“พิธา” ไม่กังวลคดีหุ้นไอทีวี โวรู้อยู่ก่อนแล้วต้องเจอ ม.151 สกัดกั้น

"พิธา" ไม่กังวลคดีหุ้นไอทีวี โวรู้อยู่ก่อนแล้วต้องเจอ ม.151 สกัดกั้น

วันที่ 13 มิ.ย.66 ที่สมาพันธ์ SME ไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล กล่าวถึงคลิปการประชุม ผู้ถือหุ้นสื่อไอทีวี และกระบวนการขัดขาเพื่อไม่ให้นายพิธาขึ้นสู่นายกรัฐมนตรี ในขณะนี้มีข้อมูลหรือยังว่าใครอยู่เบื้องหลัง ว่า ตามที่เคยได้โพสต์ไปก่อนหน้านี้ในโซเชียลมีเดียว่ามีกระบวนการที่จะฟื้นitv ขึ้นมาก่อนที่จะมีคลิปด้วยซ้ำ เพราะมีคนส่งข้อมูลมาให้ตนมากกว่าที่เห็นอยู่ในคลิป ซึ่งเห็นความแตกต่างระหว่างคนที่ทำเอกสารตามประชุมกับคลิป ก่อนที่จะมีการเปิดเผยต่อสาธารณชน ขณะนี้คณะทำงานกฎหมายของทางพรรคได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากคนที่เกี่ยวข้อง ในกระบวนการเหล่านี้ที่ส่งข้อมูลเข้ามาให้

 

 

ส่วนที่กกต.มีการหยิบมาตรา 151 มาวินิจฉัยนั้น ก็ไม่ได้หลุดไปจากฉากทัศน์ที่เราคิดเอาไว้แล้ว เพราะเกิดขึ้นกับนายธนาธรมาก่อน อาจจะมีการเข้าชื่อของส.สเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาหรือศาลอาญาด้วย ซึ่งถ้าใครติดตามการเมืองก็น่าจะเดาออก ว่าอาจจะมี 3-4 ช่องทางที่จะเกิดขึ้น แม้ขณะนี้จะมีคนส่งข้อมูลมาถึงพรรคจำนวนมาก กับความไม่ชอบมาพากล แต่เราก็ยังไม่ฟันธงอะไร และตรวจเช็คข้อมูลและคลิปต่างๆว่าถูกต้องหรือไม่ และยืนยันว่าหลักกฎหมายพร้อม หลักฐานพร้อมที่จะสู้ เมื่อเข้าสู่กระบวนการ ส่วนกกต.จะเอาคลิปมาเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาคดี ด้วยนั้นตนเห็นจากข่าวว่านายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งบอกเพียงว่าอาจจะนำเข้ามาประกอบการพิจารณา

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กรณีของนายธนาธร ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก่อนการแจ้งข้อหาตามมาตรา151 แต่ของนายพิธาได้มีการตั้งกระบวนการสอบก่อนที่จะส่งศาลวินิจฉัย ทำให้มองว่า ศาลอาจสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนที่จะมีการหมดนายกรัฐมนตรีนั้น นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นประเด็น เพราะเชื่อว่า การให้ข่าวของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี น่าจะคลาดเคลื่อน เพราะเมื่อปี 62 ตนจำได้ว่าแม้นายธนาธรจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็ยังสามารถเสนอชื่อเลือกนายกได้อยู่ดี ดังนั้นจึงมองว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการพิจารณา มาตรา151 ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่30

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามว่า คลิปการประชุมผู้ถือหุ้น itv กับ บันทึกการประชุมที่ไม่ตรงกันอาจจะมีน้ำหนักไม่มากพอ ที่จะมาใช้ตามกฎหมาย หรือลบล้างข้อกล่าวหาการถือหุ้น itv ของนายพิธาได้นั้น นายพิธา กล่าวว่า จะต่อสู้ในทุกรายละเอียด ทุกขบวนความ และส่วนตัวเชื่อว่า สังคมน่าจะเทียบคดีย้อนหลังดูได้ ว่าศาลตัดสินออกมาอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นศาลฎีกา ศาลอาญา ศาลรัฐธรรมนูญ​ ว่าตัดสินด้วยบรรทัดฐานแบบไหน ก็จะต่อสู้ในแนวทางแบบนั้น ก่อนจะย้ำว่าตนมั่นใจในพยานหลักฐานและหลักกฎหมาย โดยเฉพาะหลังจากที่เห็นความไม่ชอบมาพากล ความพิรุธในความพยายามสร้างหลักฐานขึ้นมาใหม่ ยิ่งทำให้มั่นใจว่าจะต่อสู้คดีได้ ทุกรูปแบบ

