No data was found

“อดีตบิ๊กข่าวกรอง” จัดเต็ม “ลูกเกด ก้าวไกล” โทษผิดศาลไม่เลื่อนสอบคดี 112

กดติดตาม TOP NEWS

"อดีตบิ๊กข่าวกรอง" จัดเต็ม "ลูกเกด ก้าวไกล" โทษผิดศาลไม่เลื่อนสอบคดี 112

นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขาฯรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก “Nantiwat Samart” โดยระบุข้อความว่า ศาลที่ไม่เคารพ ว่าที่ ส.ส.ซึ่งเป็นจำเลยในคดี ม.112 ต่อว่าต่อขานผู้พิพากษาศาลที่ไม่ยอมให้มีการเลื่อนการพิจารณาคดี ม.112 ด้วยข้ออ้างว่า ทนายติดธุระไม่สามารถมาศาลได้

ศาลชี้แจงว่า ที่ไม่ให้เลื่อนเนื่องจากจำเลยมีทนายสองคน เมื่อทนายคนหนึ่งไม่สามารถมาศาลได้แต่ยังมีทนายอีกหนึ่งคนที่ว่าความแทนได้ กฏหมายให้พิจารณาต่อหน้าจำเลยไม่ใช่ต่อหน้าทนายจำเลย ศาลยังเมตตาให้ทนายจำเลยมาซักค้านในนัดหน้าได้

หากศาลไม่เอาโทษนางที่ละเมิดศาล แสดงว่า ศาลมีเมตตานางมากเป็นพิเศษ

การขอเลื่อนคดีจะทำได้หรือไม่ได้ เป็นอำนาจของศาลไม่ใช่สิทธิของจำเลย ไว้รอเป็น ส.ส.ค่อยใช้เอกสิทธิ ส.ส.ขอไม่ต้องไปศาล และรอให้แก้ไข ม.112 สำเร็จ ไม่เอาผิดคนที่ล่วงละเมิดสถาบันในความผิด ม.112 เสียก่อนคงได้ ถึงตอนนั้นก็สบายแล้ว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 66 นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณี น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด ผู้ต้องหาคดี 112 และ ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.ปทุมธานี ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เพื่อให้ตรวจสอบวินัยผู้พิพากษาศาลอาญา ที่เร่งรัดคดีอาญา มาตรา 112 ที่ น.ส.ชลธิชา ตกเป็นจำเลย โดยมีการเลื่อนนัดสืบพยานให้เร็วขึ้น จนไม่มีทนายความจำเลย ร่วมฟังการสืบพยานโจทก์ เมื่อวาน(1มิ.ย.66) ที่ผ่านมาว่า คดีนี้ แต่เดิมมีการกำหนดนัดสืบพยานไว้เป็นช่วงเดือนมีนาคม 2567 แต่ตอนหลังมีเรื่องของการกำหนดกรอบ ระยะเวลาในกระบวนการยุติธรรม โดยมีระเบียบของประธานศาลฎีกา ออกมาว่า คดีประเภทคดีอาญาสามัญ ควรจะพิจารณาคดีแล้วเสร็จตั้งแต่วันรับฟ้อง ซึ่งศาลอาญา เห็นว่า ระยะเวลา ที่มีการนัดสืบพยานในช่วงเดือนมีนาคม 2567 น่าจะเป็นระยะเวลาที่ยาวเกินไป เลยกรอบไปนาน จึงมีการปรับปรุงวันนัดใหม่ ให้กระชั้นขึ้น หรือเร็วขึ้น เพื่อไม่ให้เกินกรอบ ระยะเวลานานเกินไป

เมื่อกำหนดวันนัดใหม่ ก็เลยมีประเด็น ที่จำเลยโต้แย้งวันนัดว่า ในวันที่ 1-2 มิ.ย. 66 จำเลยไม่ว่าง เพราะทนายติดว่าความคดีที่ศาลอื่น จึงขอเลื่อนการสืบพยาน ในวันดังกล่าว แต่องค์คณะผู้พิพากษา เจ้าของสำนวนคดีนี้ พิจารณาแล้ว เห็นว่าคดีนี้ จำเลยมีทนาย 2 คน คือ นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม และนายกฤษฎางค์ นุตจรัส โดยคนที่แถลงเลื่อน ว่าติดว่าความที่ศาลอื่น คือ ทนายนรเศรษฐ์ ส่วนทนายกฤษฎางค์ ไม่ได้ปรากฏว่า ติดคดีอะไร เพราะฉะนั้นโดยปกติ เมื่อมีทนาย 2 คนแบบนี้ หากคนหนึ่ง ติดว่าความคดีอื่น แต่อีกคนไม่ติดคดีอะไร ก็สามารถที่จะทำหน้าที่ได้ องค์คณะผู้พิพากษา จึงไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี และมีการสืบพยานไป

