13 ชีวิตต้องอยู่แบบมืดๆ หนีผึ้งหลวงที่ออกมาเล่นไฟ เด็กที่เคยวิ่งเล่น นั่งดูทีวี ทำการบ้าน ต่างรีบเข้ามุ้งนอนแต่หัวค่ำ

13 ชีวิตต้องอยู่แบบมืดๆ หนีผึ้งหลวงที่ออกมาเล่นไฟ เด็กที่เคยวิ่งเล่น นั่งดูทีวี ทำการบ้าน ต่างรีบเข้ามุ้งนอนแต่หัวค่ำ

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านว่า ให้ช่วยกำจัดผึ้งหลวงที่มารบกวนชีวิตประจำวัน ไม่สามารถเปิดไฟส่องสว่างได้ หลังรับแจ้งจึงรีบจัดเตรียมอุปกรณ์ ประกอบไปด้วย น้ำมันเบนซิน ผ้าสำหรับชุบน้ำมัน ไฟฉาย ลวดสำหรับมัดผ้าชุบน้ำมันไม้ไผ่ จากนั้นจึงรีบเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 47 หมู่ 5 ต.หนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เมื่อมาถึงบ้านหลังดังกล่าวปิดไฟมืดสนิท รวมถึงห้องพักอาศัยหลังอื่นๆที่อยู่ใกล้ๆกัน ต่างก็ปิดไฟมืดสนิทเช่นกัน ได้พบกับนางสาวฐิติรัตน์ ปิโย อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านและเป็นผู้ขอความช่วยเหลือ ให้กู้ภัยมาช่วยกำจัดรังผึ้ง พร้อมกับชี้ตำแหน่งที่ผึ้งหลวงไปทำรังอยู่บนต้นข่อยความสูงจากพื้นดินประมาณ 8 เมตรต่อมาทางกู้ภัยได้เตรียมอุปกรณ์ที่เตรียมมา เอาผ้ามาพันปลายไม้ไผ่และมัดด้วยลวดอย่างแน่นหนา ก่อนชุบน้ำมันทำเป็นคบเพลิง ส่วนที่พื้นด้านล่างนำเอาผ้าชุบน้ำมันจุดไฟรอ

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วจึงจุดไฟนำคบเพลิงแหย่ไปบริเวณรังของผึ้ง เมื่อผึ้งโดนความร้อนต่างก็บินหนี และจำนวนไม่น้อยที่ถูกไฟลนและร่วงลงมายังพื้นข้างล่างก็เสียชีวิตบนกองไฟ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงสามารถทำลายรังผึ้งหลวง ตัวผึ้งบินหนีหายไปหมดนางสาวฐิติรัตน์ เจ้าของบ้านเล่าว่า ผึ้งหลวงมาทำรังอยู่ห่างจากบ้านตนเองที่ความสูงประมาณ ตึกชั้นครึ่งมาได้ประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว รังผึ้งมีขนาดใหญ่ประมาณ 2 ฟุต กลางวันผึ้งได้ออกบินไปหาน้ำหวานบางส่วน แต่พอเวลามืดค่ำจะกลับมาที่ลังของมัน ตนเองกับสมาชิกในครอบครัวอยู่กันถึง 13 ชีวิต เด็ก 6 คน ผู้ใหญ่ 7 คน ใช้ชีวิตด้วยความลำบากเนื่องจากไม่สามารถเปิดไฟจากหลอดไฟส่องสว่างได้ เพราะทุกครั้งที่เปิดไฟ ฝูงผึ้งจะบินมาเป็นร้อยๆตัว ชนิดที่ว่าพอตะวันตกดิน

จะรีบกางมุ้ง แล้วให้เด็กๆเข้ามุ้งนอน จุดเทียนก็ไม่ได้ เปิดไฟฉายเปิดทีวี ดูข่าวดูละครก็ไม่ได้เพราะเกรงว่าผึ้งจะมาต่อย ต้องรอให้ถึงเช้าฝูงผึ้งถึงบินกลับเข้ารัง นางสาวฐิติรัตน์ยังกล่าวต่อไปอีกว่า เด็กๆเคยนั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือ ดูทีวีในเวลากลางคืน ต้องรีบเข้ามุ้งนอน ไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ได้อย่างไร จึงขอความช่วยเหลือ หวังว่าผึ้งถูกทำลายรังไปแล้วคงไม่กลับมาทำรังที่เดิมอีก ไม่เช่นนั้นแล้วคงได้ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากโดยเฉพาะเด็กๆถ้าถูกผึ้งต่อยคงเป็นอันตรายได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แม่ลูกขับรถฝ่าสายฝน เจอน้ำท่วมทาง รถตกถนนจมน้ำครึ่งคัน กู้ภัยดำน้ำช่วยลูกจมน้ำ ช่วยแม่รอดปลอดภัย
จับกุม 38 ชีวิต! ขบวนการลักลอบเข้าเมือง แอดมินเว็บพนัน-แรงงานข้ามชาติ-บัญชีม้า
กิจการพิเศษเมืองพัทยาคุมตัวหนุ่มน้อยรัสเซีย มือบอนพ่นสีสเปรย์ ใส่กำแพงสะพานแหลมบาลีฮายพัทยา
แม่ทัพภาคที่ 2 เข้าเยี่ยม "3 ทหารกล้า" ให้กำลังใจเหยียบกับดักบึ้ม ล่าสุดอาการปลอดภัย พ้นขีดอันตราย
จีนเล็งคุมสงครามรถอีวีที่ดุเดือดอย่าง ”ไร้เหตุผล”
สวนนงนุชพัทยา สร้างความสำเร็จระดับโลก ปลอก “มะพร้าวทะเล” หายาก 9 ลูก พบเมล็ดแฝดรวม 10 เมล็ด มูลค่าทะลุล้านบาท
ไม่รอด จนท.บุกรวบ "ชายชาวอเมริกัน" วัย 60 ปี คาสนามบินภูเก็ต ลอบขนเฮโรอีน หนัก 6.6 กิโล เตรียมบินไปเมืองน้ำหอม
เปิดไทม์ไลน์ ทหารกัมพูชา แอบสร้างสนามทุ่นระเบิดใหม่ “วาสนา นาน่วม” แฉ PMN-2 ไม่ใช่บึ้มเก่าตกค้าง
"อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 2" ซัด "กัมพูชา" ลอบวางบึ้ม เนิน 481 ทหารไทยลาดตระเวน พลาดเหยียบเจ็บ 3 ชี้เขมรผิดสัญญาออตตาวาซ้ำซาก
"ภูมิธรรม" เผย "สมเด็จพระสังฆราช" รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์ เพิ่มความเข้มงวด กำชับอย่าให้พระพุทธศาสนามีความเสื่อมเสีย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น