เมื่อถามว่างบการเงินที่มีการยื่นให้กับกรมพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นรายได้ที่มาจากสื่อ จะทำให้นายพิธา เพลี่ยงพล้ำหรือไม่ นายพิธา ตอบว่า​ ไม่ แต่ขอรับไปตรวจสอบดู ตามกฎหมาย ขอให้เป็นเรื่องของคณะทำงานด้านกฎหมาย

 

 

เมื่อถามว่า ในที่ประชุมกรรมาธิการของวุฒิสภา มีการพูดถึงมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ หากมีการรับรอง ส.ส.แล้ว จะมีการเปิดช่องให้ ส.ส.หรือ สว. เข้าชื่อกัน 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกแต่ละสภา เพื่อส่งให้ประธานของสภานั้นๆส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของนายพิธา ได้ นายพิธา ยอมรับว่า เป็นสิ่งที่เราคิดไว้แล้วว่าจะเกิดขึ้น ที่คิดไว้อยู่ว่าจะเป็นการสกัดกั้น ไม่ให้ตนเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่ว่าจะสกัดกั้นอย่างไร ก็ไม่ทำให้การเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหมดไป

นายพิธา ยังยกไทม์ไลน์​ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2562 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก่อนโหวตเลือกนายกฯ ก็ยังสามารถที่จะส่งชื่อโหวตในที่ประชุม เพราะความเป็น ส.ส.กับแคนดิเดตนายกไม่ได้เกี่ยวข้องกัน

 

 

ส่วนที่มีกระแสข่าว ว่าก่อนหน้านี้เคยมีเจ้าหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร เตือนว่า หากยังถือครองหุ้นไอทีวีอยู่ จะเป็นปัญหา ในอนาคต นายพิธายืนยันว่าไม่เคยมีเจ้าหน้าที่คนใด ทักท้วงหรือเตือนตนเองมาก่อน ขณะเดียวกันตนเองก็ได้ พูดคุยสอบถามกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมาโดยตลอดซึ่งก็ไม่มีปัญหา

ส่วนการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหลังจากการพ้นตำแหน่ง สส. ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารและข้อมูลต่างๆอย่างละเอียด เพื่อให้รอบคอบที่สุด ก่อนที่จะยื่น ให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ ภายในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ตามระเบียบของ ป.ป.ช.

อย่างไรก็ตาม ระหว่างขึ้นรถเพื่อเดินทางไปสนามบินได้มีแฟนคลับมาขอถ่ายรูปและให้ดอกไม้ ซึ่งช่วงหนึ่งมีนักเรียนผู้ชายมาขอให้เซ็นลายเซ็นบนลูกฟุตบอล หลังนายพิธาเซ็นเสร็จน้องได้ร้องไห้ด้วยความปลื้มปิติดีใจ นายพิธาได้เข้าไปกอด ขณะเดียวกันก็ได้ร่วมถ่ายรูปกับนักเรียนที่มาร่วมงานในวันนี้ด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มูลนิธิแพรกษาเพื่อการศึกษา ร่วมกับ S.MILES Group มอบทุนการศึกษา ปลูกต้นเฟื่องฟ้า กว่า 1,000 ต้น สร้างพื้นที่สีเขียวให้กับเยาวชน
นนทบุรี หมดเงินก็หมดค่า ! ยายวัย 90 ปี ร้องสื่อถูกหลานสาวแท้ๆกับสามีเอาเงินไป 3.5 ล้านก่อนไล่ออกจากบ้าน
"หมอวรงค์" คาใจเหตุผลจริงๆ ไทยยอมลงนามถอยอาวุธหนัก ถามแรงจะยอมไหม วันหนึ่งกัมพูชาถอนธงไตรรงค์บนยอดภูมะเขือ
“ดีอี” สั่งการ คุมเข้ม SIM BOX เคาะเปิดซิมการ์ด ต้องยืนยันตัวตนแบบเรียลไทม์ สกัดอาชญากรรมไซเบอร์
"นายกฯอนุทิน" แถลงเวทีผู้นำเศรษฐกิจเอเปค เสนอ 3 แนวพัฒนา เสริมศักยภาพขับเคลื่อนเครื่องยนต์ศก.โลก
ชุ่มฉ่ำจัดเต็ม ทั่วไทยเจอฝนตกหนัก เช็ก 47 จว.ฝนถล่ม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.ฝนหนัก 70 %

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​