษฐา” แนะรีบมาชี้แจงในสภาฯ

กดติดตาม TOP NEWS

“สว.เสรี” สงสัยทำไม “ทักษิณ” กลับไทยตรงวันโหวตนายกฯ รับยังติดใจคุณสมบัติ “เศรษฐา” แนะรีบมาชี้แจงในสภาฯ

รัฐสภา วันนี้ ( 22 ส.ค.) นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ของกรรมาธิการการเมืองฯ ก่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ว่าเป็นการตรวจสอบตามที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้มายื่นในส่วนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้มีการแถลงตั้งแต่ครั้งแรก เป็นเรื่องของเอกสารโฉนดที่ดินและสัญญาต่างๆ และดูลำดับการได้มาซึ่งที่ดิน ซึ่งจะไปอภิปรายในสภาให้เข้าใจ แต่ตนเห็นว่าเนื้อหาจริงๆ อยู่ที่การแถลงของนายชูวิทย์ครั้งที่สองและครั้งที่สาม ซึ่งชัดเจนและมีความสำคัญ

เมื่อถามถึงข่าวที่ระบุว่าขณะนี้จำนวนเสียงของ ส.ว. ที่จะโหวตนายกฯได้ครบแล้ว นายเสรี กล่าวว่า ไม่ทราบเลย แต่เมื่อถามต่อว่าถ้าการตรวจสอบคุณสมบัติไม่เสร็จสิ้นจะส่งผลต่อการตัดสินใจของ ส.ว.หรือไม่ ก็เป็นส่วนที่เค้าเสนอมา ก็ดูว่ามีปัญหาในส่วนไหน ถ้าหากเป็นส่วนเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ หรือเรื่องจริยธรรม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 ก็ว่ากันในสภา ที่จะตรวจต่อไปก็คือเรื่องที่เขาไปยื่นกันไว้ เรื่องภาษี เรื่องความถูกต้องของเอกสารซึ่งนายชูวิทย์ก็ได้ไปยื่นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว สำหรับส่วนตัวตัดสินใจแล้ว แต่ขอไปฟังการชี้แจงในสภาอีกครั้ง

เมื่อถามว่าขณะนี้นายเศรษฐาควรสบายใจได้แล้วหรือยัง สำหรับเสียงของ ส.ว. ซึ่งน่าจะดี นายเสรี กล่าวว่า คะแนนส่วนใหญ่อยู่ที่แต่ละบุคคล ถ้าพูดกันตามเนื้อผ้า ซึ่งแต่ละบุคคลก็ มีข้อมูลที่ได้รับมา คงไปตัดสินใจในที่ประชุม ถ้ามีเรื่องค้างคาข้อสงสัยก็ไปฟังดู ว่าพรรคเพื่อไทยที่จะมาตอบแทนนายเศรษฐาจะตอบได้มากน้อยแค่ไหน แต่ตนคิดว่าทุกคนก็พร้อมจะพิจารณาเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่านายเศรษฐาจะเปลี่ยนใจมาชี้แจงหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ก็สามารถมาชี้แจงได้ แต่จะชี้แจงได้หรือไม่ แม้ว่าข้อบังคับในรัฐธรรมนูญจะไม่ได้กำหนดในเรื่องเหล่านี้ไว้ แต่ก็เป็นเรื่องทั่วไปของการพิจารณาในสภา ที่สามารถขออนุญาตประธานมาชี้แจงในสภา อยู่ที่ว่าสมัครใจจะมาหรือไม่ แต่ตนคิดว่า คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าช่วงนี้มีคำถามมาก ถ้ามาชี้แจงและตอบข้อซักถามได้ น่าจะเป็นประโยชน์กับตัวเองมากกว่า แทนที่จะไม่มาตอบและครอบคลุมเครือ กลายเป็นปัญหาเรื่องการตัดสินใจ ถ้ามาก็ดีที่สุด แต่ก็เป็นเรื่องความสมัครใจ ไปบังคับไม่ได้

ส่วนคุณสมบัติของนายเศรษฐาดีพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่าจากการที่ฟังนายชูวิทย์สองครั้งสุดท้าย ก็มีคำถามจำนวนมาก ซึ่งควรจะมีความชัดเจน เพราะการไปทำหน้าที่เป็นผู้นำประเทศ บริหารประเทศ และไปเทียบกับการบริหารหน่วยงานที่เป็นบริษัทมหาชน ซึ่งเป็นของประชาชนแล้วมีการเสนอข้อมูลต่างๆที่ควรตอบให้กระจ่าง อย่างน้อยก็เพื่อความชัดเจน และเป็นที่ยอมรับ จะได้หมดข้อครหาในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งก็แล้วแต่นายเศรษฐาจะพิจารณา

เมื่อถามว่า ส.ว.มีเวลาตรวจสอบคุณสมบัติของนายเศรษฐา ทันเวลาหรือไม่ เมื่อเทียบกับนายพิธา เจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล เพราะเปิดตัวแบบกระชั้นชิด นายเสรี กล่าวว่าไม่มีปัญหา เพราะมีข้อมูลปรากฏต่อสาธารณะส่วนหนึ่ง อีกส่วนพรรคเพื่อไทยก็พยายามปรับตัว สังเกตได้จากเนื้อหาที่แถลงนโยบาย เช่น ตัดปัญหาเรื่อง มาตรา 112 ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะไม่กระทบต่อสถาบัน ก็เห็นความพยายามตั้งใจที่จะลดปัญหา ซึ่งปัญหาของนายเศรษฐาและนายพิธาไม่เหมือนกัน ของนายเศรษฐาเป็นเรื่องข้อมูลเดิมๆ ที่เคยกระทำการใดๆ มาแล้ว และถูกตรวจสอบ ว่าซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่ หรือขาดจริยธรรมอย่างไร ซึ่งก็เป็นอีกประเด็นที่ไม่เหมือนกับนายพิธาเสียทีเดียว

