“ดร.สามารถ” แจงเทคโนโลยีรถไฟฟ้า “โมโนเรล” ห่วงอนาคตรถไฟเร็วสูง กทม.-โคราช

"ดร.สามารถ" แจงเทคโนโลยีรถไฟฟ้า "โมโนเรล" ห่วงอนาคตรถไฟเร็วสูง กทม.-โคราช

ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะนักวิชาการด้านวิศวกรรมขนส่ง โพสต์เฟซบุ๊ก “ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ – Dr.Samart Ratchapolsitte” โดยระบุข้อความว่า สุดยอดโมโนเรล “วิ่งไม่ใช้ล้อ บินไม่ใช้ปีก”
หลายท่านคงได้ทดลองนั่งรถไฟฟ้าสายสีเหลืองซึ่งเป็นโมโนเรลแบบคร่อมรางกันแล้ว ผมเคยบอกว่าโมโนเรลมี 2 แบบ คือแบบคร่อมราง และแบบแขวนห้อยใต้ราง วันนี้ขอแนะนำให้รู้จักเพิ่มอีก 1 แบบ นั่นคือแบบ “วิ่งไม่ใช้ล้อ บินไม่ใช้ปีก”

1. โมโนเรลแบบ “วิ่งไม่ใช้ล้อ บินไม่ใช้ปีก”

โมโนเรลแบบ “วิ่งไม่ใช้ล้อ บินไม่ใช้ปีก” ก็คือแม็กเลฟนั่นเอง

แม็กเลฟคือรถไฟแบบแรงแม่เหล็กยก (Magnetic Levitation หรือ Maglev) โดยใช้พลังแม่เหล็กยกรถไฟขึ้นเหนือราง ซึ่งบางระบบใช้รางเดี่ยว และผลักให้วิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง เนื่องจากไม่มีการเสียดสีระหว่างล้อกับราง

หลักการทำงานของแม่เหล็กไม่ยุ่งยาก โดยมีขดลวดเพื่อรับกระแสไฟฟ้าติดอยู่ที่ราง และมีแม่เหล็กติดอยู่ที่ตัวรถไฟ ในขั้นแรกขดลวดจะสร้างสนามแม่เหล็กเพื่อยกรถไฟขึ้นเหนือราง ต่อจากนั้น ขดลวดอีกชุดหนึ่งจะสร้างสนามแม่เหล็กเพื่อให้บริเวณด้านหน้าของรถไฟมีแรงลากรถไฟ และบริเวณด้านหลังมีแรงผลัก แรงทั้งสองนี้จะช่วยทำให้แม็กเลฟกระโจนไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง ถึงเวลาเบรกก็เพียงแค่ทำให้แรงจากสนามแม่เหล็กมีทิศทางย้อนกลับเท่านั้น

แม็กเลฟเป็นรถไฟที่ไม่ใช้ล้อ แต่วิ่งด้วยความเร็วสูงมาก จึงได้รับลักษณะเด่นว่า “วิ่งไม่ใช้ล้อ บินไม่ใช้ปีก”

 

2. เทคโนโลยีของแม็กเลฟ

แม็กเลฟมี 2 เทคโนโลยี คือเทคโนโลยีของเยอรมนี และเทคโนโลยีของญี่ปุ่นซึ่งใช้หลักการเดียวกัน แต่มีข้อแตกต่างกันอยู่บ้าง ที่เห็นชัดๆ ก็คือแม็กเลฟของญี่ปุ่นช่วงออกตัวต้องใช้ล้อจนกระทั่งวิ่งถึงความเร็วประมาณ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงเก็บล้อแล้วลอยตัวขึ้น ในขณะที่ของเยอรมนีไม่ใช้ล้อ วิศวกรญี่ปุ่นคุยว่าเทคโนโลยีของเขามีข้อได้เปรียบ เพราะเมื่อกระแสไฟฟ้าขัดข้องก็สามารถใช้ล้อแทนได้ แต่วิศวกรเยอรมนีโต้ว่าของเขามีแบตเตอรี่สำรองไว้จ่ายไฟกรณีฉุกเฉินอยู่แล้ว

ถึงเวลานี้แม็กเลฟของญี่ปุ่นสามารถวิ่งบนเส้นทางทดสอบ (Test Track) ได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 603 กิโลเมตร/ชั่วโมง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

3. แม็กเลฟที่เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์

ปี พ.ศ. 2547 จีนเปิดให้บริการแม็กเลฟเชิงพาณิชย์ที่นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งถือเป็นโมโนเรลแบบคร่อมราง ใช้เทคโนโลยีของเยอรมนี เชื่อมสนามบินผู่ตงและย่านหลงหยาง ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลา 7 นาทีครึ่ง วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 431 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ปี พ.ศ. 2564 จีนเผยโฉมต้นแบบแม็กเลฟวิ่งระหว่างกรุงปักกิ่งกับนครเซี่ยงไฮ้ ระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 600 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง เร็วกว่ารถไฟความเร็วสูงซึ่งใช้เวลา 5 ชั่วโมงครึ่ง แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าเป็นโมโนเรลหรือไม่ ? และจะเปิดใช้เมื่อไหร่ ?

ปี พ.ศ. 2570 ญี่ปุ่นมีแผนที่จะเปิดใช้แม็กเลฟระหว่างกรุงโตเกียว-นาโกย่า ระยะทาง 286 กิโลเมตร วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 505 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 40 นาที เร็วกว่าชินคันเซ็นซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง แม็กเลฟสายนี้ไม่ถือว่าเป็นโมโนเรล

 

4. สรุป
เราคนไทยทั้งหลายตั้งหน้าตั้งตารอใช้รถไฟความเร็วสูงสายแรก เชื่อมกรุงเทพฯ กับนครราชสีมา ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูงปกติไม่ใช่แม็กเลฟมาอย่างยาวนาน ถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าจะได้ใช้เมื่อไหร่ ? ดังนั้น อย่าเพิ่งวาดฝันที่จะใช้แม็กเลฟเลยครับ

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน
ก.แรงงานทำสำเร็จ นำประชุมบอร์ดค่าจ้าง ได้ข้อสรุป ปรับขั้นต่ำขึ้น 400 ต่อวัน เริ่ม 1 ก.ค.ทั่วกรุงฯ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น