“ธาริต” นอนคุก ศาลฎีกาสั่งจำคุก 2 ปี ใช้อำนาจหน้าที่มิชอบ กลั่นแกล้ง ยัดข้อหา “อภิสิทธิ์-สุเทพ”

"ธาริต" นอนคุก ศาลฎีกาสั่งจำคุก 2 ปี ใช้อำนาจหน้าที่มิชอบ กลั่นแกล้ง ยัดข้อหา "อภิสิทธิ์-สุเทพ"

 

หลังจากที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ มาฟังคำพิพากษาในคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ยื่นฟ้องนายธาริต และชุดพนักงานสอบสวนดีเอสไอรวม 4 คน ฐาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา จากการกล่าวหาว่าใช้อาวุธสั่งฆ่าประชาชนจากการสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.เมื่อปี 2553

 

 

 

และภายหลังจากที่ นายธาริต ได้ขอศาลเลื่อนอ่านคำพิพากาษาคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ใน มาตรา 157 และมาตรา 200 ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากนั้นมีการยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิม จากรับสารภาพเป็นปฏิเสธ ศาลจึงส่งคำร้องทั้งหมดให้ศาลฎีกาวินิจฉัย และขอให้มาฟังคำสั่งในเวลา 14.30 น.

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : “ธาริต” ดิ้นหนัก ยื่นคำร้องที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา อ้างผู้พิพากษาฝักใฝ่กปปส. มีข้อโต้แย้งคดี 99 ศพ

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ต่อมาเวลา 14.30 น.องค์คณะผู้พิพากษาเเจ้งว่า ศาลฎีกายังไม่มีคำสั่งลงมาโดยให้จำเลยรออยู่ในห้องพิจารณาคดีโดยจะมีคำสั่งลงมาในอีก1-2ชั่วโมง ต่อมาเวลา 17.30 น. ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำร้องที่นายธาริต จำเลยที่1 ยื่นคำร้องต่อศาลฎีการวม 5 ฉบับ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องทั้งหมด

โดยศาลฎีกา ได้พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วพบว่า มีข้อที่ต้องวินิจฉัยว่าจำเลยทั้งหมดทำผิดตามที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาหรือไม่ เห็นว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยจำเลยที่1 ทราบอยู่แล้วว่า ตนเองและหน่วยงานไม่มีหน้าที่สืบสวนสอบสวนบุคคลทั้ง2 ที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ที่มีอำนาจหน้าที่สรุปสำนวนเรื่องให้อัยการสูงสุด เพื่อฟ้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งเป็นข้อพิรุธ

 

และในที่ประชุมเมื่อช่วงเดือน ธ.ค. 2555 จำเลยที่1 ได้แสดงความคิดเห็นชี้นำให้พนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษสืบสวนหาหลักฐาน และรวบรัดเชิญโจทก์ทั้งสองมารับทราบข้อกล่าวหา อีกทั้งในขณะนั้นเป็นช่วงรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นน้องสาวของนายทักษิณ ชินวัตรซึ่งอยู่ขั้วตรงข้ามทางการเมืองกับโจทก์ทั้งสอง ฟังได้ว่าเป็นการกลั่นแกล้งให้โจทก์ทั้งสองได้รับโทษทางอาญา เพื่อสนองความต้องต้องการของรัฐบาลใหม่ หลังจากนั้นนายธาริตได้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษอีก 1 ปี

 

 

พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมา รับฟังโดยปราศจากข้อสงสัย ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 1 ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยกับศาลอุธรณ์ว่า จำเลยที่1 กระทำผิดตามฟ้องจริง

มีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2-4 กระทำผิดตามฟ้องด้วยหรือไม่ เห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ที่1 และ 2 ยังไม่แน่ชัดและไม่ปรากฎว่าจำเลยที่ 2-4 ได้รับประโยชน์อย่างไร จากการแจ้งข้อกล่าวหาต่อโจทก์ทั้งสอง แต่ที่ทำสำนวนมาจากการรับคดีและการชี้นำของจำเลยที่1 ซึ่งจำเลยที่ 2-4 อาจทำคดีโดยสุจริต ยังมีข้อสงสัยในข้อกล่าวหาในคำฟ้อง จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยที่ 2-4

การลงโทษตามที่ศาลอุธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ให้จำคุกจำเลยที่1 ตามคำพิพากษาศาลอุธรณ์ จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 2-4 พิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างฟังคำพิพากษานายธาริต มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงอาการแต่อย่างใด ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เดินมาควบคุมต่อนายธาริต เพื่อนำตัวไปควบคุมไว่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตามคำพิพากษาศาลฎีกา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ฮุนเซน" โพสต์ภาพเผลอหลับคาโต๊ะทำงาน  หลังพบปะผู้นำและผู้บังคับบัญชาทหาร
"กองทัพไทย-กต." ร่วมแจงความจริง คณะทูต-ทูตทหารทั่วโลก โชว์หลักฐานไทยโดนกัมพูชารุกล้ำอธิปไตย ใช้บึ้ม PMN-2 เปิดฉากยิงใส่พลเรือนก่อน
หอการค้าไทยชื่นชม “ทีมไทยแลนด์” เจรจาเข้มข้น จนได้อัตราภาษีสหรัฐฯ ที่ระดับ 19% ใกล้เคียงประเทศเพื่อนบ้าน
“ธ.ออมสิน” พักหนี้อัตโนมัติ 3 เดือน พร้อมยกดอกเบี้ย ช่วยบรรเทาภาระผู้ประสบภัยน้ำท่วมเหนือ-เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
"ทีมคณะทูต-ทูตทหาร" กว่า 30 ชาติ ลงพื้นที่อุบลฯรับฟังความจริง พร้อมดูจุดเกิดเหตุทหารกัมพูชายิงใส่ไทย
"รอยเตอร์" แฉยับ "ฮุน เซน" อยู่ฉากหลังก่อความขัดแย้งไทย สู่เหตุนองเลือด ปืนใหญ่กัมพูชาถล่มพื้นที่พลเรือนผู้บริสุทธิ์

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​