วันที่ 17 ส.ค. 2564 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจ.ราชบุรี ได้มีตัวแทนชาวบ้านจากสองตำบล คือตำบลจอมบึง และตำบลรางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี กว่า 50 คน เดินทางมาพร้อมกับป้ายข้อความ “ ชาวบ้านไม่เอาฟาร์มหมู ฟาร์มเก่ายังแก้ปัญหาไม่แก้ไข ฟาร์มใหม่จะมาสร้างอีก “ ชุมชนเราไม่เอาฟาร์มหมู” “ ฟาร์ม หมู เป็ด ไก่ สร้างความหายนะให้ น้ำ ดิน อากาศ “ มายืนชูป้ายเรียกร้องขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เพื่อจะทวงถามถึงหนังสือร้องเรียน เรื่องที่ให้มีการทบทวนในการที่จะก่อสร้างฟาร์มหมู กลางชุมชน และฟาร์มหมูที่มีการก่อสร้างมาแล้ว แต่สร้างความเดือดร้อนเพราะบ่อน้ำเสียของฟาร์มคันบ่อพัง และทำให้น้ำเสียไหลเข้าท่วม พื้นที่ทำการเกษตร รวมทั้งพื้นที่ในการทำ โคก หนอง นา โมเดล ที่ชาวบ้านลงทุนทำโดยใช้เงินเก็บที่มีอยู่ทั้งหมดในชีวิตจำนวนกว่า 300,000 บาท ในการมาลงทุน แต่ถูกน้ำเสียไหลทะลักเข้าท่วมคืนเดียวเสียหายทั้งหมด ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำซาก และชาวบ้านก็ร้องเรียนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากทางผู้ประกอบการ แต่ยังมีการก่อสร้างฟาร์มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ทางหน่วยงานภาครัฐ ก็ยังไม่สามารถเข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้เลย ซึ่ง นางสาวเสาวนิตย์ เจิมเกิด ชาวบ้านในหมู่ 5 ต.จอมบึง ก็มาตะโกนทวงถามหน่วยงานรัฐว่า วันนี้ชาวบ้านกำลังจะตายเพราะไม่มีที่จะทำกิน เนื่องจากน้ำขี้หมูไหลเข้าท่วมพื้นทั้งหมด จะช่วยอะไรได้บ้าง แจ้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แม้แต่ฟ้องศาลแล้ว ทำทุกวิธีที่ชาวบ้านจะสามารถทำได้ แต่ความเดือดร้อนก็ไม่ได้คลายลงเลย จนทำให้วันนี้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมาหลายสิบปี ต้องรวมตัวมาบุกศาลากลาง เพื่อสอบถึงความคืบหน้าในการดำเนินการจากทางภาครัฐ
โดยมีนายพงษ์พันธุ์ แสงสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ลงมาพุดคุยกับชาวบ้านแทนผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมกับรับหนังสือทวงถามของชาวบ้าน และรับปากว่าจะดำเนินการตรวจสอบเรื่องทั้งหมดภายใน 7 วัน จากนั้นจะแจ้งผลการดำเนินงานให้กับชาวบ้านได้รับทราบ และขอให้ชาวบ้านได้เดินทางกลับบ้าน เนื่องจากเป็นช่วงที่โควิด 19 ระบาด จึงเกรงว่าอาจจะเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ และเกรงว่าอาจจะผิด พรก.ฉุกเฉิน ด้วย
ด้านนางสาวเตือนใจ มิอะ และนายเทียนชัย เทพวาส ตัวแทนชาวบ้านที่มายื่นหนังสือทวงถาม ก็บอกว่า วันนี้มาทวงถามถึงเรื่องของความเดือดร้อนจากฟาร์มหมู ที่เคยยื่นเรื่องมาแล้วหลายรอบ ซึ่งความต้องการของชาวบ้านนั้นต้องการให้ฟาร์มหมูที่กำลังก่อสร้างอยู่ขณะนี้ได้ยุติการก่อสร้าง และให้มาทำประชาคมกับชาวบ้านก่อน เพราะในพื้นที่นั้นมีฟาร์มจำนวนมากอยู่แล้วที่สร้างความเดือดร้อนและยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ จึงไม่อยากให้มีการก่อสร้างเพิ่ม และการทำประชาคมนั้นก็ให้ทางผู้ประกอบมาทำเอง ไม่ใช่ให้ทาง ปลัดอบต. ซึ่งรักษาการนายกอบต.รางบัว มาทำเอง เพราะไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งนี้ชาวบ้านมองว่าไม่มีความเป็นธรรม จึงอยากจะให้ย้าย ปลัดอบต. และรักษาการนายกอบต.รางบัว ไปที่อื่นเพราะชาวบ้านไม่ไว้ใจและอยู่ร่วมกับชุมชนไม่ได้ เพราะชุมชนนั้นไม่เอาแล้ว ส่วนฟาร์มที่ประกอบการอยู่แล้ว แต่สร้างความเดือดร้อนซ้ำซาก ทั้งที่ทางฟาร์มก็รับทราบมาตลอดว่า น้ำเสียของฟาร์มนั้นไหลเข้าท่วมพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน แต่ก็ยังไม่มีการแก้ไข เป็นอย่างนี้มากว่า 1 0 ปี แล้ว ก็ขอให้หน่วยงานนั้นสั่งปิดไปจนกว่าจะดำเนินการแก้ไขให้ได้มาตราฐาน ซึ่งอีก 7 วันข้างหน้า ถ้าหน่วยงานภาครัฐยังไม่ดำเนินการให้ ชาวบ้านในอำเภอจอมบึง รวมทั้งอีกหลายอำเภอที่ได้รับผลกระทบจากฟาร์มหมู ก็จะยกขบวนกันมาปิดหน้าศาลากลาง จนกว่าจะมีคำสั่งให้ปิดฟาร์มหรือให้มีการแก้ไขที่ชาวบ้านสามารถจะรับได้ด้วย
ภัทรพงศ์ คำเปรม ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดราชบุรี
