“ชูวิทย์” เดินหน้าฟ้อง “ทนายตั้ม” เรียก 100 ล้าน หลังหมิ่นประมาทปมถุงเงิน 6 ล้าน

"ชูวิทย์" เดินหน้าฟ้อง "ทนายตั้ม" เรียก 100 ล้าน หลังหมิ่นประมาทปมถุงเงิน 6 ล้าน ยันไม่อโหสิกรรมให้ กร้าวหากชนะคดีต้องลงโฆษณาขอโทษ 7 วัน ผ่าน 45 สื่อ

7 เม.ย.66 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมด้วยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เดินทางมายื่นฟ้องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ที่ศาลอาญารัชดา สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 มี.ค.66 ทนายตั้ม ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลายสำนัก และมีการเผยแพร่ไปสู่ประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และต่อมาวันที่ 24-27 มี.ค.66 ทนายตั้มยังมีการแถลงข่าวอีก ซึ่งการสัมภาษณ์ดังกล่าวทนายตั้มไม่ได้มีการมีส่วนได้เสียกับนายชูวิทย์ และมีอาชีพเป็นทนายความ ไม่มีอำนาจหน้าที่และเหตุผลที่จะมาแถลงข่าวเป็นการประจานนายชูวิทย์ ซึ่งการแถลงข่าวดังกล่าวมีการนำภาพที่เสมือนยืนยันข้อเท็จจริงว่าสิ่งที่เขาแถลงนั้นเป็นความจริง

 

 

 

ส่วนเนื้อข่าวสรุป คือ นายชูวิทย์ รับเงินจากเว็บการพนัน 10 ล้านบาท ไม่ใช่ 6 ล้านบาท และไม่ใช่รับจากสารวัตรซัว แต่รับจากบุคคลอื่น แล้วยังระบุอีกว่า การกระทำของนายชูวิทย์ ลักษณะนี้มีการทำบ่อย และทำมาหลายครั้งหลายหน ทั้งพาดพิงไปถึงบุตรชาย ซึ่งคือกล่องดวงใจของนายชูวิทย์ ว่า มีการรับเงินจากบ่อนการพนัน รวมถึงนายแทนไท ที่มีการเดินทางมาที่โรงแรมเดอะเดวิส เหมือนมีการตบทรัพย์ เพื่อไม่ให้เปิดเผยข้อมูลของนายแทนไท ทั้งยังกล่าวทิ้งท้ายว่านายชูวิทย์เป็นโลบินฮู้ด หรือการปล้นเงินคนรวยมาให้คนจน หรือในที่นี้หมายถึงเอาเงินจากเว็บการพนันที่ผิดกฎหมายไปบริจาค ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายเสื่อมเสียเกียรติคุณการทำมาหาได้แก่นายชูวิทย์ ดังนั้นจึงมีการมาเรียกร้องความเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ เป็นการฟ้องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จะมีต่างกรรมต่างวาระ ตั้งแต่วันที่มีการแถลงข่าว ตั้งแต่ 23-27 มี.ค.66 และให้ลงโฆษณาคำพิพากษาคำขอโทษ ต่อสื่อมวลชน โดยให้ทนายตั้ม เป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เป็นเวลา 7 วัน ผ่านสื่อโทรทัศน์ 10 ช่อง หนังสือพิมพ์ 14 ฉบับ และสื่ออนไลน์ 21 สื่อ รวม 45 สื่อ โดยศาลได้รับฟ้อง และนัดไต่สวนวันที่ 19 มิถุนายน 2566 เวลา 13.00 น.

 

 

 

นายอนันต์ชัย กล่าวว่า นอกจากการกระทำผิดของทนายตั้ง ยังเข้าข่าวผิดมรรยาททนายตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 ว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 ข้อ 18 ที่ระบุว่า ประกอบอาชีพดำเนินธุรกิจหรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศิลธรรมอันดีหรือการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ โดยเดินทางไปยื่นในวันจันทร์ที่ 10 เม.ย. ประมาณ 10.00 น. เพื่อให้สอบเรื่องมารยาททนายขั้นสูงสุด ซึ่งมีโทษลบชื่อออกจากการเป็นทนายความ

 

 

 

 

เมื่อถามว่า ทนายตั้ม เคยระบุว่าขอให้นายชูวิทย์ อย่าฟ้องร้อง เนื่องจากไม่มีเงินมาจ่าย นายชูวิทย์ กล่าวว่า ทนายตั้มไม่ได้มีความจริงใจ ใช้สื่อเป็นเครื่องมือ และหาลูกความโดยวิธีการแปลก ๆ ทั้งนี้เขาต้องเรียนรู้คุณธรรมให้ดีในอาชีพทนายความ ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องใช้คุณธรรมอย่างสูง การที่เขาร่ำรวยขึ้นมา ตนก็ไม่เคยไปยุ่งไม่ว่าจะใส่นาฬิกาเรือนละ 6 ล้านบาท จนกระทั่งเขามายุ่งกับตน ทั้งนี้แม้ว่ารูปคดีความจะเป็นผลบวกตน จะอโหสิกรรมหรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า คงจะทำแบบนั้นไม่ได้ หากได้เงินมา ตนจะนำไปทำบุญ และยืนยันว่าจะไม่ใช้แม้แต่บาทเดียว ทั้งนี้ตนเองขึ้นสวรรค์ไปแล้ว แต่โดนกระชากลงมา

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ด่วน! เกิดเหตุเรือโดยสาร ท้องเรือแตกกลางทะเล ขณะกลับจากเกาะกูด นักท่องเที่ยวกว่า 97 ชีวิตระทึก
งานศพถูกน้ำท่วมหนัก อำเภอสั่งตรวจสอบและแก้ปัญหาเร่งด่วน
สตูล-เมืองคอนอ่วม! ฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนปชช. ชาวบ้านเร่งขนของขึ้นที่สูง
"ผบ.ฉก.นาวิกโยธินตราด" เมินข่าวกัมพูชาส่งทหาร BHQ ประชิดชายแดน ชี้สร้างข่าวให้ฝ่ายไทยกลัว ยันไทยพร้อมขั้นสูงสุด
AOT เดินหน้าดูแลชุมชนต่อเนื่องปีที่ 8 มอบเครื่องช่วยฟังแก่ประชาชนรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ผู้การโคราช นำร่องผนึกกำลังเปิดยุทธการ ตำรวจอาสา ป้องกันยาเสพติดอาชญากรรม ระดมชุมชนสู้ภัยครั้งใหญ่ หลังสถิติอาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​