No data was found

“บิ๊กตู่” โพสต์แจงการบริหารหนี้สาธารณะของไทย ยังคงแข็งแกร่ง พร้อมรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดในอนาคต

กดติดตาม TOP NEWS

"บิ๊กตู่" โพสต์เฟชบุ๊ก แจงการบริหารหนี้สาธารณะของประเทศ เชื่อมั่นว่าภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance) ของประเทศไทย ยังคงแข็งแกร่ง อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ และสามารถรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดของโลกในอนาคตได้

วันที่ 31 พ.ค. 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟชบุ๊ก ชี้แจงการบริหารหนี้สาธารณะของประเทศ ว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ

 

การประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (30 พ.ค.66) ผมได้ติดตามรายงานการบริหารหนี้สาธารณะของประเทศ ที่ถือว่าเป็นตัวชี้วัดสำคัญ สะท้อนความแข็งแกร่งระบบเศรษฐกิจไทย และสร้างความเชื่อมั่นในสายตาชาวโลก ซึ่งสรุปได้ดังนี้

1. หนี้สาธารณะต่อ GDP ณ 31 มี.ค.66 ประมาณ 10 ล้านล้านบาท คิดเป็น 61.30% ของ GDP ซึ่งอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง คือ 70% ของ GDP โดยที่มาของหนี้สาธารณะ เกิดจาก…
(1) หนี้ที่รับช่วงมาจากรัฐบาลในอดีต
(2) หนี้ที่มาจากการกู้เงินเพื่อใช้ในการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ เช่น การคมนาคมขนส่ง สาธารณูปโภค พลังงาน การศึกษา และที่อยู่อาศัย คิดเป็น 75% ของเงินกู้
(3) ในช่วงที่โควิดระบาดทั่วโลก เราจำเป็นต้องกู้เงินกว่า 1.5 ล้านล้านบาท เพื่อใช้จ่ายในระบบสาธารณสุขสำหรับการควบคุมโรค ดูแลรักษาช่วยเหลือประชาชนและทุกภาคส่วน ตลอดจนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมโดยเร่งด่วน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

2. ภาระหนี้ของรัฐบาลกว่า 98% เป็นหนี้ในประเทศ ที่เหลือเพียงส่วนน้อยมากเป็นหนี้ต่างประเทศ จึงได้รับผลกระทบจากความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ 88.6% เป็นหนี้ระยะยาว และ 11.4% เป็นหนี้ระยะสั้น ทำให้เรามีความคล่องตัว-ไม่กดดัน ในการบริหารจัดการหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. รัฐบาลมีแนวทางการบริหารหนี้สาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
(1) การชำระคืนหนี้ก่อนครบกำหนด (Pre-funding) ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเหมาะสม
(2) การปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อลดการกระจุกตัวของภาระหนี้ ยืดอายุหนี้ และลดความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย
(3) ช่วงอัตราดอกเบี้ยขาลง ก็ได้ปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อช่วยลดต้นทุนเฉลี่ยของหนี้สาธารณะ
(4) ช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ก็ได้แปลงหนี้ที่เป็น “ดอกเบี้ยลอยตัว” ให้เป็น “ดอกเบี้ยคงที่” ซึ่งมีความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า ปัจจุบัน 85% เป็นหนี้ที่เป็นดอกเบี้ยคงที่

(5) การจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม เพื่อเร่งชำระหนี้ ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ย ซึ่งนับตั้งแต่ปี 57 จนถึงปัจจุบัน ได้มีการชำระหนี้สาธารณะไปแล้วมากกว่า 2.6 ล้านล้านบาท นับเป็นยอดชำระหนี้มากที่สุด เมื่อเทียบกับรัฐบาลในอดีตที่ผ่าน ๆ มา

(6) การเร่งรัดสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และส่งเสริมการสร้างงาน-สร้างรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้มีรายได้เข้าประเทศมากขึ้น เก็บภาษีได้สูงขึ้นในทุกกิจกรรม และเกิดการพัฒนาต่อยอดขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งสามารถนำมาชำระหนี้ได้มากขึ้นด้วย

 

ทั้งนี้จากการมุ่งสร้างเจริญก้าวหน้า การลงทุนเพื่ออนาคต การฝ่ามหาวิกฤตโลก และการบริหารหนี้สาธารณะ ที่เป็นไปอย่างเคร่งครัด ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ ส่งผลให้บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อระดับสากล ยังคงอันดับความน่าเชื่อของประเทศไทยที่ BBB+ มาอย่างต่อเนื่อง และมุมมองความน่าเชื่อถือมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) โดยเชื่อมั่นว่าภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance) ของประเทศไทย ยังคงแข็งแกร่ง อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ และสามารถรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดของโลกในอนาคตได้ครับ

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทนายความ อัปเดตอาการล่าสุด "บุ้ง" หลังหัวใจหยุดเต้น ครอบครัวเข้าเยี่ยมรพ.ราชทัณฑ์แล้ว
รัฐบาลโชว์ผลงาน ดึงบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง ลงทุน EEC
"เลขานุการกรมราชทัณฑ์" แจงยังไม่ได้รับรายงาน "บุ้ง" หัวใจหยุดเต้น ก๊วน 3 นิ้ว รัว ๆ ข่าวผ่านโซเชียล
"บุ้ง ทะลุวัง" หัวใจหยุดเต้น จนท.เร่งปั๊มหัวใจช่วยชีวิต
อุทยานแห่งชาติฯ พีพี เร่งปิดจุดดำน้ำตื้น-ดำน้ำลึกบางจุด หลังพบปะการังฟอกขาวเกิดจากสภาพแวดล้อมน้ำทะเลผิดปกติ
"โจ มณฑานี" โพสต์จากใจ ถึง Top News เชื่อมั่นสู้เพื่อ 3 สถาบันหลักชาติ
"พิพัฒน์" หนุนดูแลครอบครัวแรงงาน ผ่านโครงการ "ครอบครัวประกันสังคม" สร้างขวัญกำลังใจในองค์กร นำร่องเพชรบุรีที่แรก
เปิดมุมมอง "ปกรณ์ นิลประพันธ์" การกำหนดนโยบายสาธารณะ (Public policy)
พายุฝุ่นถล่มนครมุมไบ อินเดีย ทำป้ายยักษ์ถล่มทับชาวบ้านเสียชีวิต 8 ราย
ตร.พบเบาะแส "หนุ่มเกาหลี" ถูกฆ่ายัดถังปูน เงินหายจากบัญชี 30 ล้านวอน หลังเสียชีวิต 4 วัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น