เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 12 สิงหาคม 2564 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผบก.ก.1 พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคุมตัว นาย กวินภพ หอมดวง อายุ 18 ปี ผู้ต้องหา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณ คลองบางพระครู ม.3 ต.ตาลเอน อ. บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มารอดูใบหน้าคนร้านในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแฟนหนุ่ม ครอบครัว ญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต
จากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดและเก็บรวบรวมหลักฐานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ทำการเก็บ ดีเอ็นเอ กลุ่มเป้าหมายเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับ ดีเอ็นเอ ในที่เกิดเหตุ ต่อมา กองพิสูจน์หลักฐานได้แจ้งผลการเปรียบเทียบทางนิติวิทยาศาสตร์วัตถุพยานในที่เกิดเหตุ พบว่ามีดีเอ็นเอ ตรงกับ ดีเอ็นเอ ที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เก็บจากบุคคลกลุ่มเป้าหมาย พบว่าตรงกับ ดีเอ็นเอ ของนายกวินภพ หอมดวง อายุ 18 ปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อออกหมายจับตามหมายจับที่ จ.200/2564 ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ในความผิดฐาน “ ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่น ถึงแก่ความตาย,ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและซ่อนเร้น,ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปกปิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย ” ได้ที่แคมป์พักคนงานก่อสร้างห่างจากจุดพบศพ 1 กิโลเมตร
จากการทำแผนจุดทิ้งศพ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้กระทำความผิดจริงและได้ทำการตรวจยึดของการที่ได้จากการกระทำความผิด ตามคำให้การของผู้ต้องหา 1.สร้อยคอทองคำ 2.รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ 3.เครื่องแต่งกายที่ใช้ในการก่อเหตุ มูลเหตุจูงใจ ผู้ต้องหารับว่า มาดักรอหลังจากได้ดื่มสุราตั้งแต่หลังเลิกงานช่วงเย็น อยู่ที่พักคนงาน
จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ออกมาดูรถแม๊กโค ของงานที่ตนเองทำ ก่อนขับรถจักรยานยนต์ จอดที่เนินดินใกล้แคมป์คนงานซึ่งติดกับถนน เห็นผู้ตายซึ่งขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านมาตามท้องถนน มาโดยลำพังผู้เดียวจึงขี่รถไล่ตาม เพื่อประสงค์ที่จะชิงทรัพย์ โดยใช้เท้าถีบให้รถล้ม แต่เมื่อเห็นว่าเป็นผู้หญิง จึงประสงค์ที่จะล่วงละเมิดทางเพศ ผู้ต้องหาจึงได้บังคับพาตัวไปโดยลักษณะให้คร่อมรถจักรยานยนต์อยู่หน้าผู้ต้องหา และพาไปยังจุดเปลี่ยว ซึ่งผู้ต้องหามีความคุ้นเคยในละแวกดังกล่าว โดยในขณะลงมือบังคับให้ถอดกางเกง เหยื่อ ขัดขืน ผู้ต้องหาจึงใช้กางเกงที่ถอดรัดคอ ก้อนใช้หินทุบที่ศีรษะจนเหยื่อแน่นิ่ง จากนั้นถอดเสื้อเห็นทองกับโทรศัพท์ จึงหยิบใส่กระเป๋าคาดเอวของตนเองก่อนจับ ขาขวาผู้ตายเหวี่ยงร่างลงไปในคลอง ก่อนเผาทำลายหลักฐานแหละหลบหนีไป
ขณะทำแผนเสร็จกำลังคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ปรากฏว่า ชาวบ้านจำนวนมากแห่กรูกันเข้ามาพยายามจะทำร้ายผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ต้องป้องกันกันอย่างชุลมุนวุ่นวาย โดยขณะทำแผนสามีผู้ตายก็มารอดูใบหน้าของคนร้าย อยู่ในอาการเงียบครึม ตลอดการทำแผน
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ หลายภาคส่วนรวมมือรวมใจกันจนสามารถจับคนร้ายรายนี้ได้สำเร็จ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ น่าจะเกิดจากการที่ดื่มสุราเข้าไป ซึ่งเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้นต้องขอแสดงความเสียใจ กับครอบครัว
ทางด้าน นายกวินภพ ผู้ต้องหา พูดสั้นของโทษและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับครอบครัวผู้เสียชีวิต ตนยอมรับผิดในสิ่งที่ตนเองทำในครั้งนี้ วอนขอทางครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างตามราวีกับครอบครัวของตน เพราะคนอื่นไม่มีใครรู้เรื่องด้วย
