No data was found

“หมอชลน่าน” ฉุนสื่อตีข่าวแยกก้าวไกล ยันไม่ก้าวล่วง “พิธา” ไม่ถอยแก้ 112

กดติดตาม TOP NEWS

"หมอชลน่าน" ฉุนสื่อตีข่าวแยกก้าวไกล ยันไม่ก้าวล่วง "พิธา" ไม่ถอยแก้ 112

14 ก.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความกังวลว่าจะมีการเสนอชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นมาแข่งในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่สอง ว่า เป็นความกังวล และห่วงใยของตน ถ้ามีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงเรามีข้อกังวลถึงผลโหวตที่จะให้กับคู่แข่งอาจเกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นมาทันที จาก 188 เสียง ถ้าเขารวมกันแน่น แล้วบวกกับเสียง ส.ว. ก็มีโอกาสเกิน 375 เสียง

 

 

ส่วนจะดันชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ยังเคารพสิทธิของก้าวไกล ในฐานะเป็นพรรคอันดับหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล จะดันหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพรรคก้าวไกลที่จะเสนอในการพูดคุยระหว่างพรรคเพื่อไทย และการพูดคุย 8 พรรคร่วม

จากคะแนนโหวตเมื่อวาน (13 ก.ค.) ดูแล้วว่าเสียงส.ว. น่าจะให้ยาก นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีอะไรง่าย โดยเฉพาะการเมืองที่ไม่ปกติอย่างที่พรรคก้าวไกลพูด แต่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ ถ้าคาดการณ์ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแล้วเราสูญเสียไป คงเป็นสิ่งที่ต้องมาปรึกษาหารือกันว่าจะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอย่างไร รู้อยู่แล้วว่าจะมีการโหวตในวันที่ 19 ก.ค. โดยไม่มีหลักหรือไม่มั่นใจ แล้วมีคนแข่ง ก็จะเป็นอย่างที่ตั้งสมมติฐานกันว่าเราอาจจะแพ้ ต้องมาพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไร

 

 

ส่วนในการพูดคุยระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย จะมีข้อเสนอเปลี่ยนชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในการโหวตครั้งที่สองหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อยู่ที่ข้อเสนอและการพูดคุย

หากพรรคก้าวไกลยังยืนยันจะเสนอชื่อ นายพิธา พรรคเพื่อไทยจะแสดงท่าทีอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องให้สิทธิ์กับพรรคก้าวไกล พรรคอันดับหนึ่งที่เป็นแกนนำ พรรคเพื่อไทยลง MOU ไปแล้ว และชัดเจนจะสนับสนุนจนสุดความสามารถ ซึ่งยังยืนยันอยู่

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับนิยามคำว่า สุดความสามารถ จะสุดถึงแค่ไหน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีคำนิยาม ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ ความเป็นเหตุเป็นผล ถ้าทำถึงที่สุดแล้วก้าวไกลเห็นชอบ ภาพรวมไม่มีผลกระทบ ไม่มีผลเสียหาย ถ้าจบได้นั่นคือนิยามคำว่าถึงที่สุด “ขณะนี้ที่ยังไม่พูดคุยกันจะยังเสนอชื่อ นายพิธา ในรอบสอง แต่หากมีข้อสรุปแล้วก็จะเป็นไปตามที่พูดคุยกัน” ส่วนเรื่องเงื่อนไขข้อบังคับที่ว่าญัตติที่ตกไปแล้วจะเสนอซ้ำไม่ได้ ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นและสำคัญ แต่หากท่านอื่นจะยกมาก็เป็นเรื่องที่สภาจะต้องพิจารณา ส่วนฝ่ายเราที่มีความมุ่งมั่นจะเสนอในญัตติเดิมก็ต้องหาเหตุผลมาหักล้างให้ได้

 

 

 

ส่วนความพอใจที่ว่าจุดของความพอใจอยู่ตรงไหน และความพอใจหลักยังอยู่ที่ประชาชนอยู่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนิยามความพึงพอใจ ของนักการเมืองและพรรคการเมืองจะอยู่เหนือประชาชนและประเทศชาติไปไม่ได้ จะทำอะไรจนเป็นเหตุให้ประชาชนเดือดร้อน ประเทศเสียหายคงไม่ได้ ไม่ใช่ว่า ผมพอใจที่จะทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ และเกิดความเสียหาย คงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม คงไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ต้องสนับสนุนกันในเรื่องอย่างนั้น

 

 

