จากกรณีนางสาวอัครสร โอปิลันธน์ หรือ อั่งอั๊ง บุตรสาวของนางชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ พี่สาวของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ถึงเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างม็อบ 3 นิ้วกับตำรวจที่หน้าศาลฎีกา เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 โดยพาดพิงพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10ในลักษณะอันมิบังควร ทำให้ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ หรือ ศชอ. เข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ฐานความผิด มาตรา 112 ล่าสุด ศชอ. ได้อัพเดตความคืบหน้าว่า ศาลได้นัดไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์วันที่ 12 กรกฏาคม ที่จะถึงนี้แล้ว
ข่าวที่น่าสนใจ
สำหรับไทม์ไลน์ของคดีนี้ มีจุดเริ่มต้น ดังนี้
-13 กุมภาพันธ์ 2564 ม็อบ 3 นิ้วปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณหน้าศาลฏีกา ซึ่งม็อบ 3 นิ้ว ได้ใช้ความรุนแรง ขว้างปาสิ่งของทั้งระเบิดปิงปอง ก้อนหิน ขวดน้ำ และวัตถุอื่นๆ เป็นเหตุให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บนับ 20 นาย ส่วนพลเรือนเจ็บ 5 ราย
-14 กุมภาพันธ์ 2564 อั่งอั๊ง ทวิตข้อความทวิตเตอร์ถึงเหตุกาณ์ม็อบ 13 กุมภาพันธ์ โดยมีเนื้อหาโจมตีรัชกาลที่ 10 อย่างรุนแรง แต่ภายหลังเจ้าตัวได้ลบข้อความไป อย่างไรก็ตามชาวเน็ตสามารถแคปได้ทัน
-16 กุมภาพันธ์ 2564 ศชอ. นำโดยนางแน่งน้อย อัศวกิตติกร และ นายนพดล พรหมภาสิต แกนนำ ศชอ. ได้นำหลักฐานมอบให้ ตำรวจ ปอท. พร้อมแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
-23 กันยายน 2564 อั่งอั๊ง และมารดา พร้อม นายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง และยังเป็นทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เดินทางเข้าพบตำรวจ ปอท.ตามหมายเรียก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา มาตรา 112
-21 ตุลาคม 2565 อัยการสั่งฟ้อง อั่งอั๊ง ในความผิด มาตรา 112
-12 กรกฏาคม 2566 ศาลนัดไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์
สำหรับ อั่งอั๊ง นั้น ไม่ได้แสดงความคิดเห็นจุดยืนทางการเมืองในลักษณะนี้เป็นครั้งแรก เพราะเจ้าตัวออกมาร่วมชุมนุมกับม็อบ 3 นิ้ว และยังเคยร่วมวงเสวนาในหัวข้อ “ถ้าการเมืองดี นักเรียน-นักศึกษา จะรักชาติกันอย่างไร” ที่ห้องประชุมคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ชั้น 4 อาคารคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 29 กันยายน2563 โดย อั่งอั๊ง กล่าวตอนหนึ่งว่า “การเมืองที่คุณตาคุณยายท่านหนึ่งต้องมาติดคุกเพียงเพราะเก็บเห็ดไปขาย” ทั้งที่จริงแล้ว เป็นกรณีที่สามีภรรยาถูกจับกุมเมื่ออายุ 48 ปี ข้อหาบุกรุกป่าและครอบครองไม้เถื่อน ซึ่งได้อธิบายจนสังคมสิ้นสงสัยไปนานแล้ว
นอกจากนี้ในงานเสวนาดังกล่าว อั่งอั๊ง ยังกล่าวตอนหนึ่งว่า สิ่งที่ตนหวังกับคนรุ่นก่อนคือ อยากให้คนรุ่นเก่าหันมาเข้าใจ ว่าทุกคนที่ออกมาสู้เพื่อความเท่าเทียม เพื่อประชาธิปไตย ถึงแม้ในอนาคตคนรุ่นเหล่านี้อาจจะไม่อยู่แล้ว แต่ตนอยากให้เข้าใจว่ามันคือความหวังดีที่เรามี ถ้าคุณยังเงียบ ไม่ออกมาต่อสู้ ตนอยากจะถามว่าคุณจะละอายบ้างไหมในวันที่คุณกลับมามองในวันที่เราได้ประชาธิปไตยแล้ว คุณจะละอายบ้างไหมที่คุณเงียบกริบไม่ออกมาสู้ ในขณะที่เด็กอายุ 16 เด็ก ม.ต้น ยังออกมาสู้กันเลย” ในอนาคตข้างหน้า
อั่งอั๊ง ยังเป็นหนึ่งในคอลัมนิสต์ เว็บไซต์ Disrupt ผู้บุกเบิกแพลตฟอร์ม Choose change หรือ เลือกที่จะเปลี่ยน ผลิตเนื้อหาเพื่อความก้าวหน้าของสังคมด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง