“เจ๊จุก” ซัดก๊วน 3 นิ้ว ปั่นกระแสมือพ่นกำแพงวัดพระแก้ว แต่รูดซิปปาก ข่าว “เด็กก้าวไกล” ถูกจับโกง

“เจ๊จุก” ซัดก๊วน 3 นิ้ว ปั่นกระแสมือพ่นกำแพงวัดพระแก้ว แต่รูดซิปปาก ข่าว "เด็กก้าวไกล" ถูกจับโกง

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายศุทธวีร์ สร้อยคำ หรือบังเอิญ อายุ 24 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ขณะกำลังพ่นสีสเปรย์สีดำใส่รั้ว วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.น.6 เพื่อสอบปากคำ

โดยในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำบันทึกจับกุมเสร็จแล้วได้แจ้ง 2 ข้อหาแก่ผู้ที่ถูกจับ ดังนี้

1. พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 32 ผู้ใดบุกรุกโบราณสถาน หรือทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งโบราณสถาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 700,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำต่อโบราณสถานที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

2. พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ 2535 มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใด ขูด กระเทาะ ขีด เขียน พ่นสี หรือทำให้ปรากฏด้วยประการใดๆ ซึ่งข้อความ ภาพ หรือรูปรอยใดๆ ที่กำแพงที่ติดกับถนน บนถนน ที่ต้นไม้ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารที่อยู่ติดกับถนนหรืออยู่ในที่สาธารณะ เว้นแต่จะเป็นการกระทำของราชการส่วนท้องถิ่น ราชการส่วนอื่น หรือรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานที่มีอำนาจกระทำได้ และถ้าฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ทั้งนี้พบว่ายังไม่มีการแจ้งข้อหามาตรา 112 แต่อย่างใด

ล่าสุด วันนี้ ทวิตเตอร์เจ๊จุก คลองสาม ทวิตภาพนายอดิศักดิ์ สมบัติคำ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มหาสารคาม พรรคก้าวไกล พร้อมระบุข้อความว่า อย่าปล่อยให้เรื่องการพ่นสีกำแพง มากลบข่าว ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล โดนจับโกงนะคะ จ่าตาซึ่งเป็นอดีตทหารเรือ เคยเรียกร้องให้ตรวจสอบงบสถาบัน โครงการโคกหนองนา การซื้อขาย ส.ส. แต่สุดท้ายถ้ากลับทำเสียเอง จะให้ประชาชนเชื่อถือพรรคนี้ได้อย่างไร อย่าดีแต่พูด

สำหรับนายอดิศักดิ์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมพร้อมกับนายดาชัย เอกปฐพี ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดลำปาง ในคดีตามหมายจับศาลอาญา ฐานเป็นขบวนการทุจริตสอบคัดเลือกตำรวจสายอำนวยการ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวได้จำนวน 15 ราย จากผู้ต้องทั้งหมดที่มีการออกหมายจับ 18 ราย ความผิด “เป็นอั้งยี่ และ เอาไปเสียซึ่งเอกสารในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

โดยในวันนี้ เวลา 14 นาฬิกา ตำรวจสอบสวนกลาง จะจัดแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดการจับกุมและความคืบหน้าทางคดีอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยมี พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ร่วมทำการสอบปากคำผู้ต้องหา และ เป็นประธานแถลงข่าวด้วยตนเอง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดมอบทุนการศึกษา
"แพทองธาร" โต้ข่าวส่งวัตถุโบราณคืนเขมร ยันไม่จริง จ่อเอาผิดคนปล่อยเฟกนิวส์
"หมอวรงค์-หมอตุลย์" คาใจขั้นตอนส่งตัว "ทักษิณ" ไม่ปกติ แพทย์เวรเลือกไปรพ.ตร. ใช้เวลา 2 ชม. ทั้งๆอ้างเหตุฉุกเฉิน
"ภูมิธรรม" มั่นใจนายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่ทำขรก.เกียร์ว่าง รัฐมนตรีพร้อมทำงานเต็มที่
"ส.ป.ก.นครสวรรค์" ชูต้นแบบเกษตรกรรมยั่งยืน รณรงค์หยุดการเผาในที่โล่ง แก้ปัญหา PM 2.5 อย่างยั่งยืน
"ทนายทักษิณ" ขอศาลออกข้อกำหนด งดเผยแพร่คำเบิกความ คดีชั้น 14 อ้างกลัวถูกนำสร้างความสับสน
ผู้ว่าฯหนองบัวลำภู ชวนปชช.-นักท่องเที่ยว ร่วมชม ชิม ช้อป สัมผัสมนต์เสน่ห์อีสานขนานแท้ ในงาน “เปิดบ้าน เปิดเมือง เกษตรแฟร์ ของดีเมืองลุ่มภู” 16-20 ก.ค.นี้
รวบหนุ่มจีนอ้างเป็นเหยื่อแก๊งคอลฯ
"ปภ.เชียงราย" แจ้ง ระดับ "แม่น้ำสาย" เพิ่มสูง เตือนปชช. เฝ้าระวังน้ำท่วม แนะเก็บของขึ้นที่สูง
ทหารฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ สกัดจับรถตู้ขนต่างด้าว หนีเข้าเมือง 36 ราย คนขับสารภาพสิ้น ได้เงินค่าจ้าง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น