“ศรีสุวรรณ” จี้ กกต.วินิจฉัยเงินดิจิทัลเพื่อไทย ขัด พรบ.เงินตราหรือไม่ หลังใช้จูงใจหาเสียงเลือกตั้ง

"ศรีสุวรรณ" จี้ กกต.วินิจฉัยเงินดิจิทัลเพื่อไทย ขัด พรบ.เงินตราหรือไม่ หลังใช้จูงใจหาเสียงเลือกตั้ง

วันที่ 12 เม.ย. 66 ที่สำนังาน กกต. ศูนย์ราชการฯ อาคาร B นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อชี้เบาะแสให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง / นายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ดำเนินการสอบสวน ไต่สวน และวินิจฉัยเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย ที่ใช้เป็นนโยบายหาเสียง โดยมีกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า ไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี่ แต่เป็นเหรียญ (คูปอง) นั้นขัดต่อ พรบ.เงินตราหรือไม่

 

ทั้งนี้สืบเนื่องจากการ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และกรรมการ เลขานุการ โฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทยชี้แจงเพิ่มเติม 10 ประเด็นเกี่ยวกับ “กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท” เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยยอมรับว่า กระเป๋าเงินดิจิทัลไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี่ ไม่ใช่เงินสกุลใหม่ แต่เป็นเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ Blockchain เขียนเงื่อนไขลงไปในนั้น เพื่อนโยบายการคลังที่ตรงจุด สามารถเอามาแลกเป็นเงินบาทได้ทุกเมื่อนั้น

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

กระเป๋าเงินดิจิทัลดังกล่าว เมื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี่ (Cryptocurrency) เป็นเพียงเหรียญ (คูปอง) ที่สามารถเอามาแลกเป็นเงินบาทได้นั้น อาจถือได้ว่า พรรคเพื่อไทยกำลังจะสร้างเงินตราในรูปแบบใหม่ขึ้นมาใช้ จึงอันเป็นการฝ่าฝืน พรบ.เงินตรา พ.ศ.2501 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยตรง จึงไม่ต่างอะไรกับ “เบี้ยกุดชุม” ของชุมชนตำบลนาโส่ อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ที่โด่งดังเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และหรือกระทรวงการคลังได้ออกมาชี้แล้วในขณะนั้นว่า “เป็นการใช้และกำหนดเงินตราที่ผิดกฎหมาย”

 

ดังนั้น เมื่อพรรคการเมืองกำหนดนโยบายที่อาจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย จึงเป็นหน้าที่ของ กกต. / นายทะเบียนพรรคการเมือง ที่จะต้องสั่งให้ระงับยับยั้ง โดยดำเนินการบังคับใช้ตามม.22 แห่ง พรป.ว่า ด้วยพรรคการเมือง 2560 โดยเคร่งครัด โดยที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องวินิจฉัยให้เป็นข้อยุติว่า “เงินดิจิทัล” ในรูปเหรียญ (คูปอง) ที่พรรคเพื่อไทยใช้เป็นนโยบายหาเสียงแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตคนละ 10,000 บาท ให้กับคนไทยทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปนั้น ถือได้ว่าเป็น “วัตถุหรือเครื่องหมายใดๆแทนเงินตรา” ตาม ม.9 แห่งพระราชบัญญัติเงินตรา 2501 หรือไม่

 

หาก กกต.วินิจฉัยว่าเข้าข่าย พรรคเพื่อไทยก็จะต้องระงับการใช้นโยบายดังกล่าวโดยทันที และอาจมีความผิดตามมาตรา 73(5) แห่ง พรป.เลือกตั้ง ส.ส.2561 ฐานหลอกลวง หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคอาจต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกําหนด 20 ปีอีกด้วย นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ครั้งแรกอย่างยิ่งใหญ่! "ศุภมาส" ประกาศจัดงาน "อว. Job Fair 2025" เปลี่ยนความฝันให้เป็นอาชีพจริง เปิดรับสมัครงานสำหรับอาชีพยุคใหม่กว่า 150,000 อัตรา
"รองอ้อม ลลิตา" มั่นใจโค้งสุดท้าย คว้าชัยเลือกตั้งนายกเมืองป่าตอง
"สันติสุข" ชี้มั่วมากอ้างอำนาจ"ราชทัณฑ์" พา"ทักษิณ" นอนชั้น 14 ไม่เกี่ยวศาล ไล่ไปหามา เคสไหนเข้าคุกไม่ถึงคืน ออกไปพักห้องหรู รพ.ตร.
"นฤมล" แจงผลสำเร็จโครงการจ้างแรงงานชลประทาน กระจายรายได้เกษตรกร ลุยเป้าหมายให้ครบกว่า 8 หมื่นตน
ตร.รวบมือปาหินใส่รถ "ย่านบางนา-ตราด" พร้อมคุมตัวทำแผน อึ้งสารภาพเคยก่อเหตุมาแล้ว 12 ครั้ง
"น.1" สั่งล่า 2 มือปืนก่อเหตุอุกอาจ บุกยิงหนุ่มเพิ่งพ้นคุก 9 นัด ดับสลด
"เทพไท" เชื่อถ้าศาลฏีกาฯไต่สวนครบ 5 ประเด็น จากปากพยานสำคัญ รวม"วิษณุ" มั่นใจ "ทักษิณ" ต้องกลับนอนคุกจริงๆ
"เสธ.ต๊อด" ยันเอกสารกอ.รมน. ไร้เนื้อหากล่าวหา "อนุทิน" แอบอ้างสถาบันฯ เจ้าตัวโพสต์ติงสื่ออย่าออกข่าวชุ่ยๆ อย่าดึงฟ้าลงต่ำ
ผู้ว่าตราดเปิดโครงการ เทศกาลเรือใบ ดันตราดศูนย์กลางเมืองเรือใบและกิจกรรมทางทะเลเชื่อมโลก เผยสร้างรายได้ท่องเที่ยวยั้งยืน
ดีอี เตือน ข่าวปลอม “จะเกิดแผ่นดินไหวที่ภาคอีสาน” หลอกลวงให้ ปชช.ตื่นตระหนก- เข้าใจผิด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น