เมื่อถามย้ำว่า วันนี้ถึงเวลาหรือยัง หลังพรรคอันดับหนึ่งดูเหมือนว่าน่าจะไม่ได้เสียงสนับสนุนถึงเป้า ถึงเวลาของพรรคอันดับสองแล้วหรือยัง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า 8 พรรคร่วมคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้น ถ้าโหวตวันที่ 19 ก.ค.นี้ ไม่ใช่ชื่อนายพิธา แต่เป็นชื่ออื่น ไม่ได้อยู่ในนาม 8 พรรคร่วม นั่นคือความต้องการ ความคาดหวังของประชาชนถูกทำลายทันที ทั้งนี้ ไม่มีคำว่า 8 พรรคร่วม “อาจจะเสนอชื่ออื่น อยู่ที่การพูดคุย”

 

 

ส่วนข้อเสนอของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า หากแก้ไขมาตรา 272 ไม่ได้ ให้ถอยไปเป็นฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นความเห็นของผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคก้าวไกล เขาจะปฏิบัติหรือไม่เราไม่ทราบ แต่เราไม่มีข้อผูกมัดอะไร ที่จะเป็นหรือไม่เป็นฝ่ายค้าน เพราะประชาชนเสียงข้างมากเลือกให้มาเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้เลือกให้มาเป็นฝ่ายค้าน และไม่ขอให้ความเห็น หรือวิพากษ์วิจารณ์ สิ่งที่นายปิยบุตร ระบุว่าให้ยอมเป็นแกะดำใน 4 ปีนี้ เพื่อให้ 4 ปีข้างหน้าจะได้คะแนนเสียงมากกว่า 20 ล้านเสียง

ส่วนการพูดคุยระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย จะชัดเจนหรือไม่ว่า 8 พรรคร่วมจะส่งชื่อใครชิงนายกรัฐมนตรี นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คงต้องรอข้อสรุปก่อน เพราะถ้าเราไม่ชัดเจน เมื่อถึงวันที่ 19 ก.ค. อีกฝ่ายหนึ่งมีเจตนาที่จะเสนอคู่แข่ง และเดินเข้าไปไปสู่กับดักตรงนั้น เท่ากับเรายอมรับความพ่ายแพ้ เราเอาความหวังของประชาชน 25 ล้านเสียง ไปทลายอยู่ตรงนั้น เชื่อว่าประชาชนรับไม่ได้

 

 

 

เมื่อถามว่า 25 ล้านเสียงของประชาชน เป็นฉันทามติ ให้ 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาล หรือเป็นฉันทามติเพื่อให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นายพิธาเป็นหัวหน้าพรรคอันดับหนึ่ง เป็นผู้รวบรวมได้ 312 เสียง และในเชิงสัญลักษณ์ ประชาชน 14 ล้านเสียง สนับสนุนเขา และ 27 ล้านเสียง ที่รวมตัวแทนประชาชนที่เลือกเข้ามา นั่นหมายความว่า ประชาชนเลือกนายพิธา

 

ส่วนที่มีการพูดกันว่า ถ้ามีก้าวไกลยังไง ส.ว. ก็ไม่เลือก นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เท่าที่รู้เป็นเพียงความคิดเห็นของ ส.ว. บางคน พร้อมปฏิเสธไม่ทราบกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยไปดิว ส.ว.ได้ประมาณ 40 เสียง

 

 

เมื่อถามว่าขณะนี้ยังมีทางไปต่อหรือเป็นทางตันสำหรับการโหวตนายกรัฐมนตรี นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มันไม่มีทางตัน ประเทศชาติต้องมีนายกรัฐมนตรี ต้องมีรัฐบาล ประชาชนต้องมีโอกาส ตนเองเชื่อว่า ทุกฝ่ายไม่ปิดทางตันให้กับประเทศ และประชาชน ส่วนจะมีแนวโน้มในการพูดคุยกับส.ส. ขั้วรัฐบาลเดิมหรือไม่นั้น สิ่งที่เกิดขึ้นจากการประชุมเมื่อวานเป็นเหตุ นำเข้าแห่งการพูดคุย เพราะเรามุ่งหวังเสียง 376 เสียง เป็นรัฐบาลของประชาชน และอะไรที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ไปไม่ถึงก็ต้องนำมาวิเคราะห์พูดคุย ว่าจะแก้เหตุตรงนั้นได้อย่างไร

 

 

 

