“อดีตบิ๊กข่าวกรอง” ตกใจคำพิพากษา ยกฟ้องคดีขวางขบวนเสด็จฯ ชี้เหตุจำเป็นอัยการ ต้องอุทธรณ์สู้ถึงที่สุด

“นันทิวัฒน์ สามารถ” หวังว่าอัยการยื่นอุทธรณ์คดีขวางขบวนเสด็จฯ ยันไม่มีประเทศไหนประชาสัมพันธ์เส้นทางผู้นำประเทศ เหตุต้องวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างสูงสุดของ VVIP เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในความเสี่ยงถูกปองร้ายจากผู้ไม่หวังดี

จากกรณีที่ศาลอาญา ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีแสดงความอาฆาตมาดร้าย หมายเลขดำ อ.778/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายเอกชัย หงส์กังวาล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง, นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง, นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ, นายชนาธิป ชัยยะยางกูร และนายภาณุภัทร ไผ่เกาะ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับความผิดฐาน แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบัน และ พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ

 

 

โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดพวกจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 14 ต ค.2563 จำเลยทั้งห้า กับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันมั่วสุมชุมนุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยพวกจำเลยทั้งห้ากับพวกจำนวนหลายร้อยคนได้ลงมายืนบนพื้นผิวจราจรบนถนนพิษณุโลก ลักษณะกีดขวางการจรจรซึ่งได้กำหนดใช้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินของพระราชินี และพระบรมศานุวงศ์ เพื่อไปทรงบำเพ็ญกุศล ถวายผ้าพระกฐินประจำปี พ.ศ.2563 ณวัดราชโอรสาราม ซึ่งมีรถรถยนต์บก.จร. และรถยนต์ในขบวนเสด็จฯ ขับเบิกทาง โดยจำเลยกับพวก ซึ่งมาร่วมกิจกรรมชุมนุม “เพราะเราทุกคนคือคณะราษฎร และคณะราษฎรยังไม่ตาย” ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้บังอาจร่วมกันประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินีโดยช่วยกันใช้กำลังผลักดันแถวแนวหน้าเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน (คฝ.) เพื่อขัดขวางมิให้ขบวนเสด็จฯ สามารถเคลื่อนผ่านไปยังเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ไปแยกนางเลิ้งได้ อีกทั้งยังได้ชูสัญญลักษณ์สามนิ้วใส่ขบวนเสด็จฯ อีกด้วย โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตามความผิดด้วย พวกจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัวนั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดทางด้านนายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ การถวายความปลอดภัยพระประมุข ว่า ตกใจคำพิพากษาของศาล ยกฟ้องคนขัดขวางขบวนเสด็จฯโดยให้เหตุผลว่า ไม่มีการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าให้ประชาชนทราบ ว่า จะมีขบวนเสด็จในบริเวณนั้น คำถามคือ คำพิพากษาเป็นไปตามข่าวที่มีการเผยแพร่หรือไม่

ขอพูดในฐานะคนที่ทำงานด้านความมั่นคง ไม่มีประเทศไหนที่จะประกาศหรือประชาสัมพันธ์เส้นทางการเดินทางของผู้นำประเทศ ด้วยเหตุผลที่จะต้องวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างสูงสุดของ VVIP เพื่อไม่ให้ผู้นำตกอยู่ในความเสี่ยงของการถูกปองร้ายจากผู้ที่ไม่หวังดี
นึกถึงเหตุการณ์ที่อดีตประธานาธิบดีอเมริกัน จอห์น เอฟ เคเนดี ที่ถูกลอบยิงเสียชีวิตในระหว่างการเดินทางหาเสียงในรัฐเท็กซัส รวมทั้งภาพจากข่าวทีวีที่ตำรวจอเมริกันตีและลากถูม๊อบที่ออกมาขวางเส้นทางขบวนรถของประธานาธิบดี

 

 

สำหรับประเทศไทย VVIP ของไทยคือ พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่จะต้องได้รับการถวายการรักษาความปลอดภัยอย่างสูงที่สุด และต้องปกปิดเส้นทางเสด็จ หวังว่าอัยการจะอุทธรณ์คดีนี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทบ." แจงด่วนเหตุ "เฮลิคอปเตอร์" ร่อนลงฉุกเฉิน ขณะปฏิบัติภารกิจส่งเสบียงฐานปฏิบัติการอุบลฯ
กู้ภัยจีนช่วยคน 'ติดในรถ' กลางกระแสน้ำเชี่ยว
ตำรวจกัมพูชาถูกลงโทษหลังท้าพนันปมพิพาทชายแดน
"กัมพูชา" โชว์ตัดไฟฟ้าจากไทยส่งเข้า "ปอยเปต" หันไปพึ่งเวียดนามแทน
ครม.ไฟเขียว “ยกเว้นภาษี” จากกำไรขายสินทรัพย์ดิจิทัล ปี 68-72 พร้อมส่งเสริมไทยเป็นฮับการเงินโลก
ทำเกินไปมาก "รมว.กัมพูชา" เชิญคณะทูตต่างประเทศ แจงสถานการณ์ชายแดน โบ้ยให้ไทยผิดทั้งหมด ยังไม่จบอ้างถูกเปิดฉากยิงก่อน
"อนุทิน" ลั่นชัดไม่ยอมแลกมท.1 ชี้รัฐบาลควรอยู่ด้วยความเข้าใจ ถามใครแน่ต้องการ เพราะนายกฯไม่เคยพูด
สระแก้ว ฉก.กองกำลังบูรพา ตรวจเข้มแนวชายแดน
สระแก้ว กัมพูชาสั่งการให้ตัดไฟฟ้าจากฝั่งไทย
“สรวงศ์” เผยครม. ไฟเขียวไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่ง F1 วงเงิน 4 หมื่นล้าน ยาว 5 ปี ปักหมุดพื้นที่จตุจักร

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น