“บิ๊กป้อม” เมิน “เศรษฐา” คุยข่มไม่จับมือ 2 พรรค ย้ำจุดยืนพปชร.ก้าวข้ามขัดแย้ง

"บิ๊กป้อม" เมิน "เศรษฐา" คุยข่มไม่จับมือ 2 พรรค ย้ำจุดยืนพปชร.ก้าวข้ามขัดแย้ง

วันที่ 22 เม.ย. 66 ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีบางซื่อ) พรรคพลังประชารัฐ เปิดเวทีปราศรัย จ.นครราชสีมา นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส ธรรมเผ่า ในฐานะประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา ออกเดินทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ด้วยขบวนรถเร็ว 135 กรุงเทพมหานคร-อุบลราชธานี

 

 

พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ระหว่างนั่งรถไฟว่า เป็นการขึ้นรถไฟในรอบ 40-50 ปี หลังจากนั่งไป จ.เชียงใหม่ สมัยเรียนโรงเรียนนายร้อยฯ มีความสนุก และไม่ร้อน

เมื่อถามว่า จากที่ได้เห็นวิถีชีวิตประชาชนที่ต้องนั่งรถไฟ พรรคพลังประชารัฐจะพัฒนาในด้านใดบ้าง พล.อ.ประวิตร ตอบว่า จะพัฒนาอีสานด้วยรถไฟ และการเปิดอุตสาหกรรม เปิดสถานศึกษา หรือโรงเรียน เพื่อให้เกิดการสร้างงานในพื้นที่ภาคอีสาน และเพื่อไม่ให้คนออกนอกพื้นที่

สำหรับความคาดหวังในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ให้ไปถาม นายวิรัช เป็นผู้ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน หัวหน้าพรรคไม่ต้องดูพื้นที่ ส่วนจะปักธงได้หรือไม่นั้น ตนก็อยากสิครับ ไม่น่าถามเลย อยากได้แต่จะได้หรือไม่ ตนไม่รู้

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวถึงแผนพัฒนานโยบายภาคอีสานประชารัฐว่า จะทำนโยบายอีสานประชารัฐให้ได้ก่อน ยังไม่พูดเรื่องอื่น หากทำได้จะเชื่อมต่อระหว่างภาคตะวันออก ไปถึงภาคตะวันตก หรือ จ.กาญจนบุรี จะทำให้หลายจังหวัดในภาคอีสานมีความเจริญ และคนที่อยู่ในภาคอีสานจะมีงานทำ ถือเป็นการสร้างงานโดยเฉพาะ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามว่า มีอะไรจะกล่าวกับประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อยากให้เลือกตน และพรรคพลังประชารัฐ เพื่อที่จะได้ที่ 1 ตามที่ผู้สื่อข่าวสอบถาม ส่วนการจะได้เป็นนายกฯ ต้องไปเลือกกันในรัฐสภา ไม่ใช่เลือกกันตรงนี้

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ปราศรัยประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ก็ว่ากันก่อน และตนก็ยังไม่ประกาศว่าจะจับมือกับใคร ส่วนนโยบายการก้าวข้ามความขัดแย้ง อยากให้ประชาชนทั้งประเทศเป็นหนึ่งเดียวกัน สำหรับความคิดทางการเมือง ใครจะคิดอย่างไรก็คิดไป เพราะตนบังคับใครไม่ได้”

“บรรยากาศในขณะนี้สามารถทำให้ประชาชนปรองดองได้ เทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีหลายฝ่าย แต่สามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียว นำความเจริญมาสู่ประเทศได้ ประเทศไทยไม่ได้แตกแยกขนาดนั้น”

 

 

ส่วนกรณีที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดรายงานการไต่สวนกรณีปกปิดข้อเท็จจริงการแสดงทรัพย์สินนาฬิกา และแหวน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ตนอยากให้เปิด ยินดีจะได้รู้ความจริงว่าเป็นอย่างไร ตนไม่มีปัญหา และอยากให้เปิดตั้งนานแล้ว ไม่ได้เอาของใครมา ยืมมา ผมก็คืนเขาไปแล้ว”

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังบุกรังคนจีน ผงะเจอแท่นผลิตสารแถมหัวหมอเทสารตั้งต้นลงชักโครก
จับเมียร่วมแก๊งลักสายไฟ ผัวถูกขัง–ตร.ตามอายัดดำเนินคดีเพิ่ม
เขื่อนลำตะคองน้ำดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว 21 ล้านลบ.ม. ปีนี้ฝนตกต่ำค่าเฉลี่ยเล็กน้อย น้ำอยู่ระดับไม่น่าไว้วางใจให้เฝ้าระวัง เตือนเกษตรกรเตรียมรับฤดูแล้ง ปลูกพืชใช้น้ำน้อย
อบอุ่นใจทุกที่เมื่อมีตำรวจไทย ตำรวจภูธรบึงกาฬคุมเข้มสร้างความปลอดภัยช่วงเทศกาลลอยกระทงและฮาโลวีน
ปชช.แห่ส่องเลขเด็ดอ่างน้ำมนต์ฤาษีเณร มอบทุนและของเล่นกว่า 1,000 ชิ้น ให้ศูนย์การศึกษาพิเศษ
ฉลอง 25 ปีนอร์ทกรุงเทพ ม.แห่งโอกาสและคุณภาพมอบรางวัลคนดีของสังคมและศิษย์เก่าดีเด่นเชิดชูผู้ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​