ส่วนพรรคก้าวไกลไม่ลดเพดานแก้มาตรา 112 และจะเสนอแก้มาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว. นพ.ชลน่าน ระบุว่า เรื่องมาตรา 112 เป็นเรื่องที่ประกาศชัดเจนเป็นนโยบาย ดังนั้นเขาต้องมีจุดยืนในตรงนี้ เราต้องเคารพสิทธิเสรีภาพในการดำเนินการนโยบาย เราคงไม่ก้าวล่วง ที่จะขอให้เค้าลดหรือไม่ลดอย่างไร ส่วนเรื่องแก้มาตรา 272 นั้นยังไม่ได้พูดคุย ซึ่งต้องมาพูดคุยหาแนวทางร่วมกันอย่างไร และคงต้องไปถาม ส.ว. ว่าเรื่องนี้จะยิงจะยิ่งสร้างความไม่พอใจให้หรือไม่ เพราะอาจจะมี ส.ว. บางคน ที่สบายใจก็ได้ เพราะมีช่องทางที่จะปลดเขาออกจากพันธนาการ

 

นอกจากนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังได้กล่าวถึง กรณีที่มีเพจหนึ่งในเฟซบุ๊กโพสต์ข้อมูลบิดเบือนและมีชื่อตัวเองอยู่ในข่าว สร้างความเข้าใจผิดและอาจทำให้เกิดความแตกแยก ว่า ในฐานะที่ใกล้ชิดสื่อมวลชนมานาน ขอประนามสื่อมวลชนที่ไร้จรรยาบรรณ ไร้ความเป็นมนุษย์ สถานการณ์แบบนี้ต้องเป็นสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันเพื่อแสวงหาความร่วมมือ

เมื่อวานผมได้โฟนอินให้สัมภาษณ์รายการหนึ่ง มีสื่อสำนักหนึ่ง เต้าข่าวให้เกิดความขัดแย้ง ทำให้เกิดความแตกแยก หาว่า นพ.ชลน่าน ฉุนที่หาเสียง ส.ว. ไม่ได้ กล่าวหาว่าจะส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแข่ง หาว่าตนจะแยกออกไป การเขียนข่าวแบบนี้ตนขอประณาม และถ้าตนรู้ว่าสำนักข่าวนี้อยู่กับใคร คงต้องเรียกมาพูดคุยกันส่วนตัว

“ถ้าคุณไม่ให้เกียรติผม ผมก็ไม่ให้เกียรติคุณเหมือนกัน ด้วยความเคารพ ผมไม่ได้สนใจว่าเป็นเพจไหน แต่คนที่ไร้ความเป็นมนุษย์ ก็ไม่ควรจะนับถือเขาเป็นมนุษย์”

 


WONDER SALE ดีลมันส์แบบตะโกน

ระยะเวลาโปรโมชั่น 18 กค – 31 กค 2023

ลดเพิ่มสูงสุด 10% ไม่มีขั้นต่ำ

ลดเพิ่มสูงสุด 20% เมื่อช้อป 3,000.-

Code : MIDJUL

คลิกเพื่อช้อปได้ที่นี่ : https://omgrefer.com/7pNIu

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร" ลูกชาย "จอมพลถนอม" เสียชีวิตแล้ว
สุดเศร้า ครอบครัวรับศพ "ดาบโก้" ถูกรัวยิงทิ้งร่างกลางป่า บำเพ็ญกุศล
"ช่อ พรรณิการ์" รีบโหน "บุ้ง" เสียชีวิต จี้ปล่อยผตห.พ้นคุก โดนจวกกลับหยุดเอาศพหากิน
ซีพีเอฟ คว้ารางวัล Crystal Taste Award การันตีสุดยอดรสชาติระดับโลก 3 ปีซ้อน สร้างประสบการณ์ความอร่อยไร้พรมแดน
"ตร.กัมพูชา" จับเพิ่มอีก 1 หนุ่มเกาหลี คดีฆ่ายัดถังโบกปูน เร่งสอบหาปมแค้น
ดุเดือด "แม่น้องไนซ์-ลูกหาบเชื่อมจิต" รุมเถียงเจ้าหน้าที่ พม.หลังถามไม่เข้าหู ชาวเน็ตเมนต์สนั่น
หัวอกพ่อสุดช้ำ ลูกชายโดนรุ่นพี่ ม.2 รุมทำร้าย ไฟแช็คจี้คอ ทำเครียดอยากย้ายโรงเรียน
ทนายความยืนยัน "บุ้ง ทะลุวัง" เสียชีวิตแล้ว หลังแพทย์ยื้อลมหายใจ
กกล.บูรพาสนองนโยบายนายกฯสกัดจับสินค้าเถื่อนลอบเข้าไทยแนวตะเข็บชายแดน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น