ข่าวที่น่าสนใจ

ปัญหาของนายเศรษฐาเบากว่าปัญหาของนายพิธาหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า หนักเบาเทียบกันไม่ได้ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน

ถามย้ำว่ายังมี ส.ว. อีกหลายคนหรือไม่ที่ยังคาใจกับเรื่องนี้ นายเสรีกล่าวว่า เท่าที่คุยไม่ใช่เรื่องคาใจ แต่มันเป็นเรื่องหน้าที่ของการตรวจสอบคุณสมบัติลักษณะต้องห้าม ส.ว.หลายคนให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะถ้าเราเลือกไปแล้ว คุณสมบัติเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 ถ้าจะผ่านการพิจารณาวันนี้ไป เงื่อนไขนี้ก็เป็นคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจถูกตรวจสอบหรือส่งไปศาลรัฐธรรมนูญได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 ซึ่งจะไม่จบ ให้ดีคือเอาให้กระจ่าง จะได้ไปทำงานบริหารประเทศ ไม่ใช่ไปแล้วติดคดี โดนร้อง เสียสมองกับการใช้เวลาดูแลประชาชน เอาให้เคลียร์ ถ้าไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม ก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างเหมาะสมภาคภูมิ แต่ถ้าติดจริงๆ ก็ว่าตามเนื้อผ้า

การที่พรรคเพื่อไทยไปร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังกังวลกับเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่าถ้าแถลงกันมาชัดๆ ว่าไม่ทำอะไรทั้งฉบับ หรือแตะต้องหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็เป็นเรื่องสบายใจก็จะหมดปัญหานี้ไป แล้วก็ไปพยายาม ลดปัญหาของคนที่ทำผิดกฎหมาย หรือประชาสัมพันธ์กับประชาชน ว่าอย่าไปทำเรื่องเหล่านี้เลย

ทั้งนี้นายเสรี ยังไม่แน่ใจว่า วันนี้จะได้นายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะเรื่องยังไม่ชัดเจน 100% ว่าเป็น นายเศรษฐาหรือไม่ เพราะโอกาสก็เปลี่ยนได้ตลอด เพราะฉะนั้นดีที่สุด ชัดเจนที่สุดคือ ตอนที่มีการเสนอชื่อ

เมื่อถามถึงการเดินทางกลับมาของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีผลต่อการบวกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายเสรีกล่าวว่าไม่แน่ใจ แต่ทำไมกลับมาวันเดียวกัน ก็ควรมีความหมาย หรือมีอะไรที่เชื่อมโยงกันหรือไม่ ก็สงสัยอยู่ เพราะวันอื่นก็มี แต่ปรากฏว่ามาวันเดียวกัน ตนไม่แน่ใจ แต่ก็อาจไม่เกี่ยวกัน แค่สันนิษฐานไว้ และเชื่อว่าไม่มีผลต่อการตัดสินใจของส.ว. เพราะ ส.ว.ก็ทำหน้าที่คัดสรรนายกรัฐมนตรีให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะไม่มีเกมเปลี่ยนใช่หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องเกม เปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนก็ไม่รู้ เพราะในสถานการณ์ที่เห็น มันเปลี่ยนได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“อนุทิน” ประกาศคืนชายหาดเลพังให้ชาวภูเก็ต หลังกรมที่ดินต่อสู้ ยืดเยื้อกับผู้บุกรุก
ไถ่ชีวิตควายเกือบ 400 ชีวิตรอดพ้นโรงเชือดวันเกษตรกรไทย
ตร.กองปราบปราม รวบลูกครึ่งอังกฤษ ขนทัวร์ให้คะแนนร้านอาหารภูเก็ต 1 ดาว ไม่พอใจเดินผ่านเข้าห้องพักไม่ได้
นายอำเภอบางละมุง เตือนประชาชนและผู้ประกอบการ ระวังมิจฉาชีพ หลังถูกปลอมไลน์ เตรียมรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด
กล้องหน้ารถจับภาพ! รถทัวร์เบียดจักรยานทำนักท่องเที่ยวต่างชาติแขนหัก
นักเรียนภาคเหนือแห่สมัคร "Kid Dee camp" ล้นหลาม "สนง.สลากฯ-มูลนิธิยังมีเรา" จัดเต็ม เปิดรับจำนวนเด็กค่ายเพิ่มเท่าตัว ขยายโอกาส แบ่งปันการเรียนรู้
“กบน.” ขยับขึ้นราคาดีเซล 50 สต.ต่อลิตร ดันขายปลีกทะลุลิตรละ 31.44 บาท
รมต.-ทูตอิสราเอล รุมสับ-แซะไบเดน หลังขู่หยุดส่งอาวุธ
"สุดาวรรณ" เข้าปฏิบัติงานกระทรวงวธ.วันแรก ผลักดันวัฒนธรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ตั้งเป้า 1 ภาค 1 มรดกโลก
วิเคราะห์แล้ว คลิปโดรนปริศนาล้วงตับเรือรบญี่ปุ่น ของจริง (คลิป)

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น