ICC ออกหมายจับปูติน ฐานก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน

ศาลอาญาระหว่างประเทศ ออกหมายจับปูติน ฐานก่ออาชญากรรม กับการเนรเทศเด็กออกจากยูเครน

นายปิโอเตอร์ ฮอฟมันสกี ประธานศาลอาญาระหว่างประเทศ (หรือ ICC) ได้ออกมาประกาศว่า ICC ได้ตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานที่อัยการส่งมาและตัดสินว่า มีข้อกล่าวหาที่น่าเชื่อถือ ผู้พิพากษาจึงออกหมายจับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ฐานก่ออาชญากรรมในยูเครน ด้วยการเนรเทศเด็กออกจากยูเครน นอกจากนี้ ICC ยังได้ออกหมายจับนางมาเรีย ลิโวว่า-เบโลว่า กรรมาธิการสิทธิเด็กของรัสเซียในข้อหาเดียวกันด้วย สำหรับหมายจับครั้งนี้ ทำให้กลุ่มประเทศสมาชิก 123 ประเทศของ ICC สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทันทีที่เข้าไปยังประเทศสมาชิก แล้วส่งให้ ICC ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ดี ทั้งรัสเซียและยูเครนไม่ได้เป็นสมาชิกของ ICC และ ICC ก็ไม่ได้มีกองกำลังตำรวจของตัวเอง แต่ต้องใช้กำลังของประเทศสมาชิกในการจับกุมและคุมขัง

ในรายละเอียดของข้อกล่าวหานั้น นายคาริม ข่าน หัวหน้าอัยการ ICC ผู้ซึ่งเปิดการสอบสวนข้อกล่าวหาอาชญากรสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติในยูเครน เพียงไม่กี่วันหลังจากการรุกรานของรัสเซีย ได้กล่าวว่า แก่นของข้อกล่าวหาคือ เด็กยูเครนถูกเนรเทศหรือย้ายออกจากบางพื้นที่ของยูเครน ไปยังสหพันธรัฐรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย เด็กๆถูกนำตัวเข้าไปในสหพันธรัฐรัสเซีย และตกเป็นลูกบุญธรรมด้วยกฎหมายที่ผ่านโดยประธานาธิบดี พวกเขาต้องเรียนรู้ภาษารัสเซีย ไม่ใช่ภาษายูเครน และพวกเขาถูกเปลี่ยนเป็นพลเมืองรัสเซีย นี่เป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 4 อย่างชัดเจน จน ICC ต้องก้าวเข้ามาเกี่ยวข้อง สำหรับตัวของข่านนั้น ได้เคยไปเยือนยูเครนหลายครั้ง และเยี่ยมพื้นที่ต่างๆ ร่วมกับอัยการสูงสุดของยูเครน

ทั้งนี้ ยูเครนได้เคยรายงานว่า มีเด็กมากกว่า 16,000 คน ถูกย้ายออกจากยูเครน เพื่อไปยังรัสเซีย หรือดินแดนที่รัสเซียยึดครองในยูเครน เช่น ไครเมีย อย่างผิดกฎหมาย สอดคล้องกับที่ทางสหรัฐโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยล ได้รายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า รัสเซียได้ดูแลเด็กยูเครนอย่างน้อย 6 พันคนในสถานที่ต่างๆ ของไครเมีย โดยมีค่ายอย่างน้อย 43 แห่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ไว้ดูแลเด็กๆชาวยูเครน แต่สื่อสหรัฐอย่างนิวยอร์กไทม์รายงานว่า เด็กยูเครนหลายคน ถูกบังคับ และถูกหลอกลวง ให้ไปอยู่ภายใต้ความพยายามตั้งถิ่นฐานใหม่อย่างเป็นระบบของรัสเซีย

อย่างไรก็ดี ทางด้านของรัสเซียนั้น ก็ไม่ได้มีการปิดบังโครงการที่นำเด็กยูเครนไปยังรัสเซียแต่อย่างใด และให้เหตุผลในโครงการดังกล่าวว่าเป็นเรื่องด้านมนุษยธรรม เพื่อการปกป้องเด็กกำพร้าและเด็กที่ถูกทอดทิ้ง ในเขตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มาหนักอีกแน่ อุตุฯเตือน 18 จังหวัด รับมือฝนถล่ม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.ก็ไม่รอด เจอฝนอ่วม
"โอปอล สุชาตา" ทำได้ สร้างประวัติศาสตร์ คว้ามงกุฎ Miss World 2025 ให้ไทยเป็นครั้งแรก
ตำรวจเร่งคลี่ปม กลุ่มชาวจีนชักปืนยิงใส่กัน มือปืนยังปิดปากเงียบ
ระทึก ! กลุ่มชาวจีนสาดกระสุนใส่กันได้รับบาดเจ็บ ตำรวจล้อมจับมือปืน
สมุทรสาครรับซื้อปลาหมอคางดำ 16 วัน ยอดทะลุ 450 ตัน โควต้าเต็มแล้ว 4 แพ
"พิพัฒน์" แจงแผนใช้งบฯ69 รุกเดินหน้าพัฒนาไอที สร้างอนาคตแรงงาน AI Semi Conductor ยกระดับศักยภาพการทำงานครบวงจร
"ชาดา" จัดหนักงบฯ 69 ทุ่มลงทุนก่อสร้างกว่า 4.7 แสนล้าน ไม่ใช่กระตุ้นศก. แต่ยิ่งสร้างช่องว่างคนรวยคนจน
"กล้าธรรม" โชว์ผลงาน 6 เดือน " นฤมล" คุม "ก.เกษตรฯ" ขับเคลื่อนกว่า 983 โครงการพระราชดำริ ยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มรายได้เกษตรกร สร้างอนาคตชีวิตยั่งยืน
"โฆษกทบ." แจงปิดด่านไทย-กัมพูชา ชี้อยู่ในแผน หากมีความเสี่ยงสูง
สพฐ. เร่งประสานดูแลเด็กพิเศษ เน้นย้ำเด็กต้องได้รับสิทธิ สวัสดิการ เข้าถึงการศึกษาครบทุกคน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น