ศาลสั่งจำคุก ไม่รอลงอาญา "พ่อค้าออนไลน์" ทำผิดคดี 112 โพสต์หมิ่นเบื้องสูง

17 ก.ค.2566 ทวิตเตอร์ TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เขียนข้อความ ระบุว่า 10.00 น. ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 3 ปี กับวงศ์ วัย 29 ปีในคดี ม.112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กชื่นชมในหลวง ร.9 แต่วิจารณ์การทำงานในหลวง ร.10

จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

ขณะนี้กำลังยื่นประกันตัวต่อศาลด้วยหลักทรัพย์ 100,000 บาท

จับตาผลคำสั่งประกันต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2565 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง วงศ์ (นามสมมติ) อายุ 28 ปี พ่อค้าขายของออนไลน์จากจังหวัดราชบุรี ต่อศาลอาญา ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์) มาตรา 14 ในคดีความสืบเนื่องจากการโพสต์ผ่านบัญชีส่วนตัวบนเฟซบุ๊กชื่นชมการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่วิพากษ์วิจารณ์ในหลวงรัชกาลที่ 10

คดีนี้มี ปิติ สมันตรัฐ ประชาชนเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ก่อนหน้านี้วงศ์เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2564 ตามหมายเรียกครั้งที่ 2 ลงวันที่ 30 ก.ย. 2564

สำหรับพฤติการณ์คดีตามคำฟ้องของอัยการ ระบุว่า เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2563 จำเลยได้หมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นในหลวงรัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชกาลที่ 10 ด้วยการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งตั้งค่าเป็นสาธารณะ มีใจความในทำนองว่า จำเลยเคารพนับถือเพียงในหลวงรัชกาลที่ 9 แม้จะเคยอ่านข้อมูลเรื่องสาเหตุการสวรรคตของรัชกาลที่ 8 แต่ก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และเห็นว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทำงานหนักเพื่อประชาชน แต่จำเลยไม่เห็นว่าในหลวงรัชกาลที่ 10 ได้ทรงงาน จึงไม่จำเป็นต้องเคารพ

อัยการระบุว่า สำหรับข้อความที่เกี่ยวกับกรณีสิ้นพระชนม์ของในหลวงรัชกาลที่ 8 มีความหมายว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งไม่เป็นความจริง อันเป็นการใส่ความในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้พระองค์เสื่อมเสียพระเกียรติ เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

ส่วนข้อความส่วนที่พาดพิงในหลวงรัชกาลที่ 10 ทำให้ผู้พบเห็นเข้าใจได้ว่า ในหลวงรัชกาลที่ 10 ไม่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นการใส่ความ ทำให้พระองค์เสียพระเกียรติยศ ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง โดยจำเลยมีเจตนาอาฆาตมาดร้าย ทำลายสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของประชนชาวไทย ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพกษัตริย์ ซึ่งอยู่ในฐานะที่ใครจะละเมิดมิได้ และการที่จำเลยโพสต์ลงสื่อออนไลน์ยังเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง

ท้ายคำฟ้อง อัยการได้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว อ้างเหตุคดีมีอัตราโทษสูง และเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง

อย่างไรก็ตาม หลังศาลรับฟ้อง และนายประกันของกองทุนราษฎรประสงค์ยื่นประกัน ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราววงศ์ระหว่างพิจารณาคดี วงเงินประกัน 180,000 บาท กำหนดเงื่อนไขให้จำเลยไปรายงานตัวต่อผู้กำกับดูแลที่ศาลแต่งตั้ง ทุกวันที่ 15 ของเดือน และนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 27 มิ.ย. 2565