นานาชาติเร่งอพยพพลเมืองของตนออกจากซูดาน

นานาชาติเร่งอพยพพลเมืองของตนออกจากกรุงคาร์ทูมของซูดาน ท่ามกลางการสู้รบที่ดุเดือด โดยซาอุดิระเบียเป็นชาติแรกที่อพยพออกมาแล้ว

AFP, BBC และ รอยเตอร์สรายงานว่ากระทรวงต่างประเทศซาอุดิอาระเบียออกมาแถลงเป็นชาติแรกว่าเรือของกองทัพซาอุฯ ได้อพยพพลเมืองของตนจำนวนกว่า 150 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทูตและพลเมืองออกจากกรุงคาร์ทูม โดยลงเรือที่ท่าเรือซูดานมาขึ้นฝั่งที่เมืองเจดดาห์ ของซาอุดิอาระเบียโดยปลอดภัยแล้วเมื่อวานนี้ และในจำนวนนี้ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ทูตของอีก 12 ประเทศรวมอยู่ด้วย มีทั้งคูเวต, กาตาร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อิยิปต์ล ตูนีเซีย, ปากีสถาน, อินเดีย, บัลแกเรีย, บังกลาเทศ, ฟิลิปปินส์, แคนาดา และบูร์กินา ฟาโซ โดยซาอุดิอาระเบียบอกว่าจะดูแลและช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ต่างชาติเหล่านี้จนกว่าจะเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม

และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็มีรายงานว่ากองทัพสหรัฐได้ส่งเครื่องบิน 6 ลำเข้าไปอพยพเจ้าหน้าที่ทูตและครอบครัวจากสถานทูตอเมริกันที่กรุงคาร์ทูมออกมาทั้งหมด และสั่งปิดสถานทูตแล้ว ถือเป็นชาติที่สองที่อพยพออกจากคาร์ทูม แต่อพยพเฉพาะเจ้าหน้าที่ทูตเท่านั้น

ขณะที่สหราชอาณาจักรกำลังพิจารณาหาทางอพยพเจ้าหน้าที่ทูตของตนเอง โดยจะมุ่งอพยพเฉพาะนักการทูตเช่นกัน ส่วนพลเมืองนั้นมีเพียงได้รับคำบอกแนะว่าให้สามารถขอความช่วยเหลือผ่านทาง Hotline เฉพาะเหตุฉุกเฉินจริง หากไม่ฉุกเฉินก็ให้เข้าไปหลบภัยในสถานที่ปลอดภัย เช่นเดียวกับแคนาดาที่ให้คำแนะนำพลเมืองของตนให้หาที่หลบภัยในที่ปลอดภัย

ด้านเกาหลีใต้ก็ได้ส่งเครื่องบินทหารเข้าไปช่วยอพยพอพยพพลเมืองของตนตั้งแต่วันศุกร์ แต่ล่าสุดยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องการอพยพ

เมื่อวานนี้กองทัพซูดานได้ออกแถลงการณ์ว่าได้รับการเรียกร้องจากชาติต่างๆให้ช่วยประสานงานเพื่อการอพยพชาวต่างชาติออกจากกรุงคาร์ทูม ภายในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจีน, สหรัฐ, สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส โดยจะมีการส่งเครื่องบินทหารเข้ามาอพยพ ซึ่งทางกองทัพซูดานก็รับปากและอยู่ระหว่างการประสานเพื่อช่วยอพยพ ทั้งนี้เนื่องจากการสู้รบได้ขยายไปในหลายพื้นที่่ในเมืองหลวง รวมทั้งสนามบินคาร์ทูม ทำให้ไม่สามารถนำเครื่องบินพลเรือนเข้ามาอพยพได้

เหตุสู้รบระหว่างกองทัพซูดานและกองกำลังกึ่งทหารหรือ RSF ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามเปิดฉากขึ้นเมื่อ 15 เมษายนที่ผ่านมาเพื่อแย่งชิงอำนาจระหว่างกัน และขยายวงกว้างเข้าสู่กรุงคาร์ทูม ล่าสุดองค์การอนามัยโลกคาดการณ์ว่าทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 400 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ขณะที่ในเมืองหลวงเริ่มประสบปัญหาขาดน้ำและอาหาร และไฟฟ้าดับและระยะๆ โดยวันศุกร์ที่ผ่านมากองกำลังทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบที่จะมีการประกาศหยุดยิง 3 วันจากศุกร์ถึงอาทิตย์ เนื่องจากเทศกาลอิดี้อัลฟิตรี แต่ปรากฎว่าไม่มีฝั่งไหนยอมหยุดยิง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สิบเอกสังกัดกอ.รมน." เครียดปัญหาส่วนตัว เบิกเอ็ม 16 เหนี่ยวไกปลิดชีพคาหน่วย
GULF Sparks Smiles มอบรอยยิ้มสดใสให้ชุมชน ปี 5 หน่วยที่ 3 จุดประกายรอยยิ้ม สร้างโอกาสเข้าถึงทันตกรรมฟรีให้ชาวชลบุรี
"แม่ทัพภาคที่ 2" ย้ำมุ่งมั่นปกป้องอธิปไตยชาติ ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียน
“นฤมล” ยืนยัน พรรคกล้าธรรม ยังสนับสนุน“นายกฯ” ทำงานต่อ ขอคนไทยสามัคคี อย่าหลงเกมกัมพูชา ช่วยกันส่งกำลังใจให้ทหารแนวหน้า
ซีพีประกาศจุดยืน “องค์กรแห่งความหลากหลาย” เดินหน้ายกระดับนโยบาย DEI และสิทธิมนุษยชน สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล
"ประเสริฐ" กางข้อมูล-หลักฐาน ซัด "กัมพูชา" เป็นแหล่งอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติใหญ่สุดในโลก
“ไตรศุลี” หอบใบลาออก 5 รมต.ภูมิใจไทย ยื่นนายกฯ มีผลทันที
“ประเสริฐ” พร้อมนั่ง "มท.1" ย้ำสัมพันธ์พรรคร่วมรบ.แน่นปึ้ก
วิบากกรรม “ตระกูลชินวัตร” จบไม่สวยกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
พรุ่งนี้ “นายกฯ” ลงพื้นที่ชายแดน ช่องบก อุบลฯ นัดหมายคุยต่อหน้า “แม่ทัพภาคที่ 2”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น