ส่วนประเด็นที่ น.ส.ชลธิชา ระบุว่า ในการสืบพยานจำเลย เมื่อวาน(1มิ.ย.66) ไม่มีทนายจำเลยร่วมรับฟังการสืบพยานภายในห้องพิจารณาคดี นั้น โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย กำหนดว่า ต้องมีการสืบพยานต่อหน้าจำเลย แต่ไม่ได้ระบุว่าต้องสืบพยานต่อหน้าทนายจำเลย เพราะฉะนั้นเรื่องของกระบวนพิจารณา การที่กฎหมายกำหนดคือเรื่องของจำเลยเป็นหลัก แต่สิทธิ์ในการที่จะต่อสู้คดีในการถามค้านตรงนี้ ก็มี 2 ส่วนคือ ประเด็นแรก ทางศาลถามตัวจำเลยว่าจะซักถามพยานในเชิงถามค้านเองหรือไม่ ซึ่งจำเลยก็ไม่ใช้สิทธิ์ ทั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของตัวความ ไม่ว่าจะเป็นโจทก์ หรือ จำเลย ก็มีสิทธิ์ที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาได้เองอยู่แล้ว เพราะทนายก็เป็นตัวแทนของตัวความ ก็คือโจทก์ จำเลย เพราะฉะนั้น สิทธิ์ในการถาม ก็เป็นสิทธิ์ในตัวความอยู่แล้ว

นายสรวิศ ยังกล่าวด้วยว่า ในการสืบพยานโจทก์ เมื่อวานที่ผ่านมา มีการอัดเทป หรือ วิดีโอ ไว้ด้วย ซึ่งศาลก็ได้มีการถามเหมือนกันว่า หากทนายจำเลย ไม่ว่างในวันดังกล่าว ก็สามารถไปศึกษาจากวิดีโอ ที่บันทึกไว้ เพื่อขอถามค้านในวันอื่นได้ แต่ปรากฏว่า น.ส.ชลธิชา ก็โต้แย้งมาโดยตลอดว่า กระบวนการพิจารณาไม่ชอบ จึงแจ้งต่อศาลว่า ไม่ประสงค์ที่จะใช้สิทธิ์ตรงนี้ ส่วนการยื่นหนังสือถึง ก.ต.เพื่อขอให้ตรวจสอบการพิจารณาคดีขององค์คณะผู้พิพากษา นั้น เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และถือเป็นเรื่องปกติ ที่ว่า หากคู่ความคนใดเห็นว่า ตนเองอาจจะไม่ได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสม ก็ยื่นเรื่องให้พิจารณาได้อยู่แล้ว แต่ว่าสุดท้ายการพิจารณาจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงในคดีที่เกิดขึ้น

 

 

ส่วนประเด็นเรื่องของการตั้งคำถามว่า ศาลเร่งรัดพิจารณาคดี เฉพาะว่าที่ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล นั้น โฆษกศาลยุติธรรม ระบุว่า คงไม่ได้เกี่ยวกับการเป็นว่าที่ ส.ส. เพราะการเร่งรัดคดีตรงนี้ ก็ไม่ใช่เฉพาะคดีนี้ ซึ่งการปรับปรุงวันนัด ก็มีการปรับปรุงในหลายๆคดี ให้เร็วขึ้น ตามกฎหมายที่ออกมา และคดีของ น.ส.ชลธิชา ก็ฟ้องมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งฟ้อง ส่วนคดีที่มีการอ้างถึงว่า พิจารณาคดีล่าช้านั้น เป็นคดีที่เพิ่งเกิดขึ้น ด้วยซ้ำ ดังนั้นคงนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“แม่น้องไนซ์” บุกโรงพักแจ้งจับพม. โวยคุกคามลูก แจง“วิปัสสนา” คือ “ซูม”
"รุ้ง-มายด์" นำทีมกลุ่มทะลุฟ้า ยื่นหนังสือร้องรัฐบาล ปล่อยตัวนักโทษ 112 เล่นใหญ่จี้นายกฯต้องรับผิดชอบปม "บุ้ง" เสียชีวิต
นักวิจัยค้นพบสาเหตุเกิดลิ่มเลือดอุดตัน จากวัคซีนโควิด
ไอร์แลนด์เตรียมรับรองรัฐปาเลสไตน์ –แอฟริกาใต้ร้องศาลโลก
สหรัฐ ไบเดน-ทรัมป์ ประกาศร่วมศึกดีเบท
อินโดนีเซีย เครื่องบินไฟไหม้ ลงจอดฉุกเฉิน
กกต.ระยอง จัด Kick off การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา '20 กลุ่มอาชีพ ร่วมใจ ขับเคลื่อนประเทศไทยไปพร้อมกัน' ภายใต้กิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์การให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
สาวขับรถยนต์เหยียบเบรคไม่อยู่ รู้ตัวอีกทีไฟลุกควันท่วมห้องเครื่องกลางถนน พลเมืองดีช่วยดับวุ่น
จังหวัดเลย เจอพิษภัยแล้ง ทำผลผลิตมะม่วงบุฮม ลดฮวบกว่า 50 %
"นายใหญ่" แสดงฤทธิ์เดชเหนือ "รัฐบาล" ฟอกขาวคดีจำนำข้าว ตั้ง "รมต.สายล่อฟ้า" ล่อเป้าฝ่ายตรงข้ามรุมถล่มจุดอ่อนรัฐบาล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น