แม่บ้านรพ.รัฐ ร้องเรียนผ่าน Top News หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม อ้างแบกรับภาระงานเกินกำลัง ต้นสังกัดไม่ยอมทำสัญญาจ้าง
ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2568 ที่ผ่านมา กลุ่มแรงงานแม่บ้านร้องเรียนผ่านสถานีข่าวท็อปนิวส์ หลังไม่ได้รับความเป็นธรรม และรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลในการจัดจ้างทำความสะอาดภายในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง และความไม่แน่นอนในชีวิตของลูกจ้าง โดยเมื่อปี พ.ศ.2568 ทางโรงพยาบาลแห่งนี้ ได้ดำเนินการจัดจ้างโครงการประกวดราคาจ้างเหมา ทำความสะอาดอาคารภายในโรงพยาบาล โดยการจัดจ้างครั้งนี้ มีงบประมาณในการดำเนินการที่สูงขึ้น แต่รายละเอียดในเนื้องานที่จัดจ้างกลับมีการลดทอนสเปคงานให้ต่ำลงกว่ามาตรฐานเดิม จนเป็นที่น่าสงสัย
ต่อมาเมื่อมีการประกาศผู้ชนะในการประกวดราคาจ้างเหมาครั้งนี้ ก็เกิดปัญหา และมีการร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใส ในการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้ โดยมีบริษัทผู้ยื่นเสนอราคาอุทธรณ์ ผลการจัดจ้างตามระเบียบ ระหว่างนั้น โรงพยาบาลได้ชักชวนพนักงานทำความสะอาดซึ่งเป็น “ลูกจ้าง” ของบริษัทที่ชนะการประมูล ไปเป็นพนักงานบริการ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ทำความสะอาดภายในโรงพยาบาลเสียเอง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ทำให้พนักงานทำความสะอาดกลุ่มหนึ่ง สนใจและลาออกจากบริษัท เพื่อไปทำสัญญาจ้างกับทางโรงพยาบาล ด้วยความหวัง จะได้รับจ้างจากหน่วยราชการโดยตรง ซึ่งน่าจะทำให้มีความมั่นคงในหน้าที่การงานและชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
แต่เรื่องกลับตาลปัตร เพราะพนักงานทำความสะอาดเหล่านั้นกลับต้องมีภาระงานที่เพิ่มขึ้น ค่าตอบแทนที่โรงพยาบาลอ้างว่าจะจ่ายให้ ก็ต่ำลงกว่าตอนที่อยู่กับบริษัทเอกชน และไม่แน่ใจว่าจะได้รับเงินค่าจ้างตามที่ตกลงหรือไม่ เนื่องจากโรงพยาบาลซึ่งเป็นส่วนราชการไม่ยอมทำสัญญาจ้างและไม่ยอมทำคำสั่งบรรจุให้เป็นพนักงานตามระเบียบ ส่วนประกันสังคมก็ยังไม่ดำเนินการให้ครบถ้วนเรียบร้อย
ทีมข่าวท็อปนิวส์ ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับกลุ่มแรงงานแม่บ้าน โดย น.ส.สุวิสา (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี เปิดเผยข้อมูลว่า เดิมทีตนเป็นพนักงานตำแหน่งแม่บ้านของ บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ประมูลงานทำความสะอาดได้ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ที่ดำเนินการมากกว่า 20 ปี แต่หลังจากที่บริษัทต้นสังกัดของตนหมดสัญญาจ้างกับทางโรงพยาบาล ก็ได้รับการชักชวนให้มาสมัครทำงาน แต่ที่ต้องมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เนื่องจาก พบว่าต้องทำงานหนักมาก ก่อนหน้านี้เคยทำความสะอาด 1 ชั้น ต่อพนักงาน 2 คน กลับถูกเรียกให้ทำทุกห้องทุกชั้น จนรู้สึกเหน็ดเหนื่อยท้อแท้ใจเป็นอย่างมาก บางวันทำงานจนไม่ได้กินข้าว หรือล่วงเลยเวลาไปยันบ่ายจึงจะได้กินข้าว ทำงานแทบไม่ได้พัก ร่างกายเราก็ไม่ค่อยแข็งแรง บางทีทำความสะอาดทำงานมืออ่อนแรง หลังนี้ไม่รู้ว่าจะทำงานไหวหรือเปล่า ในใจตอนนี้คืออยากจะลาออก หนักมาก สู้ไม่ไหวจริง ๆ แต่ที่สู้มาก็คือสู้เพื่อลูก ลูกรอกินข้าว อีกทั้งสวัสดิการอะไร ประกันสังคมก็ไม่มีเลย
ทั้งนี้ นายชาย พนักงานอีกคน ซึ่งเป็นแรงงานชาวต่างด้าว ทำงานอยู่ในตำแหน่งพ่อบ้าน มีหน้าที่ทำความสะอาดด้วยเช่นกัน พูดภาษาไทยได้เพียงเล็กน้อย บอกกับทีมข่าวว่าส่วนตัวก็ไม่มั่นใจว่าการทำงานของตนนั้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ทั้งนี้ ทีมข่าวได้ตรวจสอบข้อมูล พบว่า กลุ่มแรงงานแม่บ้านเหล่านี้ เคยเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งประมูลงานทำความสะอาดภายในโรงพยาบาลนี้ได้มากว่า 20 ปี แต่หลังจากที่หมดสัญญาจ้างกับทางโรงพยาบาล มีการรายงานว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การทำความสะอาด และการกำจัดขยะติดเชื้อภายในโรงพยาบาล ได้ดำเนินการโดยการจัดจ้างให้บริษัททำความสะอาดที่มีประสบการณ์เข้ามาดำเนินการเป็นรายปี จนเป็นที่ของการจัดประกวดราคาจ้างเหมาทำความสะอาดที่เกิดข้อกังขาถึงความไม่โปร่งใส จนมีการอุทธรณ์คำตัดสิน จนทางโรงพยาบาลขาดบุคคลากรที่จะมารับผิดชอบดูแลงานด้านนี้ จนต้องใช้วิธีกล่อมพนักงานบริษัทคู่กรณีไปเป็นลูกจ้างกับทางโรงพยาบาล แต่เนื่องจากจำนวนบุคคลากรไม่เพียงพอรองรับภาระงาน จึงทำให้กลุ่มแม่บ้านพ่อบ้านเหล่านี้ ต้องรับภาระงานที่หนักขึ้น จนเกิดอาการเหนื่อยล้าเป็นที่มาของการร้องเรียนมายังสำนักข่าวท็อปนิวส์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น